บลจ.กรุงไทย โชว์ผลดำเนินงานปี50ของทุกกองทุนภายใต้การบริหารเติบโตสูงกว่าเกณฑ์มาตรฐาน ชูกองRMF2 และ RMF3 มีความโดดเด่นจากการเฝ้าติดตามภาวะการลงทุนทุกฝีก้าว ขณะที่ KTTN ผลตอบแทนย้อนหลังรอบ 1 ปีเติบโตสูงสุด เพราะมีการคัดสรรหลักทรัพย์ที่เข้าลงทุนอย่างดี
นายสมชัย บุญนำศิริ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) กรุงไทย จำกัด กล่าวถึงผลดำเนินงานกองทุนภายใต้การบริหารจัดการในปีที่ผ่านมาว่า ผลการดำเนินงานของทุนต่างๆของบริษัทอยู่ระดับที่ดีและอยู่ในอันดับต้นๆ โดยทุกกองทุนให้ผลตอบแทนสูงกว่าเกณฑ์มาตรฐาน และสูงกว่าอุตสาหกรรมกองทุนรวมอีกด้วย
นางสาวประไพ กวีวงศ์ประเสริฐ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บลจ.กรุงไทย กล่าวว่า ในปี 2550 กองทุนที่ บริษัทภูมิใจที่สุดนั่นคือกองทุนเปิดกรุงไทยวางแผนภาษีเพื่อการเลี้ยงชีพ2 (RMF2) และกองทุนเปิดกรุงไทยวางแผนภาษีเพื่อการเลี้ยงชีพ3 (RMF3) เนื่องจากทั้ง 2 กองทุนให้ผลตอบที่อยู่ในระดับสูง และติดอันดับที่ 1 และ2 จากการจัดอันดับกองทุน ด้วยอัตราแผนตอบแทนที่สูงกว่าเกณฑ์มาตราฐาน 5.15%
“กองทุน RMF2 และ RMF3 นั้นทางบริษัทเราให้ความใส่ใจกับกองทุนประเภทนี้อยู่สูง เพราะเป็นกองทุนที่ลงทุนระยะยาว เพราะผู้ลงทุนคือผู้ที่ต้องการได้รับผลตอบแทนในช่วงหลังเกษียณอายุ ดังนั้นทีมงานผู้จัดการกองทุนของบริษัทจึงทำงานโดยติดตามภาวะการลงทุนโดยตลอด โดยเน้นลงทุนในตราสารหนี้ภาครัฐที่มีความเสี่ยงต่ำ และมีระยะในเวลาในการลงทุนที่เหมาะสม เพื่อป้องกันไม่ให้ผลกระทบใดๆเข้ามาสร้างผลกระทบแก่เงินที่นำไปลงทุน”
ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บลจ.กรุงไทย กล่าวเพิ่มเติมว่า นอกเหนือจากทั้ง 2 กองทุนแล้ว ยังมีอีก 3 กองทุนของบริษัทที่ควรจับตามอง ได้แก่ กองทุนรวมตราสารทุน จำนวน 2 กองทุนนั่นคือ กองทุนเปิดกรุงไทย-ทรีนีตี้ปันผล (KTTN) เนื่องจากเป็นกองที่มีผลตอบแทนเติบโตสูงสุด โดยมีผลตอบแทนย้อนหลัง 1ปีสูงถึง 45.78% มากกว่าเกณฑ์มาตราฐานซึ่งอยู่ที่ 26.12% ถัดมาคือกองทุนเปิดกรุงไทยหุ้นระยะยาว (KLTF) ซึ่งให้ผลตอบแทนย้อนหลัง 1 ปี 39.38% โดยมีสาเหตุมาจากการคัดสรรหลักทรัพย์เพื่อการลงทุนที่ดี และเหมาะสมกับการลงทุนในช่วงเวลานั้นๆ
นอกจากนี้ กองทุนเปิดกรุงไทยสะสมทรัพย์ (KTSS) ซึ่งเป็นกองทุนรวมตลาดเงิน ยังเป็นอีกหนึ่งกองทุนที่บริษัทต้องการนำเสนอ เพราะให้ผลตอบแทนที่เติบโตสูงกว่าเกณฑ์มาตรฐานเช่นกัน โดยกองทุนดังกล่าวบริษัทให้นโยบายเน้นการลงทุนในพันธบัตรรัฐ หรือตราสารหนี้ที่มีความเสี่ยงต่ำ และเป็นการลงทุนในระยะสั้น ซึ่งคาดว่าในอนาคตกองทุนดังกล่าวจะให้ผลตอบแทนที่ดีเพิ่มขึ้นมากกว่านี้
ส่วนกรณี กองทุนเปิดกรุงไทยชาริอะฮ์หุ้นระยะยาว (KSLTF) ซึ่งมีผลตอบแทนย้อนหลัง 3 เดือน –0.65% นั้นทางบริษัทชี้แจงว่ามีสาเหตุมาจากความผันผวนของตลาดหุ้นไทยในช่วง 3 เดือนก่อนหน้า แต่เมื่อดูผล ผลตอบแทนย้อนหลัง 1 ปีที่อยู่ในระดับ 35.29% แล้วยังเติบโตสูงกว่าเกณฑ์มาตรฐานเช่นกัน
ทั้งนี้ บลจ. กรุงไทย จำกัด เปิดเผยถึงผลดำเนินงานกองทุนรวมภายใต้การจัดการสิ้นสุด ณ วันที่ 28 ธันวาคม 2550 ว่า สำหรับกองทุนรวมประเภทตราสารทุน จำนวน 7 กองทุน พบว่า กองทุนเปิดกรุงไทย-ทรีนีตี้ปันผล (KTTN) ให้ผลตอบแทนย้อนหลัง 3 เดือน 3.06% ผลตอบแทนย้อนหลัง 6 เดือน 19.68% ผลตอบแทนย้อนหลัง 1 ปี 45.78% , กองทุนเปิดกรุงไทยหุ้นระยะยาว (KLTF) ให้ผลตอบแทนให้ผลตอบแทนย้อนหลัง 3 เดือน 4.15% ผลตอบแทนย้อนหลัง 6 เดือน 17.13% ผลตอบแทนย้อนหลัง 1 ปี 39.38%,กองทุนเปิดกรุงไทยหุ้นทุนปันผล (KTSF) ผลตอบแทนย้อนหลัง 3 เดือน 4.93% ผลตอบแทนย้อนหลัง 6 เดือน 18.30% แต่ไม่มีผลตอบแทยย้อนหลัง 1 ปี ,กองทุนเปิดกรุงไทยชาริอะฮ์หุ้นระยะยาว (KSLTF) ผลตอบแทนย้อนหลัง 3 เดือน –0.65% ผลตอบแทนย้อนหลัง 6 เดือน 15.29% ผลตอบแทนย้อนหลัง 1 ปี 35.29%
ขณะที่ 3 กองทุนตราสารทุนที่เหลือ ได้แก่ กองทุนเปิดกรุงไทยชาริอะฮ์เพื่อการเลี้ยงชีพ ( KSRMF) ให้ผลตอบแทนย้อนหลัง 3 เดือน 0.35% ผลตอบแทนย้อนหลัง 6 เดือน 17.11% ผลตอบแทนย้อนหลัง 1 ปี 36.86%,กองทุนเปิดกรุงไทยหุ้นระยะยาว70/30 (KLTF70/30) มีผลตอบแทนย้อนหลัง 3 เดือน 3.06% ผลตอบแทนย้อนหลัง 6 เดือน 19.68% และกองทุนเปิดหุ้นระยะยาวSET50 (KSET50LTF) ให้ผลตอบแทนย้อนหลัง 3 เดือน 1.98 % ผลตอบแทนย้อนหลัง 6 เดือน 14.42% ผลตอบแทนย้อนหลัง 1 ปี 45.78% ซึ่งทั้ง 2 กองทุนข้างต้นนี้ไม่มีข้อมูลผลตอบแทนย้อนหลัง 1 ปี เนื่องจากเป็นกองทุนใหม่ที่จัดตั้งขึ้นในช่วยเดือนกุมภาพันธ์และเดือนมิถุนายนของปีที่ผ่านมา
ส่วนผลดำเนินงานกองทุนรวมผสม จำนวน 3 กองทุนของบริษัทให้ผลตอบแทนดังนี้ 1.กองทุนเปิดไทยสร้างโอกาส (TOF) ให้ผลตอบแทนย้อนหลัง 3 เดือน 3.11% ผลตอบแทนย้อนหลัง 6 เดือน 15.21% ผลตอบแทนย้อนหลัง 1 ปี 36.71% , 2 . กองทุนเปิดกรุงไทยวางแผนภาษีเพื่อการเลี้ยงชีพ1 (RMF1) ให้ผลตอบแทนย้อนหลัง 3 เดือน 2.69% ผลตอบแทนย้อนหลัง 6 เดือน 14.94% ผลตอบแทนย้อนหลัง 1 ปี 39.01% และ3.กองทุนเปิดกรุงไทยธนวรรธน์ (KTTW) ผลตอบแทนย้อนหลัง 3 เดือน 3.16% ผลตอบแทนย้อนหลัง 6 เดือน 15.39% ผลตอบแทนย้อนหลัง 1 ปี 36.59%
สำหรับกองทุนรวมตราสารหนี้ของบลจ.กรุงไทย ทั้ง 4 กองทุนให้ผลตอบแทนดังนี้ กองทุนเปิดกรุงไทยตราสารหนี้ปันผล (KTDF) ให้ผลตอบแทนย้อนหลัง 3 เดือน 2.23% ผลตอบแทนย้อนหลัง 6 เดือน 1.49% ผลตอบแทนย้อนหลัง 1 ปี 5.53% ,กองทุนเปิดกรุงไทยวางแผนภาษีเพื่อการเลี้ยงชีพ2 (RMF2) ให้ผลตอบแทนย้อนหลัง 3 เดือน 2.61% ผลตอบแทนย้อนหลัง 6 เดือน 2.52% ผลตอบแทนย้อนหลัง 1 ปี 6.98%,กองทุนเปิดกรุงไทยมั่นคง (KTMK4) ให้ผลตอบแทนย้อนหลัง 3 เดือน 3.45% ผลตอบแทนย้อนหลัง 6 เดือน 3.19% ผลตอบแทนย้อนหลัง 1 ปี 5.14% และกองทุนเปิดกรุงไทยวางแผนภาษีเพื่อการเลี้ยงชีพ3(RMF3) ให้ผลตอบแทนย้อนหลัง 3 เดือน 2.73% ผลตอบแทนย้อนหลัง 6 เดือน 2.75% ผลตอบแทนย้อนหลัง 1 ปี 6.38%
สุดท้าย กองทุนเปิดกรุงไทยสะสมทรัพย์ (KTTS) ซึ่งเป็นกองทุนรวมประเภทลงทุนในตลาดเงิน ให้ผลตอบแทนย้อนหลัง 3 เดือนที่ 2.79% ผลตอบแทนย้อนหลัง 6 เดือน 2.73% ผลตอบแทนย้อนหลัง 1 ปี 3.62%
นายสมชัย บุญนำศิริ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) กรุงไทย จำกัด กล่าวถึงผลดำเนินงานกองทุนภายใต้การบริหารจัดการในปีที่ผ่านมาว่า ผลการดำเนินงานของทุนต่างๆของบริษัทอยู่ระดับที่ดีและอยู่ในอันดับต้นๆ โดยทุกกองทุนให้ผลตอบแทนสูงกว่าเกณฑ์มาตรฐาน และสูงกว่าอุตสาหกรรมกองทุนรวมอีกด้วย
นางสาวประไพ กวีวงศ์ประเสริฐ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บลจ.กรุงไทย กล่าวว่า ในปี 2550 กองทุนที่ บริษัทภูมิใจที่สุดนั่นคือกองทุนเปิดกรุงไทยวางแผนภาษีเพื่อการเลี้ยงชีพ2 (RMF2) และกองทุนเปิดกรุงไทยวางแผนภาษีเพื่อการเลี้ยงชีพ3 (RMF3) เนื่องจากทั้ง 2 กองทุนให้ผลตอบที่อยู่ในระดับสูง และติดอันดับที่ 1 และ2 จากการจัดอันดับกองทุน ด้วยอัตราแผนตอบแทนที่สูงกว่าเกณฑ์มาตราฐาน 5.15%
“กองทุน RMF2 และ RMF3 นั้นทางบริษัทเราให้ความใส่ใจกับกองทุนประเภทนี้อยู่สูง เพราะเป็นกองทุนที่ลงทุนระยะยาว เพราะผู้ลงทุนคือผู้ที่ต้องการได้รับผลตอบแทนในช่วงหลังเกษียณอายุ ดังนั้นทีมงานผู้จัดการกองทุนของบริษัทจึงทำงานโดยติดตามภาวะการลงทุนโดยตลอด โดยเน้นลงทุนในตราสารหนี้ภาครัฐที่มีความเสี่ยงต่ำ และมีระยะในเวลาในการลงทุนที่เหมาะสม เพื่อป้องกันไม่ให้ผลกระทบใดๆเข้ามาสร้างผลกระทบแก่เงินที่นำไปลงทุน”
ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บลจ.กรุงไทย กล่าวเพิ่มเติมว่า นอกเหนือจากทั้ง 2 กองทุนแล้ว ยังมีอีก 3 กองทุนของบริษัทที่ควรจับตามอง ได้แก่ กองทุนรวมตราสารทุน จำนวน 2 กองทุนนั่นคือ กองทุนเปิดกรุงไทย-ทรีนีตี้ปันผล (KTTN) เนื่องจากเป็นกองที่มีผลตอบแทนเติบโตสูงสุด โดยมีผลตอบแทนย้อนหลัง 1ปีสูงถึง 45.78% มากกว่าเกณฑ์มาตราฐานซึ่งอยู่ที่ 26.12% ถัดมาคือกองทุนเปิดกรุงไทยหุ้นระยะยาว (KLTF) ซึ่งให้ผลตอบแทนย้อนหลัง 1 ปี 39.38% โดยมีสาเหตุมาจากการคัดสรรหลักทรัพย์เพื่อการลงทุนที่ดี และเหมาะสมกับการลงทุนในช่วงเวลานั้นๆ
นอกจากนี้ กองทุนเปิดกรุงไทยสะสมทรัพย์ (KTSS) ซึ่งเป็นกองทุนรวมตลาดเงิน ยังเป็นอีกหนึ่งกองทุนที่บริษัทต้องการนำเสนอ เพราะให้ผลตอบแทนที่เติบโตสูงกว่าเกณฑ์มาตรฐานเช่นกัน โดยกองทุนดังกล่าวบริษัทให้นโยบายเน้นการลงทุนในพันธบัตรรัฐ หรือตราสารหนี้ที่มีความเสี่ยงต่ำ และเป็นการลงทุนในระยะสั้น ซึ่งคาดว่าในอนาคตกองทุนดังกล่าวจะให้ผลตอบแทนที่ดีเพิ่มขึ้นมากกว่านี้
ส่วนกรณี กองทุนเปิดกรุงไทยชาริอะฮ์หุ้นระยะยาว (KSLTF) ซึ่งมีผลตอบแทนย้อนหลัง 3 เดือน –0.65% นั้นทางบริษัทชี้แจงว่ามีสาเหตุมาจากความผันผวนของตลาดหุ้นไทยในช่วง 3 เดือนก่อนหน้า แต่เมื่อดูผล ผลตอบแทนย้อนหลัง 1 ปีที่อยู่ในระดับ 35.29% แล้วยังเติบโตสูงกว่าเกณฑ์มาตรฐานเช่นกัน
ทั้งนี้ บลจ. กรุงไทย จำกัด เปิดเผยถึงผลดำเนินงานกองทุนรวมภายใต้การจัดการสิ้นสุด ณ วันที่ 28 ธันวาคม 2550 ว่า สำหรับกองทุนรวมประเภทตราสารทุน จำนวน 7 กองทุน พบว่า กองทุนเปิดกรุงไทย-ทรีนีตี้ปันผล (KTTN) ให้ผลตอบแทนย้อนหลัง 3 เดือน 3.06% ผลตอบแทนย้อนหลัง 6 เดือน 19.68% ผลตอบแทนย้อนหลัง 1 ปี 45.78% , กองทุนเปิดกรุงไทยหุ้นระยะยาว (KLTF) ให้ผลตอบแทนให้ผลตอบแทนย้อนหลัง 3 เดือน 4.15% ผลตอบแทนย้อนหลัง 6 เดือน 17.13% ผลตอบแทนย้อนหลัง 1 ปี 39.38%,กองทุนเปิดกรุงไทยหุ้นทุนปันผล (KTSF) ผลตอบแทนย้อนหลัง 3 เดือน 4.93% ผลตอบแทนย้อนหลัง 6 เดือน 18.30% แต่ไม่มีผลตอบแทยย้อนหลัง 1 ปี ,กองทุนเปิดกรุงไทยชาริอะฮ์หุ้นระยะยาว (KSLTF) ผลตอบแทนย้อนหลัง 3 เดือน –0.65% ผลตอบแทนย้อนหลัง 6 เดือน 15.29% ผลตอบแทนย้อนหลัง 1 ปี 35.29%
ขณะที่ 3 กองทุนตราสารทุนที่เหลือ ได้แก่ กองทุนเปิดกรุงไทยชาริอะฮ์เพื่อการเลี้ยงชีพ ( KSRMF) ให้ผลตอบแทนย้อนหลัง 3 เดือน 0.35% ผลตอบแทนย้อนหลัง 6 เดือน 17.11% ผลตอบแทนย้อนหลัง 1 ปี 36.86%,กองทุนเปิดกรุงไทยหุ้นระยะยาว70/30 (KLTF70/30) มีผลตอบแทนย้อนหลัง 3 เดือน 3.06% ผลตอบแทนย้อนหลัง 6 เดือน 19.68% และกองทุนเปิดหุ้นระยะยาวSET50 (KSET50LTF) ให้ผลตอบแทนย้อนหลัง 3 เดือน 1.98 % ผลตอบแทนย้อนหลัง 6 เดือน 14.42% ผลตอบแทนย้อนหลัง 1 ปี 45.78% ซึ่งทั้ง 2 กองทุนข้างต้นนี้ไม่มีข้อมูลผลตอบแทนย้อนหลัง 1 ปี เนื่องจากเป็นกองทุนใหม่ที่จัดตั้งขึ้นในช่วยเดือนกุมภาพันธ์และเดือนมิถุนายนของปีที่ผ่านมา
ส่วนผลดำเนินงานกองทุนรวมผสม จำนวน 3 กองทุนของบริษัทให้ผลตอบแทนดังนี้ 1.กองทุนเปิดไทยสร้างโอกาส (TOF) ให้ผลตอบแทนย้อนหลัง 3 เดือน 3.11% ผลตอบแทนย้อนหลัง 6 เดือน 15.21% ผลตอบแทนย้อนหลัง 1 ปี 36.71% , 2 . กองทุนเปิดกรุงไทยวางแผนภาษีเพื่อการเลี้ยงชีพ1 (RMF1) ให้ผลตอบแทนย้อนหลัง 3 เดือน 2.69% ผลตอบแทนย้อนหลัง 6 เดือน 14.94% ผลตอบแทนย้อนหลัง 1 ปี 39.01% และ3.กองทุนเปิดกรุงไทยธนวรรธน์ (KTTW) ผลตอบแทนย้อนหลัง 3 เดือน 3.16% ผลตอบแทนย้อนหลัง 6 เดือน 15.39% ผลตอบแทนย้อนหลัง 1 ปี 36.59%
สำหรับกองทุนรวมตราสารหนี้ของบลจ.กรุงไทย ทั้ง 4 กองทุนให้ผลตอบแทนดังนี้ กองทุนเปิดกรุงไทยตราสารหนี้ปันผล (KTDF) ให้ผลตอบแทนย้อนหลัง 3 เดือน 2.23% ผลตอบแทนย้อนหลัง 6 เดือน 1.49% ผลตอบแทนย้อนหลัง 1 ปี 5.53% ,กองทุนเปิดกรุงไทยวางแผนภาษีเพื่อการเลี้ยงชีพ2 (RMF2) ให้ผลตอบแทนย้อนหลัง 3 เดือน 2.61% ผลตอบแทนย้อนหลัง 6 เดือน 2.52% ผลตอบแทนย้อนหลัง 1 ปี 6.98%,กองทุนเปิดกรุงไทยมั่นคง (KTMK4) ให้ผลตอบแทนย้อนหลัง 3 เดือน 3.45% ผลตอบแทนย้อนหลัง 6 เดือน 3.19% ผลตอบแทนย้อนหลัง 1 ปี 5.14% และกองทุนเปิดกรุงไทยวางแผนภาษีเพื่อการเลี้ยงชีพ3(RMF3) ให้ผลตอบแทนย้อนหลัง 3 เดือน 2.73% ผลตอบแทนย้อนหลัง 6 เดือน 2.75% ผลตอบแทนย้อนหลัง 1 ปี 6.38%
สุดท้าย กองทุนเปิดกรุงไทยสะสมทรัพย์ (KTTS) ซึ่งเป็นกองทุนรวมประเภทลงทุนในตลาดเงิน ให้ผลตอบแทนย้อนหลัง 3 เดือนที่ 2.79% ผลตอบแทนย้อนหลัง 6 เดือน 2.73% ผลตอบแทนย้อนหลัง 1 ปี 3.62%
