xs
xsm
sm
md
lg

ราคาทองคำไม่ร่วงแม้ไอเอ็มเอฟเทขาย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ผู้ค้าทองคำไม่วิตกข่าวไอเอ็มเอฟเทขายทองคำสำรอง 400 ตัน เชื่อไม่กระทบราคาในตลาดโลกมากนัก ระบุเหตุราคาร่วงสัปดาห์ที่แล้วเพราะ "ดอย์ตแบงค์-ยูบีเอส-เฟด" เทขายทองคำสำรองบางส่วนแก้พิษซับไพรม์ เผยราคาทองขึ้นและสินค้าอุปโภคแพงทำประชาชนซื้อทองช่วงสงกรานต์น้อยลง ด้านผู้จัดการกองทุนประเมิน 900 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์เป็นราคาที่สมดุลแล้ว

รายงานข่าวระบุว่า คณะกรรมการบริหารของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ หรือ ไอเอ็มเอฟ (IMF) ได้ผ่านความเห็นชอบในแผนการปฏิรูประบบการเงิน ซึ่งส่งผลให้กองทุนอาจต้องนำทองคำที่มีสำรองอยู่ 12% หรือประมาณ 400 ตัน คิดเป็นมูลค่า 11,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ขายเข้าตลาด แต่แผนงานดังกล่าวกองทุนไอเอ็มเอฟต้องมีการขอความเห็นชอบจากสภาคองเกรสของประเทศสหรัฐฯ และ 185 ประเทศสมาชิกเสียก่อน อย่างไรก็ตามมีความวิตกว่าการจำหน่ายทองคำของไอเอ็มเอฟในครั้งนี้จะส่งผลทำให้ราคาทองคำในตลาดโลกปรับตัวลดลง ตามปริมาณทองคำในตลาดที่เพิ่มมากขึ้น

นายพิชญา พิสุทธิกุล เลขาธิการสมาคมค้าทองคำ และผู้บริหารห้างทองเลี่ยงเส็งเฮง เปิดเผยว่า สำหรับข่าวเรื่องที่กองทุนไอเอ็มเอฟจะมีการขายทองคำปริมาณ 400 ตันนั้นยังไม่แน่ชัดว่าเป็นเรื่องจริงหรือไม่ อย่างเช่นปีที่ผ่านมา ซึ่งมีกระแสว่ากองทุนจะมีขายเทขายทองคำเช่นเดียวกัน แต่ก็ไม่มีการขายทองคำออกมาตามที่ปรากฎเป็นข่าว อย่างไรก็ตามถ้าทางกองทุนไอเอ็มเอฟมีการเทขายทองคำจริงๆ เชื่อว่าไม่น่าจะส่งผลกระทบต่อราคาทองคำมากนัก แต่ราคาทองคำในตลาดโลกมีโอกาสที่จะปรับตัวลดลงเล็กน้อยไปเคลื่อนไหวในระดับประมาณ 900 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์

สำหรับสถานการณ์ราคาทองคำในตลาดโลกสัปดาห์ที่ผ่านมา ราคามีการปรับตัวลดลงเนื่องมาจาก ธนาคารยูบีเอส , ดอย์แบงค์และธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้มีการเทขายทองคำออกมาส่วนหนึ่ง โดยในส่วนของทางธนาคารยูบีเอสได้ทำการขายทองคำออกมาเพื่อพยุงผลกระทบที่เกิดขึ้นมาจากปัญหาสินเชื่ออสังหาริมทรัพย์ด้อยคุณภาพ (ซัปไพรม์) ส่วนเฟดได้มีการขายทองเพื่อนำเงินไปปล่อยกู้ให้เลห์แมน บราเธอร์ส ใช้เพิ่มทุนเพื่อแก้ผลกระทบจากซับไพรม์ที่เกิดขึ้น

"ตอนนี้ปริมาณ Demand และ Supply ในตลาดทองคำไม่ได้ลดลง เพราะปริมาณทองยังเท่าเดิม ในขณะที่ราคาทองที่เพิ่มขึ้นทำให้คนบริโภคน้อยลงแทน แต่ตอนนี้ราคาที่เพิ่มขึ้นไม่ใช่ราคาจริง แต่เกิดมาจากการเก็งกำไรของพวกเฮดจ์ฟันด์ ซึ่งเอาแน่เอานอนไม่ค่อยใด ทำให้คาดเดาราคาทองคำในอนาคตได้ยาก"นายพิชญา กล่าว

สำหรับการซื้อขายทองคำภายในประเทศในช่วงเทศกาลสงกรานต์ นายพิชญา กล่าวว่า ในปีนี้ความต้องการซื้อทองคำลดลงจากปีที่ผ่าน ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากราคาทองคำในตลาดโลกที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมาเป็นอย่างมาก และราคาสินค้าอุปโภคบริโภคที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น ทำให้ประชาชนชะลอการซื้อทองคำไว้ก่อน

แหล่งข่าวผู้จัดการกองทุน เปิดเผยว่า สำหรับการจำหน่ายทองคำสำรองจำนวน 400 ตันของไอเอ็มเอฟนั้น แม้จะคิดเป็นมูลค่าเงินที่สูงมาก แต่ส่วนตัวมองว่าไม่น่าจะกระทบต่อราคาทองคำในตลาดโลกมากนัก เพราะจำนวนทองคำที่เข้าตลาดไม่น่าจะส่งผลทำให้มีอุปทาน (ซัพพลาย) เปลี่ยนแปลงจนราคาทองคำในตลาดโลกลดลงมากนัก

"ราคาทองคำที่เพิ่มขึ้นมาตอนนี้เกิดจากการเก็งกำไร ไม่ใช้เกิดมาจากดีมานต์ ซัพพลาย ตอนนี้มองว่าราคาทองคำที่ประมาณ 900 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ น่าจะเป็นราคาที่สมดุลอยู่แล้ว ซึ่งเชื่อว่าราคาทองคำในตลาดโลกไม่น่าจะบวกลบจากระดับนี้เกิน 30-40 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์" นายณัฐพัชร์ กล่าว

รายงานข่าวจากการสำรวจการจัดอันดับผลตอบแทนย้อนหลังกองทุนที่มีนโยบายลงทุนในต่างประเทศ (FIF) ตั้งแต่ต้นปีของ LIPPER พบว่า กองทุนที่มีนโยบายลงทุนในทองคำส่วนใหญ่ได้รับอานิสงส์จากราคาทองคำที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น ทำให้ผลตอบแทนปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยกองทุนเปิด ไอเอ็นจี ไทย โกลเด้น สตาร์ ลิ้งค์ ให้ผลตอบแทนย้อนหลังตั้งแต่ต้นปี 4.32% มากกว่าเกณฑ์มาตรฐาน UBS Global Convertible ที่ให้ผลตอบแทนย้อนหลังตั้งแต่ต้นปี -10.81% กว่า 15.13%

ขณะเดียวกันกองทุนเปิดทหารไทย โกลด์ ฟันด์ ให้ผลตอบแทนย้อนหลังตั้งแต่ต้นปี 1.63% มากกว่าเกณฑ์มาตรฐาน 12.44% , กองทุนรวมบีที FIF โกลด์ ลิงค์ คุ้มครองเงินต้น 1 ให้ผลตอบแทนย้อนหลังตั้งแต่ต้นปี 0.89% มากกว่าเกณฑ์มาตรฐาน 11.70% , กองทุนรวมบีที FIF โกลด์ ลิงค์ ฟันด์ 2 ให้ผลตอบแทนย้อนหลังตั้งแต่ต้นปี -0.74% มากกว่าเกณฑ์มาตรฐาน 10.07% และกองทุนรวมบีที FIF โกลด์ ลิงค์ ฟันด์ 3ให้ผลตอบแทนย้อนหลังตั้งแต่ต้นปี -2.85% มากกว่าเกณฑ์มาตรฐาน 7.96%
กำลังโหลดความคิดเห็น