xs
xsm
sm
md
lg

บลจ.แนะทิศทางลงทุนวายุภักษ์2 เน้นลุยบจ.สร้างผลตอบแทนดีที่สุด

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


บลจ.แนะนโยบายลงทุน กองทุนวายุภักษ์ 2 ต้องมีความยืดหยุ่น เน้นลุยหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ หรือรัฐวิสหากิจ เพื่อสร้างผลตอบแทนที่ดีสุดแก่ผู้ถือหน่วยลงทุน ไม่ควรเข้าไปลงทุนในเมกะโปรจกต์โดยตรง แต่เป็นทางอ้อมผ่านบริษัทที่มีส่วนเกี่ยวข้อง ชี้ทางออกระดมทุนจากขายบอนด์รถไฟฟ้าเป็นทางเลือกที่ดียิ่ง หรืออาจจัดตั้งกองทุนโครงการสร้างพื้นฐานโดยเฉพาะ และมีรัฐบาลเป็นผู้สนับสนุน

นายพิชิต อัคราทิตย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) เอ็มเอฟซี จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงแนวโน้มทิศทางการลงทุนของกองทุนรวมวายุภักษ์ 2 ว่า หากกองทุนดังกล่าวมีการจัดตั้งขึ้นได้แล้ว ลักษณะในการลงทุนของกองทุนดังกล่าว ควรมีความยืดหยุ่นในการลงทุนสูง โดยเฉพาะหากนำไปลงทุนในหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ หรือตราสารหนี้ที่ได้รับการจัดอันดับในระดับสูงได้ถือว่าเป็นเรื่องที่ดี

ส่วนที่หลายฝ่ายประเมินว่ากองทุนวายุภักษ์ 2 หากจัดตั้งขึ้นมาแล้ว ควรที่จะเข้าไปลงทุนในโครงการเมกะโปรเจกต์ หรือโครงการด้านระบบสาธารณูปโภคของภาครัฐบาลนั้น ประเมินว่ากองทุนดังกล่าวน่าจะเข้าไปลงทุนในหุ้นของบริษัทจดทะเบียนที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับโครงการ หรือ เข้าไปลงทุนในบริษัทใหม่ ที่จะตั้งขึ้นมาโดยมีส่วนเกี่ยวข้องกับโครงการเหล่านั้น จะดูเหมาะสมมากกว่า

“ในต่างประเทศ เรื่องนี้ทำได้ หากเข้าไปลงทุนในบริษัทที่มีประสิทธิภาพ เพราะไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่ โดยที่สหรัฐอเมริกา ออสเตรเลีย ล้วนมีการจัดตั้งกองทุนเพื่อเข้าไปลงทุนในเรื่องดังกล่าว เนื่องจากกองทุนประเภทนี้ให้ผลตอบแทนในระดับดี ส่วนเมืองไทยนั้นหากมีการจัดตั้งขึ้นมาแล้วลงทุนได้จริงถือว่าเป็นเรื่องที่ดีเช่นกัน เพราะเป็นประโยชน์ต่อภาครัฐในการหาแหล่งเงินทุนของโครงการ”

อย่างไรก็ตาม เมื่อนำเงินระดมทุนที่เป็นเงินของประชาชนมาใช้ การลงทุนนั้นจำเป็นที่ให้ผลประโยชน์สูงสุด เพื่อไม่ให้เกิดข้อแตกต่างกับการลงทุนผ่านบริษัทเอกชน ซึ่งจะให้ผลตอบแทนในระดับที่ดีเช่นกัน

“สำหรับในฐานะผู้บริหารพอร์ตการลงทุนให้ลูกค้า เราต้องเลือกลงทุนในกิจการต่างๆที่ให้ผลตอบแทนที่ดีที่สุดแก่ผู้ถือหน่วยลงทุน ดังนั้นการเข้าลงทุนในภาคเอกชนจึงถือว่ามีความคุ้มค่ามากกว่า อีกทั้งการเข้าลงทุนในภาครัฐบาลเองสำหรับถือผู้หน่วยลงทุนแล้วยังขาดแรงจูงใจ เมื่อเปรียบเทียบกับภาคเอกชน”

ทั้งนี้ ภาครัฐควรจะมีการจัดตั้งกองทุนด้านโครงการสร้างพื้นฐานขึ้นมาโดยเฉพาะ เพื่อใช้ในการระดมทุนก่อสร้างโครงการ โดยอาจจัดตั้งเป็นบริษัทเอกชน หรือให้บริษัทจากต่างประเทศที่มีฝีมือเข้ามาบริหารโครงการดังกล่าวโดยมีภาครัฐเป็นผู้สนับสนุนแนวคิด จึงจะเป็นเรื่องที่ดีและมีความเหมาะสมมากกว่า

นายนที ดำรงค์กิจการ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) นครหลวงไทย จำกัด กล่าวว่า กองทุนวายุภักษ์ 2 เหมาะกับการเข้าไประดมทุนในรัฐวิสาหกิจของรัฐบาลเพราะมีขนาดใหญ่ ซึ่งจะทำให้ผู้ถือหน่วยได้รับผลตอบแทนที่ดี แต่ไม่เหมาะกับการเข้าไประดมทุนเพื่อนำไปก่อสร้างโครงการเมกะโปรเจกต์ โดยแนวทางหาแหล่งเงินระดมทุนภาครัฐในปัจจุบันถือว่ามีความเหมาะสมมากที่สุด นั่นคือ การออกบอนด์รถไฟฟ้า เพราะมองว่าเรื่องดังกล่าวแก้ไขปัญหาได้อย่างถูกต้อง เพราะช่วงนี้อัตราดอกเบี้ยยังคงอยู่ในระดับต่ำ

นายกำพล อัศวกุลชัย ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการ บลจ.ไทยพาณิชย์ กล่าวว่า สำหรับโครงการเมกะโปรเจกซ์ที่รัฐบาลชุดปัจจุบันพยายามจะเร่งผลักดันจะเป็นตัวสร้างงาน และช่วยกระตุ้นให้แก่ระบบเศรษฐกิจของไทย เนื่องมาจากรายจ่ายของภาครัฐจะเป็นรายจ่ายสำคัญในการกระตุ้นเศรษฐกิจอยู่แล้ว โดยขณะนี้ขั้นตอนดังกล่าวอยู่ที่ว่าภาครัฐจะสามารถเดินหน้าโครงการได้เมื่อไร ซึ่งถ้าภาครัฐสามารถเร่งดำเนินนโยบายและผลักดันโครงการให้เริ่มต้นได้ภายในปีนี้ก็จะเป็นเรื่องที่ดีมาก

ส่วนการระดมทุนเพื่อใช้ในโครงการดังกล่าวสามารถทำได้ในหลายวิธี เช่นการออกพันธบัตรเพื่อการลงทุน หรือการออกกองทุนลักษณะใกล้เคียงกับกองทุนวายุภักษ์ เป็นต้น ซึ่งภาครัฐจะเลือกใช้เครื่องมือตัวใดนั้น คงจะต้องขึ้นอยู่กับความเป็นไปได้และปัจจัยเรื่องสภาพคล่องในระบบ

อย่างไรก็ตามสำหรับการออกตราสารระยะยาวเพื่อใช้เป็นแหล่งระดมทุนในโครงการนั้น จัดเป็นอีกหนึ่งวิธีที่มีความน่าสนใจเป็นอย่างมาก เนื่องมาจากนอกจากเป็นอีกแนวทางในการระดมทุนเพื่อดำเนินโครงการเมกะโปรเจกซ์แล้ว ยังเป็นการพัฒนาตลาดเงินและยังเป็นการสร้างผลตอบแทนอ้างอิงในระยะยาวให้กับระบบตลาดเงินของไทยอีกด้วย

อนึ่ง ภายในสัปดาห์ที่ผ่านมา ผู้ร่วมบริหารจัดการกองทุนรวมวายุภักษ์ 1 มีแผนเข้าหารือกับ นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ถึงแนวทางการจัดตั้งกองทุนรวมวายุภักษ์ 2 ซึ่งที่ผ่านมามีการหารือกับกระทรวงการคลังมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งทางกระทรวงการคลังเองก็เห็นด้วยในหลักการ แต่ยังต้องหารือในรายละเอียดก่อน

โดยจากผลการดำเนินงานของกองทุนวายุภักษ์ 1 ตลอด 4 ปีที่ผ่านมาพิสูจน์ที่ชัดเจนว่า รูปแบบกองทุนนี้สามารถทำงานได้เป็นอย่างดี ดังนั้น การจัดตั้งกองทุนวายุภักษ์ 2 อาจใช้โมเดลของกองวายุภักษ์ 1 เป็นต้นแบบ คือ เป็นกองทุนที่คุ้มครองเงินต้นและผลตอบแทนขั้นต่ำ ซึ่งกองทุนวายุภักษ์ 2 อาจจะคุ้มครองผลตอบแทนขั้นต่ำใกล้เคียงกับวายุภักษ์ 1 ที่ 3%

นอกจากนี้ กองทุนวายุภักษ์ 2 อาจต้องลดขนาดของกองทุนลงมาบ้าง ซึ่งที่ผ่านมาอาจประเมินว่าจะจัดตั้งกองทุนโดยมีขนาดอยู่ที่ 1 แสนล้านบาท เท่ากับกองทุนวายุภักษ์ 1 เพียงแต่ต้องดูว่าหน่วยงานภาครัฐมีความจำเป็นในการระดมทุนมากน้อยแค่ไหน และกองทุนวายุภักษ์ 2 อาจนำการออกพันธบัตรมาใช้ในการร่วมจัดตั้งกองทุนได้เช่นกัน


กำลังโหลดความคิดเห็น