ตลาดหลักทรัพย์ เลือก บลจ.ทหารไทยจัดตั้งและบริหารจัดการอิควิตี้ อีทีเอฟ อ้างอิงดัชนีหมวดพลังงาน ประเดิมเข้าซื้อขายในเดือนกรกฎาคมนี้ ชี้มีมีความพร้อมของระบบงาน แผนการตลาด และช่องทางเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่ชัดเจน อีกทั้งมีความสามารถในการดูแลและส่งเสริมสภาพคล่อง
นายสุภกิจ จิระประดิษฐกุล ผู้ช่วยผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ในฐานะประธานคณะทำงานเฉพาะกิจ เพื่อดำเนินการในการส่งเสริมให้มี Equity ETF ที่อ้างอิงดัชนีหมวดธุรกิจพลังงานกองแรกในไทย เปิดเผยว่า คณะทำงานได้พิจารณาคัดเลือกให้ทีมบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ทหารไทย จำกัด เป็นทีมจัดตั้งและบริหารจัดการ อิควิตี้ อีทีเอฟ ที่อ้างอิงดัชนีหมวดธุรกิจพลังงาน (Equity ETF on SET Energy Sector Index)
โดยหลังจากนี้ทีมจัดตั้งและบริหารจัดการจะได้หารือกับตลาดหลักทรัพย์ฯ เพื่อทำงานร่วมกันก่อนเปิดตัวสินค้าใหม่ต่อไป ซึ่งตามหลักเกณฑ์แล้ว กองทุนอีทีเอฟกองนี้จะมีมูลค่าเริ่มต้นไม่ต่ำกว่า 300 ล้านบาท และตลาดหลักทรัพย์ฯ จะร่วมลงทุนไม่เกิน 30 ล้านบาท โดยคาดว่าจะสามารถเริ่มซื้อขายได้ภายในช่วงเดือนกรกฎาคม 2551
“ปัจจัยหลักที่ทีมจะต้องมีเพื่อจัดตั้งและบริหารจัดการอิควิตี้ อีทีเอฟนี้ให้ประสบความสำเร็จ คือ ความเข้าใจในการทำงานของผลิตภัณฑ์เพื่อรองรับการซื้อขายในตลาดแรกและตลาดรอง ความพร้อมของระบบงานเพื่อรองรับการจัดตั้งอิควิตี้ อีทีเอฟนี้ แผนการตลาดและช่องทางเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่ชัดเจน ความสามารถในการดูแลและส่งเสริมให้มีสภาพคล่อง รวมถึงการบริหารจัดการอิควิตี้ อีทีเอฟ อย่างมีประสิทธิภาพเพื่อประโยชน์ของผู้ลงทุน ด้วยปัจจัยต่างๆ คณะทำงานจึงเห็นว่าทีมบลจ.ทหารไทย เป็นทีมที่เหมาะสมที่สุด โดยเห็นได้จากข้อเสนอและคำชี้แจงที่ละเอียดและครอบคลุมในประเด็นหลักๆ ดังกล่าว”
ทั้งนี้คณะทำงานซึ่งประกอบด้วยผู้บริหารจากตลาดหลักทรัพย์ฯ และบริษัท ศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ (ประเทศไทย) จำกัด ได้กำหนดขั้นตอนการคัดเลือกทีมจัดตั้งและบริหารจัดการอิควิตี้ อีทีเอฟ ที่อ้างอิงกับดัชนีหมวดธุรกิจพลังงาน และได้จัดทำข้อกำหนด (Request for proposal) ที่ระบุเกณฑ์การคัดเลือกไว้อย่างชัดเจน และมีการคัดเลือกอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งคณะทำงานได้ศึกษาข้อเสนอของทุกทีมอย่างละเอียด และเชิญทุกทีมเข้ามาตอบข้อสงสัยเกี่ยวกับข้อเสนอเพิ่มเติม โดยจากการพิจารณาข้อเสนอที่ทุกทีมจัดทำถือได้ว่ามีความตั้งใจและให้ความสนใจ รวมทั้งสละเวลาเข้าร่วมโครงการนี้เป็นอย่างดี
สำหรับอิควิตี้ อีทีเอฟ เป็นตราสารประเภทหนึ่ง ที่ผู้ลงทุนสามารถซื้อขายได้สะดวกเหมือนการลงทุนในหุ้น แต่มีการกระจายความเสี่ยงเหมือนกองทุนที่อ้างอิงดัชนีหรือ Index Fund ที่เสียค่าบริหารจัดการต่ำกว่ากองทุนอื่นๆ จึงนับว่าเป็นผลิตภัณฑ์ทางการเงินใหม่ที่รวมคุณสมบัติของหุ้นและกองทุนเปิดไว้ด้วยกัน อิควิตี้ อีทีเอฟ จึงเป็นทางเลือกใหม่สำหรับผู้ลงทุนที่ต้องการความเสี่ยงน้อยกว่าการลงทุนในหุ้นโดยตรง นอกจากนี้ ยังมีประโยชน์ต่อนักลงทุนสถาบันในการช่วยบริหารจัดการทรัพย์สินได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
แหล่งข่าวกล่าวว่า สำหรับการจัดตั้งกองทุนอีทีเอฟที่อ้างอิงดัชนีหมวดธุรกิจพลังงานนี้ มีบลจ. เข้ามาสมัครรับการคัดเลือกเป็นผู้จัดการกองทุนจำนวน 2 บริษัท ได้แก่บลจ.ทหารไทย และบลจ.วรรณ โดยคาดว่าสาเหตุที่บลจ.ทหารไทยได้รับการคัดเลือกในครั้งนี้ น่าจะเกิดมาจากทางตลาดหลักทรัพย์ต้องการกระจายผู้บริหารกองทุนอีทีเอฟให้มีความหลากหลาย และไม่จำกัดอยู่เพียงบลจ.ใดบลจ.หนึ่งเท่านั้น
ก่อนหน้านี้นายสมจินต์ ศรไพศาล กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) วรรณ จำกัด กล่าวว่า หลังจากที่ทางตลาดหลักทรัพย์ได้มีการผลักดันกองทุนอีทีเอฟที่ลงทุนในพลังงานแล้ว ส่วนตัวประเมินว่าหลักทรัพย์ในกลุ่มธนาคารนั้นจัดเป็นอีกกลุ่มหนึ่งที่มีศักยภาพและความน่าสนใจที่จะนำมาจัดตั้งเป็นกองทุนอีทีเอฟได้เช่นกัน
ส่วนกองทุนเปิด ไทยเด็กซ์ เซ็ท 50 อีทีเอฟ (TDEX) ซึ่งเป็นกองทุนอีทีเอฟที่ลงทุนในดัชนี SET 50 นั้น หลังจากที่ได้มีการเปิดซื้อขายมูลค่าทรัพย์สินของกองทุนมีการปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดกองทุนมีขนาดกองทุนประมาณ 3,000 ล้านบาท จากช่วงเปิดไอพีโอที่กองทุนสามารถระดมทุนได้เพียง 1,010 ล้านบาท หรือคิดเป็นการเติบโตเพิ่มขึ้นกว่า 1,990 ล้านบาท หรือ 197% ในขณะที่จำนวนนักลงทุนได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นเป็น 4,766 ราย จากช่วงไอพีโอที่มีนักลงทุนที่สนใจเข้ามาลงทุนใน TDEX เพียง 700 รายเท่านั้น
สำหรับกองทุนเปิดไทยเด็กซ์เซ็ท 50 อีทีเอฟ เป็นกองทุนอีทีเอฟที่ลงทุนไม่น้อยกว่า 65% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุนในหลักทรัพย์ที่เป็นส่วนประกอบของดัชนีอ้างอิง (SET50 Index) ซึ่งรวมถึงหลักทรัพย์ที่อยู่ในระหว่างการเข้าหรือออกจากการเป็นหลักทรัพย์ที่เป็นส่วนประกอบของดัชนีอ้างอิงด้วย และส่วนที่เหลือจะลงทุนในตราสารแห่งหนี้ ตราสารทางการเงิน หรือเงินฝาก เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน เพื่อชำระราคาหลักทรัพย์ เพื่อรอการลงทุน หรือเพื่อเป็นสภาพคล่องของกองทุน และกองทุนอาจลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (derivatives) และมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างผลตอบแทนให้ใกล้เคียงกับดัชนีอ้างอิง (SET50 Index)
นายสุภกิจ จิระประดิษฐกุล ผู้ช่วยผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ในฐานะประธานคณะทำงานเฉพาะกิจ เพื่อดำเนินการในการส่งเสริมให้มี Equity ETF ที่อ้างอิงดัชนีหมวดธุรกิจพลังงานกองแรกในไทย เปิดเผยว่า คณะทำงานได้พิจารณาคัดเลือกให้ทีมบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ทหารไทย จำกัด เป็นทีมจัดตั้งและบริหารจัดการ อิควิตี้ อีทีเอฟ ที่อ้างอิงดัชนีหมวดธุรกิจพลังงาน (Equity ETF on SET Energy Sector Index)
โดยหลังจากนี้ทีมจัดตั้งและบริหารจัดการจะได้หารือกับตลาดหลักทรัพย์ฯ เพื่อทำงานร่วมกันก่อนเปิดตัวสินค้าใหม่ต่อไป ซึ่งตามหลักเกณฑ์แล้ว กองทุนอีทีเอฟกองนี้จะมีมูลค่าเริ่มต้นไม่ต่ำกว่า 300 ล้านบาท และตลาดหลักทรัพย์ฯ จะร่วมลงทุนไม่เกิน 30 ล้านบาท โดยคาดว่าจะสามารถเริ่มซื้อขายได้ภายในช่วงเดือนกรกฎาคม 2551
“ปัจจัยหลักที่ทีมจะต้องมีเพื่อจัดตั้งและบริหารจัดการอิควิตี้ อีทีเอฟนี้ให้ประสบความสำเร็จ คือ ความเข้าใจในการทำงานของผลิตภัณฑ์เพื่อรองรับการซื้อขายในตลาดแรกและตลาดรอง ความพร้อมของระบบงานเพื่อรองรับการจัดตั้งอิควิตี้ อีทีเอฟนี้ แผนการตลาดและช่องทางเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่ชัดเจน ความสามารถในการดูแลและส่งเสริมให้มีสภาพคล่อง รวมถึงการบริหารจัดการอิควิตี้ อีทีเอฟ อย่างมีประสิทธิภาพเพื่อประโยชน์ของผู้ลงทุน ด้วยปัจจัยต่างๆ คณะทำงานจึงเห็นว่าทีมบลจ.ทหารไทย เป็นทีมที่เหมาะสมที่สุด โดยเห็นได้จากข้อเสนอและคำชี้แจงที่ละเอียดและครอบคลุมในประเด็นหลักๆ ดังกล่าว”
ทั้งนี้คณะทำงานซึ่งประกอบด้วยผู้บริหารจากตลาดหลักทรัพย์ฯ และบริษัท ศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ (ประเทศไทย) จำกัด ได้กำหนดขั้นตอนการคัดเลือกทีมจัดตั้งและบริหารจัดการอิควิตี้ อีทีเอฟ ที่อ้างอิงกับดัชนีหมวดธุรกิจพลังงาน และได้จัดทำข้อกำหนด (Request for proposal) ที่ระบุเกณฑ์การคัดเลือกไว้อย่างชัดเจน และมีการคัดเลือกอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งคณะทำงานได้ศึกษาข้อเสนอของทุกทีมอย่างละเอียด และเชิญทุกทีมเข้ามาตอบข้อสงสัยเกี่ยวกับข้อเสนอเพิ่มเติม โดยจากการพิจารณาข้อเสนอที่ทุกทีมจัดทำถือได้ว่ามีความตั้งใจและให้ความสนใจ รวมทั้งสละเวลาเข้าร่วมโครงการนี้เป็นอย่างดี
สำหรับอิควิตี้ อีทีเอฟ เป็นตราสารประเภทหนึ่ง ที่ผู้ลงทุนสามารถซื้อขายได้สะดวกเหมือนการลงทุนในหุ้น แต่มีการกระจายความเสี่ยงเหมือนกองทุนที่อ้างอิงดัชนีหรือ Index Fund ที่เสียค่าบริหารจัดการต่ำกว่ากองทุนอื่นๆ จึงนับว่าเป็นผลิตภัณฑ์ทางการเงินใหม่ที่รวมคุณสมบัติของหุ้นและกองทุนเปิดไว้ด้วยกัน อิควิตี้ อีทีเอฟ จึงเป็นทางเลือกใหม่สำหรับผู้ลงทุนที่ต้องการความเสี่ยงน้อยกว่าการลงทุนในหุ้นโดยตรง นอกจากนี้ ยังมีประโยชน์ต่อนักลงทุนสถาบันในการช่วยบริหารจัดการทรัพย์สินได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
แหล่งข่าวกล่าวว่า สำหรับการจัดตั้งกองทุนอีทีเอฟที่อ้างอิงดัชนีหมวดธุรกิจพลังงานนี้ มีบลจ. เข้ามาสมัครรับการคัดเลือกเป็นผู้จัดการกองทุนจำนวน 2 บริษัท ได้แก่บลจ.ทหารไทย และบลจ.วรรณ โดยคาดว่าสาเหตุที่บลจ.ทหารไทยได้รับการคัดเลือกในครั้งนี้ น่าจะเกิดมาจากทางตลาดหลักทรัพย์ต้องการกระจายผู้บริหารกองทุนอีทีเอฟให้มีความหลากหลาย และไม่จำกัดอยู่เพียงบลจ.ใดบลจ.หนึ่งเท่านั้น
ก่อนหน้านี้นายสมจินต์ ศรไพศาล กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) วรรณ จำกัด กล่าวว่า หลังจากที่ทางตลาดหลักทรัพย์ได้มีการผลักดันกองทุนอีทีเอฟที่ลงทุนในพลังงานแล้ว ส่วนตัวประเมินว่าหลักทรัพย์ในกลุ่มธนาคารนั้นจัดเป็นอีกกลุ่มหนึ่งที่มีศักยภาพและความน่าสนใจที่จะนำมาจัดตั้งเป็นกองทุนอีทีเอฟได้เช่นกัน
ส่วนกองทุนเปิด ไทยเด็กซ์ เซ็ท 50 อีทีเอฟ (TDEX) ซึ่งเป็นกองทุนอีทีเอฟที่ลงทุนในดัชนี SET 50 นั้น หลังจากที่ได้มีการเปิดซื้อขายมูลค่าทรัพย์สินของกองทุนมีการปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดกองทุนมีขนาดกองทุนประมาณ 3,000 ล้านบาท จากช่วงเปิดไอพีโอที่กองทุนสามารถระดมทุนได้เพียง 1,010 ล้านบาท หรือคิดเป็นการเติบโตเพิ่มขึ้นกว่า 1,990 ล้านบาท หรือ 197% ในขณะที่จำนวนนักลงทุนได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นเป็น 4,766 ราย จากช่วงไอพีโอที่มีนักลงทุนที่สนใจเข้ามาลงทุนใน TDEX เพียง 700 รายเท่านั้น
สำหรับกองทุนเปิดไทยเด็กซ์เซ็ท 50 อีทีเอฟ เป็นกองทุนอีทีเอฟที่ลงทุนไม่น้อยกว่า 65% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุนในหลักทรัพย์ที่เป็นส่วนประกอบของดัชนีอ้างอิง (SET50 Index) ซึ่งรวมถึงหลักทรัพย์ที่อยู่ในระหว่างการเข้าหรือออกจากการเป็นหลักทรัพย์ที่เป็นส่วนประกอบของดัชนีอ้างอิงด้วย และส่วนที่เหลือจะลงทุนในตราสารแห่งหนี้ ตราสารทางการเงิน หรือเงินฝาก เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน เพื่อชำระราคาหลักทรัพย์ เพื่อรอการลงทุน หรือเพื่อเป็นสภาพคล่องของกองทุน และกองทุนอาจลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (derivatives) และมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างผลตอบแทนให้ใกล้เคียงกับดัชนีอ้างอิง (SET50 Index)
