บลจ.นครหลวงไทยประกาศจ่ายปันผล 2 กองทุนพร็อพเพอร์ตี้ฟันด์ "SPF - URBNPF" อัตรา 0.2506บาท/หน่วย และ 0.20 บาท/หน่วย ในวันที่ 10 มิถุนายนนี้ แม้กองทุนรวมอสังหาฯสนามบินสมุยจะทำผลงานไม่สวย กำไรหดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนกว่า 89.96% ขณะที่กองทุนรวมสิทธิการเช่าเออร์บานาฟันกำไรไตรมาสแรกกว่า 74.20 ล้านบาท
นายวรนนท์ อัศวกิตติเมธิน ผู้จัดการกองทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) นครหลวงไทย จำกัด ในฐานะบริษัทจัดการกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์สนามบินสมุย (SPF) เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานของกองทุนประจำไตรมาสที่ 1 สิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2551 ว่า กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์สนามบินสมุยมีผลกำไรสุทธิ 193.24 ล้านบาท คิดเป็นผลกำไรสุทธิ 0.2034 บาทต่อหุ้น ปรับตัวลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีผลกำไรสุทธิ 1,925.76 ล้านบาท กว่า 1,732.52 ล้านบาท หรือ 89.96%
นอกจากนี้บริษัทจัดการจะทำการจ่ายเงินปันผลจากผลการดำเนินงานระหว่างวันที่ 1 มกราคม 2551 ถึงวันที่ 31 มีนาคม 2551 ในอัตราหน่วยละ 0.2506 บาท โดยบริษัทกำหนดจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหน่วยลงทุนในวันที่ 10 มิถุนายน 2551 และจะทำการปิดสมุดทะเบียนพักการโอนหน่วยลงทุน เพื่อสิทธิในการรับเงินปันผลในวันที่ 29 พฤษภาคม 2551 เวลา 12.00 น.
กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์สนามบินสมุย เป็นกองทุนอสังหาริมทรัพย์ที่มีนโยบายการลงทุนในสนามบินเกาะสมุยของบริษัท การบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือสายการบินบางกอกแอร์เวย์ส มูลค่าโครงการ 10,500 ล้านบาท โดยเป็นสัญญาเช่า 30 ปี และกองทุนจะให้บางกอกแอร์เวย์เช่ากลับไปเพื่อให้ใช้บริการลูกค้า (เป็นสัญญาเช่ารอง หรือ lease and leaseback) โดยมีการแบ่งปันผลประโยชน์ในรูปของค่าเช่าและการแบ่งปันผลกำไรในรูปของ Profit Sharing ซึ่งจะทำให้กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์สนามบินสมุยมีรายได้มาจาก ในส่วนของค่าเช่าสนามบิน ที่บางกอกแอร์เวย์ส จะต้องจ่ายขั้นต่ำให้แก่กองทุนเฉลี่ย 6% ของจำนวนเงินทุนในโครงการ หรือเทียบเท่ากับค่าเช่าและค่าบริการที่กองทุนดังกล่าวจะได้รับในระยะเวลา 12 เดือน ขณะเดียวกันกองทุนมีนโยบายจ่ายเงินปันผลถึง 4 ครั้งต่อปี โดยไม่น้อยกว่า 90% ของกำไรสุทธิ
ล่าสุดวานนี้ (15 พ.ย.51) ราคาของกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์สนามบินสมุย ปิดที่ 9.00 บาท ไม่เปลี่ยนแปลงจากวันก่อน มีมูลค่าการซื้อขาย 16.92 ล้านบาท และมีมูลค่าหน่วยลงทุน ณ วันที่ 31 มี.ค.ที่ 11.8734 บาท มูลค่าทรัพย์สินสุทธิ 11,279,731,621.24 บาท
ขณะเดียวกัน นายวรนนท์ เปิดเผยต่อว่า บริษัทในฐานะบริษัทจัดการของกองทุนรวมสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์เออร์บานา (URBNPF) ขอแจ้งผลการดำเนินงานของกองทุนประจำไตรมาส 1 สิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2551 ว่ากองทุนมีผลกำไรสุทธิ 74.20 ล้านบาท คิดเป็นผลกำไรสุทธิต่อหุ้น 1.03 บาทต่อหุ้น โดยกองทุนได้กำหนดจ่ายปันผลจากผลดำเนินการงวดดังกล่าวในอัตรา 0.20 บาท โดยกำหนดจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหน่วยลงทุนในวันที่ 10 มิถุนายน 2551 ซึ่งจะกำหนดวันปิดสมุดทะเบียนพักการโอนหน่วยลงทุน เพื่อสิทธิในการรับเงินปันผลในวันที่ 29 พฤษภาคม 2551 เวลา 12.00 น.
กองทุนรวมสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์เออร์บานา เป็นกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ที่มุ่งลงทุนในสิทธิการเช่าในโครงการเออร์บานา หลังสวน จำนวน 128 ห้อง เพื่อจัดหาผลประโยชน์ในรูปแบบธุรกิจเซอร์วิสอพาร์ตเมนต์และธุรกิจโรงแรม โดยกองทุนดังกล่าวเป็นกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ประเภทไม่รับซื้อคืนหน่วยลงทุน และเป็นกองทุนรวมที่ระบุเฉพาะเจาะจง โดยมีนโยบายการจ่ายเงินปันผลไม่เกินปีละ 4 ครั้ง ในกรณีที่กองทุนรวมมีกำไรสุทธิในแต่ละปีบริษัทจัดการจะจ่ายเงินปันผลแก่ผู้ถือหน่วยลงทุนไม่น้อยกว่า 90% ของกำไรสุทธิประจำปี
ขณะเดียวกันราคาของหลักททรัพย์ของ URBNPF ปิดวานนี้ (15 พ.ค.51) ที่ 10.00 บาท ไม่เปลี่ยนแปลงจากวันก่อน มีมูลค่าการซื้อขาย 16.92 ล้านบาท และมีมูลค่าหน่วยลงทุน ณ วันที่ 31 มี.ค. ที่ 11.0276 บาท มูลค่าทรัพย์สินสุทธิ 793,988,382.61 บาท
นายวรนนท์ อัศวกิตติเมธิน ผู้จัดการกองทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) นครหลวงไทย จำกัด ในฐานะบริษัทจัดการกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์สนามบินสมุย (SPF) เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานของกองทุนประจำไตรมาสที่ 1 สิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2551 ว่า กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์สนามบินสมุยมีผลกำไรสุทธิ 193.24 ล้านบาท คิดเป็นผลกำไรสุทธิ 0.2034 บาทต่อหุ้น ปรับตัวลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีผลกำไรสุทธิ 1,925.76 ล้านบาท กว่า 1,732.52 ล้านบาท หรือ 89.96%
นอกจากนี้บริษัทจัดการจะทำการจ่ายเงินปันผลจากผลการดำเนินงานระหว่างวันที่ 1 มกราคม 2551 ถึงวันที่ 31 มีนาคม 2551 ในอัตราหน่วยละ 0.2506 บาท โดยบริษัทกำหนดจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหน่วยลงทุนในวันที่ 10 มิถุนายน 2551 และจะทำการปิดสมุดทะเบียนพักการโอนหน่วยลงทุน เพื่อสิทธิในการรับเงินปันผลในวันที่ 29 พฤษภาคม 2551 เวลา 12.00 น.
กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์สนามบินสมุย เป็นกองทุนอสังหาริมทรัพย์ที่มีนโยบายการลงทุนในสนามบินเกาะสมุยของบริษัท การบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือสายการบินบางกอกแอร์เวย์ส มูลค่าโครงการ 10,500 ล้านบาท โดยเป็นสัญญาเช่า 30 ปี และกองทุนจะให้บางกอกแอร์เวย์เช่ากลับไปเพื่อให้ใช้บริการลูกค้า (เป็นสัญญาเช่ารอง หรือ lease and leaseback) โดยมีการแบ่งปันผลประโยชน์ในรูปของค่าเช่าและการแบ่งปันผลกำไรในรูปของ Profit Sharing ซึ่งจะทำให้กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์สนามบินสมุยมีรายได้มาจาก ในส่วนของค่าเช่าสนามบิน ที่บางกอกแอร์เวย์ส จะต้องจ่ายขั้นต่ำให้แก่กองทุนเฉลี่ย 6% ของจำนวนเงินทุนในโครงการ หรือเทียบเท่ากับค่าเช่าและค่าบริการที่กองทุนดังกล่าวจะได้รับในระยะเวลา 12 เดือน ขณะเดียวกันกองทุนมีนโยบายจ่ายเงินปันผลถึง 4 ครั้งต่อปี โดยไม่น้อยกว่า 90% ของกำไรสุทธิ
ล่าสุดวานนี้ (15 พ.ย.51) ราคาของกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์สนามบินสมุย ปิดที่ 9.00 บาท ไม่เปลี่ยนแปลงจากวันก่อน มีมูลค่าการซื้อขาย 16.92 ล้านบาท และมีมูลค่าหน่วยลงทุน ณ วันที่ 31 มี.ค.ที่ 11.8734 บาท มูลค่าทรัพย์สินสุทธิ 11,279,731,621.24 บาท
ขณะเดียวกัน นายวรนนท์ เปิดเผยต่อว่า บริษัทในฐานะบริษัทจัดการของกองทุนรวมสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์เออร์บานา (URBNPF) ขอแจ้งผลการดำเนินงานของกองทุนประจำไตรมาส 1 สิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2551 ว่ากองทุนมีผลกำไรสุทธิ 74.20 ล้านบาท คิดเป็นผลกำไรสุทธิต่อหุ้น 1.03 บาทต่อหุ้น โดยกองทุนได้กำหนดจ่ายปันผลจากผลดำเนินการงวดดังกล่าวในอัตรา 0.20 บาท โดยกำหนดจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหน่วยลงทุนในวันที่ 10 มิถุนายน 2551 ซึ่งจะกำหนดวันปิดสมุดทะเบียนพักการโอนหน่วยลงทุน เพื่อสิทธิในการรับเงินปันผลในวันที่ 29 พฤษภาคม 2551 เวลา 12.00 น.
กองทุนรวมสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์เออร์บานา เป็นกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ที่มุ่งลงทุนในสิทธิการเช่าในโครงการเออร์บานา หลังสวน จำนวน 128 ห้อง เพื่อจัดหาผลประโยชน์ในรูปแบบธุรกิจเซอร์วิสอพาร์ตเมนต์และธุรกิจโรงแรม โดยกองทุนดังกล่าวเป็นกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ประเภทไม่รับซื้อคืนหน่วยลงทุน และเป็นกองทุนรวมที่ระบุเฉพาะเจาะจง โดยมีนโยบายการจ่ายเงินปันผลไม่เกินปีละ 4 ครั้ง ในกรณีที่กองทุนรวมมีกำไรสุทธิในแต่ละปีบริษัทจัดการจะจ่ายเงินปันผลแก่ผู้ถือหน่วยลงทุนไม่น้อยกว่า 90% ของกำไรสุทธิประจำปี
ขณะเดียวกันราคาของหลักททรัพย์ของ URBNPF ปิดวานนี้ (15 พ.ค.51) ที่ 10.00 บาท ไม่เปลี่ยนแปลงจากวันก่อน มีมูลค่าการซื้อขาย 16.92 ล้านบาท และมีมูลค่าหน่วยลงทุน ณ วันที่ 31 มี.ค. ที่ 11.0276 บาท มูลค่าทรัพย์สินสุทธิ 793,988,382.61 บาท
