กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ยิ้มแฉ่งกันทั่วหน้า ผลประกอบการพาเหรดปรับตัวเพิ่ม "FUTUREPF" เด่นสุดฟันกำไรปี 50 พุ่งแตะ 556.77 ล้านบาท เพิ่มขึ้นกว่า 1,045.85% รับอานิสงค์รายได้เต็มทั้งปีกับกำไรสุทธิที่ยังไม่เกิดขึ้นจากเงินลงทุนเพิ่ม ขณะที่กองทุนโกลด์ ประกาศจ่ายปันผล 0.4906 บาทต่อหน่วย ผู้ถือหน่วยเตรียมรับ 10 มี.ค.นี้
นางชวินดา หาญรัตนกูล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการอาวุโส บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ไอเอ็นจี (ประเทศไทย) จำกัด ในฐานะบริษัทจัดการกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ฟิวเจอร์พาร์ค (FUTUREPF) เปิดเผยถึงผลการดำเนินการงวด 1 ปี สิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2550 ว่า กองทุนมีผลกำไรสุทธิ 556.77 ล้านบาท คิดเป็นผลกำไรสุทธิ 1.1763 บาทต่อหุ้น เพิ่มขึ้นกว่า 508.18 ล้านบาท หรือ 1,045.85% จากงวดปี 2549 ที่มีรอบระยะเวลาตั้งแต่วันที่ 23 พฤศจิกายน - 31 ธันวาคม 2549 ที่มีผลกำไรสุทธิ 48.59 ล้านบาท
โดยสาเหตุที่ผลการดำเนินงานของกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ ฟิวเจอร์พาร์ค ปรับตัวเพิ่มขึ้นกว่า 1,045.85% เนื่องมาจากระยะเวลาการดำเนินการของกองทุนในงวดปีที่ผ่านมามีระยะเวลาการดำเนินการครบ 12 เดือนเต็ม ในขณะที่ระยะเวลาการดำเนินการของปี 2549 มีระยะเวลาดำเนินการเพียงประมาณ 1 เดือนและ 8 วัน เนื่องจากกองทุนได้ถูกจดทะเบียนจัดตั้งขึ้นตั้งแต่วันที่ 23 พฤศจิกายน 2549 ซึ่งจำนวนวันของงวดปี 2550 ที่มากกว่านั้นมีผลทำให้รายรับค่าเช่าและค่าบริการ รายได้ดอกเบี้ย และรายได้อื่นๆ ที่กองทุนได้รับเพิ่มขึ้นจาก 67.96 ล้านบาท เป็น 659.18 ล้านบาท และมีค่าใช้จ่ายรวมเพิ่มขึ้นจาก 19.37 ล้านบาทเป็น 209.29 ล้านบาท
นอกจากนี้ในปีที่ผ่านมา กองทุนได้ให้ผู้ประเมินราคาอิสระทำการประเมินราคาเงินลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ที่กองทุนได้ลงทุนไว้ ซึ่งมูลค่ายุติธรรมของเงินลงทุนดังกล่าวได้เปลี่ยนแปลงเพิ่มขึ้น ทำให้กองทุนมีรายการกำไรสุทธิที่ยังไม่เกิดขึ้นจากเงินลงทุนในงวดปี 2550 จำนวน 106.91 ล้านบาท
ขณะที่กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์บ้านแสนสิริ (SIRIPF) นั้น บลจ.ไอเอ็นจี (ประเทศไทย) ในฐานะบริษัทจัดการกองทุนดังกล่าว ได้เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานงวด 1 ปี สิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2550 ว่า กองทุนมีผลกำไรสุทธิ 83.90 ล้านบาท คิดเป็นผลกำไรสุทธิ 0.97 บาทต่อหุ้น เพิ่มขึ้น 11.71 ล้านบาท หรือ 16.22% จากงวดก่อนหน้านี้ที่กองทุนมีผลกำไรสุทธิ 72.19 ล้านบาท
ส่วนกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ ไลฟ์สไตล์ (MJLF) มีผลกำไรสุทธิ สำหรับรอบระยะเวลาบัญชี ตั้งแต่วันที่ 26 มิถุนายน - 31 ธันวาคม 2550 จำนวน 467.49 ล้านบาท คิดเป็นผลกำไรสุทธิ 2.03 บาทต่อหุ้น
ด้านผลการดำเนินงานของกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์บางกอก (BKKCP) ประจำงวด 1 ปี สิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2550 นั้น นายสุริพล เข็มจินดา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บลจ.วรรณ เปิดเผยว่ากองทุนมีผลกำไรสุทธิ 78.73 ล้านบาท คิดเป็นผลกำไรสุทธิ 0.78 บาทต่อหุ้น เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้าที่กองทุนมีผลกำไรสุทธิ 65.25 ล้านบาท กว่า 13.48 ล้านบาท หรือ 20.66%
ทั้งนี้นางพรรณสุภา เสสะเวช ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บลจ.วรรณ ในฐานะบริษัทจัดการของกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์บางกอก ชี้แจงถึงสาเหตุที่ผลการดำเนินการเพิ่มขึ้นเมื่อเปรียบเทียบกับการดำเนินงานรอบระยะเวลาบัญชีเดียวกันของปี พ.ศ.2549 เนื่องมาจากในปี 2550 มีการประเมินมูลค่าอสังหาริมทรัพย์เพิ่มขึ้นจำนวน 20.2 ล้านบาท
"GOLDPF" จ่ายปันผล 0.4906 บาทต่อหน่วย
นางสาวเอื้อพันธ์ เพ็ชราภรณ์ ผู้บริหารฝ่ายบริการผู้ลงทุน และทะเบียน บลจ.กสิกรไทย ในฐานะบริษัทจัดการของกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์โกลด์ (GOLDPF) ได้แจ้งกำหนดการจ่ายเงินปันผลครั้งที่ 1 และวันปิดสมุดทะเบียนพักการโอนหน่วยลงทุนเพื่อกำหนดสิทธิในเงินปันผลจากผลการดำเนินงานระหว่างวันที่ 4 พฤษภาคม - 31 ธันวาคม 2550 ในอัตราหน่วยลงทุนละ 0.4906 บาท ซึ่งกำหนดวันปิดสมุดทะเบียนพักการโอนหน่วยลงทุน เพื่อกำหนดสิทธิในการรับเงินปันผลในวันที่ 3 มีนาคม 2551 เวลา 12.00 น. และกำหนดจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหน่วยลงทุนในวันที่ 10 มีนาคม 2551
สำหรับกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์โกลด์ เป็นกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ที่ระบุเฉพาะเจาะจงโดยมีการกำหนดอสังหาริมทรัพย์ที่จะซื้อหรือเช่าเป็นการแน่นอน ประเภทไม่รับซื้อคืนหน่วยลงทุน โดยบริษัทจัดการจะยื่นคำร้องขอต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ให้รับ หน่วยลงทุนเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนภายใน 60 วันนับแต่วันจดทะเบียนเป็นกองทุนรวม โดยมีนโยบายการลงทุนในทรัพย์สินที่ลงทุน ซึ่งโกลเด้น แลนด์ (เมย์แฟร์) เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์และได้ใช้ในการดำเนินกิจการโครงการ เดอะ เมย์แฟร์ แมริออท อยู่ในปัจจุบัน และโครงการมีนโยบายจ่ายเงินปันผลให้ผู้ถือหน่วยลงทุนไม่เกินปีละ 2 ครั้ง
นางชวินดา หาญรัตนกูล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการอาวุโส บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ไอเอ็นจี (ประเทศไทย) จำกัด ในฐานะบริษัทจัดการกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ฟิวเจอร์พาร์ค (FUTUREPF) เปิดเผยถึงผลการดำเนินการงวด 1 ปี สิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2550 ว่า กองทุนมีผลกำไรสุทธิ 556.77 ล้านบาท คิดเป็นผลกำไรสุทธิ 1.1763 บาทต่อหุ้น เพิ่มขึ้นกว่า 508.18 ล้านบาท หรือ 1,045.85% จากงวดปี 2549 ที่มีรอบระยะเวลาตั้งแต่วันที่ 23 พฤศจิกายน - 31 ธันวาคม 2549 ที่มีผลกำไรสุทธิ 48.59 ล้านบาท
โดยสาเหตุที่ผลการดำเนินงานของกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ ฟิวเจอร์พาร์ค ปรับตัวเพิ่มขึ้นกว่า 1,045.85% เนื่องมาจากระยะเวลาการดำเนินการของกองทุนในงวดปีที่ผ่านมามีระยะเวลาการดำเนินการครบ 12 เดือนเต็ม ในขณะที่ระยะเวลาการดำเนินการของปี 2549 มีระยะเวลาดำเนินการเพียงประมาณ 1 เดือนและ 8 วัน เนื่องจากกองทุนได้ถูกจดทะเบียนจัดตั้งขึ้นตั้งแต่วันที่ 23 พฤศจิกายน 2549 ซึ่งจำนวนวันของงวดปี 2550 ที่มากกว่านั้นมีผลทำให้รายรับค่าเช่าและค่าบริการ รายได้ดอกเบี้ย และรายได้อื่นๆ ที่กองทุนได้รับเพิ่มขึ้นจาก 67.96 ล้านบาท เป็น 659.18 ล้านบาท และมีค่าใช้จ่ายรวมเพิ่มขึ้นจาก 19.37 ล้านบาทเป็น 209.29 ล้านบาท
นอกจากนี้ในปีที่ผ่านมา กองทุนได้ให้ผู้ประเมินราคาอิสระทำการประเมินราคาเงินลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ที่กองทุนได้ลงทุนไว้ ซึ่งมูลค่ายุติธรรมของเงินลงทุนดังกล่าวได้เปลี่ยนแปลงเพิ่มขึ้น ทำให้กองทุนมีรายการกำไรสุทธิที่ยังไม่เกิดขึ้นจากเงินลงทุนในงวดปี 2550 จำนวน 106.91 ล้านบาท
ขณะที่กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์บ้านแสนสิริ (SIRIPF) นั้น บลจ.ไอเอ็นจี (ประเทศไทย) ในฐานะบริษัทจัดการกองทุนดังกล่าว ได้เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานงวด 1 ปี สิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2550 ว่า กองทุนมีผลกำไรสุทธิ 83.90 ล้านบาท คิดเป็นผลกำไรสุทธิ 0.97 บาทต่อหุ้น เพิ่มขึ้น 11.71 ล้านบาท หรือ 16.22% จากงวดก่อนหน้านี้ที่กองทุนมีผลกำไรสุทธิ 72.19 ล้านบาท
ส่วนกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ ไลฟ์สไตล์ (MJLF) มีผลกำไรสุทธิ สำหรับรอบระยะเวลาบัญชี ตั้งแต่วันที่ 26 มิถุนายน - 31 ธันวาคม 2550 จำนวน 467.49 ล้านบาท คิดเป็นผลกำไรสุทธิ 2.03 บาทต่อหุ้น
ด้านผลการดำเนินงานของกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์บางกอก (BKKCP) ประจำงวด 1 ปี สิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2550 นั้น นายสุริพล เข็มจินดา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บลจ.วรรณ เปิดเผยว่ากองทุนมีผลกำไรสุทธิ 78.73 ล้านบาท คิดเป็นผลกำไรสุทธิ 0.78 บาทต่อหุ้น เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้าที่กองทุนมีผลกำไรสุทธิ 65.25 ล้านบาท กว่า 13.48 ล้านบาท หรือ 20.66%
ทั้งนี้นางพรรณสุภา เสสะเวช ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บลจ.วรรณ ในฐานะบริษัทจัดการของกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์บางกอก ชี้แจงถึงสาเหตุที่ผลการดำเนินการเพิ่มขึ้นเมื่อเปรียบเทียบกับการดำเนินงานรอบระยะเวลาบัญชีเดียวกันของปี พ.ศ.2549 เนื่องมาจากในปี 2550 มีการประเมินมูลค่าอสังหาริมทรัพย์เพิ่มขึ้นจำนวน 20.2 ล้านบาท
"GOLDPF" จ่ายปันผล 0.4906 บาทต่อหน่วย
นางสาวเอื้อพันธ์ เพ็ชราภรณ์ ผู้บริหารฝ่ายบริการผู้ลงทุน และทะเบียน บลจ.กสิกรไทย ในฐานะบริษัทจัดการของกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์โกลด์ (GOLDPF) ได้แจ้งกำหนดการจ่ายเงินปันผลครั้งที่ 1 และวันปิดสมุดทะเบียนพักการโอนหน่วยลงทุนเพื่อกำหนดสิทธิในเงินปันผลจากผลการดำเนินงานระหว่างวันที่ 4 พฤษภาคม - 31 ธันวาคม 2550 ในอัตราหน่วยลงทุนละ 0.4906 บาท ซึ่งกำหนดวันปิดสมุดทะเบียนพักการโอนหน่วยลงทุน เพื่อกำหนดสิทธิในการรับเงินปันผลในวันที่ 3 มีนาคม 2551 เวลา 12.00 น. และกำหนดจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหน่วยลงทุนในวันที่ 10 มีนาคม 2551
สำหรับกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์โกลด์ เป็นกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ที่ระบุเฉพาะเจาะจงโดยมีการกำหนดอสังหาริมทรัพย์ที่จะซื้อหรือเช่าเป็นการแน่นอน ประเภทไม่รับซื้อคืนหน่วยลงทุน โดยบริษัทจัดการจะยื่นคำร้องขอต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ให้รับ หน่วยลงทุนเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนภายใน 60 วันนับแต่วันจดทะเบียนเป็นกองทุนรวม โดยมีนโยบายการลงทุนในทรัพย์สินที่ลงทุน ซึ่งโกลเด้น แลนด์ (เมย์แฟร์) เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์และได้ใช้ในการดำเนินกิจการโครงการ เดอะ เมย์แฟร์ แมริออท อยู่ในปัจจุบัน และโครงการมีนโยบายจ่ายเงินปันผลให้ผู้ถือหน่วยลงทุนไม่เกินปีละ 2 ครั้ง