บลจ.กสิกรไทยประกาศจ่ายปันผล 3 กองทุนหุ้น 28 มกราคมนี้ K-EQUITY เจ๋งปันผลมากสุด 2.25 บาทต่อหน่วย ด้วยผลการดำเนินงานสุดหรู 1 ปีย้อนหลังฟันกำไรกว่า 44.09% ขณะที่กอง รวงข้าวทวีผล (RKF-HI) ไม่น้อยหน้าจ่าย 1.68 บาทต่อหน่วย ส่วน กอง70:30 ปันผลจ่าย 0.26 บาทต่อหน่วยจากผลงานที่ไม่น้อยหน้ากองแรก 1 ปีย้อนหลังให้ยิลด์สูงถึง 34.46%
รายงานจากบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน(บลจ.) กสิกรไทย จำกัด เปิดเผยว่า คณะกรรมการพิจารณาการลงทุนของบริษัทได้มีมติให้จ่ายเงินปันผลแก่ผู้ถือหน่วยลงทุนที่มีชื่อในสมุดทะเบียน ณ วันที่ 2 มกราคม 2551 ของกองทุนรวมจำนวน 3 กองทุน ในวันที่ 28 มกราคม 2551 ซึ่งประกอบด้วย กองทุนเปิดเคหุ้นทุน (K-EQUITY) กองทุนเปิดรวงข้าวทวีผล (RKF-HI) และกองทุนเปิดทุนทวีหุ้นระยะยาว70:30 ปันผล (K70LTF)
ทั้งนี้ กองทุนเปิดเคหุ้นทุน (K-EQUITY) จะทำการจ่ายปันผลแก่ผู้ถือหน่วยลงทุนในรอบระยะเวลาบัญชีระหว่างวันที่ 1 กรกฏาคม 2550- 31 ธันวาคม 2550 จำนวน 2.25 บาทต่อหน่วย และถือเป็นการจ่ายปันผลครั้งที่ 13 ตั้งแต่จัดตั้งกองทุน และมียอดในการจ่ายปันผลรวมทั้งหมด 16.58 บาท โดยกองทุนมีผลการดำเนินงานย้อนหลัง 3 เดือนอยู่ที่ 5.31% ย้อนหลัง 6 เดือนอยู่ที่ 20.15% และผลตอบแทน 1 ปีย้อนหลังอยู่ที่ 44.09%
สำหรับกองทุนเปิด K-EQUITY เป็นกองทุนรวมตราสารแห่งทุน ประเภทรับซื้อคืนหน่วยลงทุน ไม่กำหนดอายุโครงการ โดยเป็นกองทุนที่แก้ไขประเภทมาจากกองทุนรวงข้าว ซึ่งเป็นกองทุนประเภทไม่รับซื้อคืนหน่วยลงทุน โดยมีนโยบายการจ่ายเงินปันผลไม่เกินปีละ 2 ครั้ง ในอัตราไม่ต่ำกว่าร้อยละ 50 ของการเพิ่มขึ้นในสินทรัพย์สุทธิจากการดำเนินงานประจำแต่ละงวดบัญชี แต่จะสงวนสิทธิไม่จ่ายเงินปันผลในกรณีที่เงินปันผลต่อหน่วยที่คำนวณได้ต่ำกว่า 0.25 บาท ส่วนนโยบายการลงทุนกองทุนนี้จะเน้นลงทุนในหลักทรัพย์หรือทรัพย์สินอันเป็นหรือเกี่ยวข้องกับตราสารแห่งทุนเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 65 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน
ส่วนกองทุนเปิดรวงข้าวทวีผล (RKF-HI) จะทำการจ่ายเงินปันผลในรอบระยะเวลาบัญชี ระหว่างวันที่ 1 มกราคม 2550-31 ธันวาคม 2550 ในอัตรา 1.68 บาทต่อหน่วย และถือเป็นการจ่ายปันผลครั้งที่ 9 ตั้งแต่จัดตั้งกองทุน ซึ่งมียอดจ่ายปันผลรวมทั้งหมด 4.31 บาท โดยกองทุนนี้มีผลการดำเนินงานย้อนหลัง 3 เดือนอยู่ที่ 5.22%ย้อนหลัง 6 เดือนอยู่ที่ 20.03% และผลตอบแทน 1 ปีย้อนหลังอยู่ที่ 44.09%
ทั้งนี้ กองทุนเปิดรวงข้าวทวีผล เป็นกองทุนรวมตราสารแห่งทุน ประเภทรับซื้อคืนหน่วยลงทุน ไม่กำหนดอายุโครงการ โดยเป็นกองทุนที่แก้ไขประเภทมาจากกองทุนรวมรวงข้าวทวีผล ซึ่งเป็นกองทุนประเภทไม่รับซื้อคืนหน่วยลงทุน และมีนโยบายการจ่ายเงินปันผล และนโยบายการลงทุนเช่นเดียวกับกองทุน เปิด K-EQUITY
ขณะที่กองทุนเปิดทุนทวีหุ้นระยะยาว 70:30 ปันผล (K70LTF) จะทำการจ่ายเงินปันผลแก่ผู้ถือหน่วยลงทุนในรอบระยะเวลาบัญชีระหว่างวันที่ 1 มิถุนายน 2550 - 31 ธันวาคม 2550 ในอัตรา 0.26 บาทต่อหน่วย และถือเป็นการจ่ายปันผลครั้งที่ 4 รวม 1.04 บาทต่อหน่วยนับตั้งแต่มีการจัดตั้งกองทุน โดยกองทุนนี้มีผลการดำเนินงานย้อนหลัง 3 เดือนอยู่ที่ 4.30% ย้อนหลัง 6 เดือนอยู่ที่ 14.55% และผลตอบแทน 1 ปีย้อนหลังอยู่ที่ 34.46%
โดยนโยบายของกองทุนเปิด K70LTF จะเน้นลงทุนในหุ้นสามัญของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 65 และไม่เกินร้อยละ 70 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน และจะมุ่งเน้นลงทุนในหุ้นที่มีนโยบายหรือมีการจ่ายเงินปันผลอย่างสม่ำเสมอ แต่ไม่เกินปีละ 2 ครั้ง ในกรณีที่กองทุนมีกำไรสะสมและการจ่ายเงินปันผลไม่ทำให้เกิดผลขาดทุนสะสมในงวดบัญชีที่จ่ายเงินปันผลนั้น
สำหรับการจ่ายเงินปันผลของกองทุนนี้จะพิจารณาตามหลักเกณฑ์อย่างใดอย่างหนึ่งดังต่อไปนี้ 1. จ่ายจากเงินปันผลหรือดอกเบี้ยรับที่ได้รับจากทรัพย์สินของกองทุน 2. จ่ายในอัตราไม่เกินร้อยละ 30 ของกำไรสะสม หรือการเพิ่มขึ้นในสินทรัพย์สุทธิจากการดำเนินงานประจำแต่ละงวดบัญชีแล้วแต่จำนวนใดจะต่ำกว่า อย่างไรก็ตาม บริษัทจะไม่จ่ายเงินปันผล ในกรณีที่เงินปันผลต่อหน่วยที่คำนวณได้ต่ำกว่า 0.25 บาท เช่นเดียวกับทั้ง 2กองทุนข้างต้น
รายงานจากบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน(บลจ.) กสิกรไทย จำกัด เปิดเผยว่า คณะกรรมการพิจารณาการลงทุนของบริษัทได้มีมติให้จ่ายเงินปันผลแก่ผู้ถือหน่วยลงทุนที่มีชื่อในสมุดทะเบียน ณ วันที่ 2 มกราคม 2551 ของกองทุนรวมจำนวน 3 กองทุน ในวันที่ 28 มกราคม 2551 ซึ่งประกอบด้วย กองทุนเปิดเคหุ้นทุน (K-EQUITY) กองทุนเปิดรวงข้าวทวีผล (RKF-HI) และกองทุนเปิดทุนทวีหุ้นระยะยาว70:30 ปันผล (K70LTF)
ทั้งนี้ กองทุนเปิดเคหุ้นทุน (K-EQUITY) จะทำการจ่ายปันผลแก่ผู้ถือหน่วยลงทุนในรอบระยะเวลาบัญชีระหว่างวันที่ 1 กรกฏาคม 2550- 31 ธันวาคม 2550 จำนวน 2.25 บาทต่อหน่วย และถือเป็นการจ่ายปันผลครั้งที่ 13 ตั้งแต่จัดตั้งกองทุน และมียอดในการจ่ายปันผลรวมทั้งหมด 16.58 บาท โดยกองทุนมีผลการดำเนินงานย้อนหลัง 3 เดือนอยู่ที่ 5.31% ย้อนหลัง 6 เดือนอยู่ที่ 20.15% และผลตอบแทน 1 ปีย้อนหลังอยู่ที่ 44.09%
สำหรับกองทุนเปิด K-EQUITY เป็นกองทุนรวมตราสารแห่งทุน ประเภทรับซื้อคืนหน่วยลงทุน ไม่กำหนดอายุโครงการ โดยเป็นกองทุนที่แก้ไขประเภทมาจากกองทุนรวงข้าว ซึ่งเป็นกองทุนประเภทไม่รับซื้อคืนหน่วยลงทุน โดยมีนโยบายการจ่ายเงินปันผลไม่เกินปีละ 2 ครั้ง ในอัตราไม่ต่ำกว่าร้อยละ 50 ของการเพิ่มขึ้นในสินทรัพย์สุทธิจากการดำเนินงานประจำแต่ละงวดบัญชี แต่จะสงวนสิทธิไม่จ่ายเงินปันผลในกรณีที่เงินปันผลต่อหน่วยที่คำนวณได้ต่ำกว่า 0.25 บาท ส่วนนโยบายการลงทุนกองทุนนี้จะเน้นลงทุนในหลักทรัพย์หรือทรัพย์สินอันเป็นหรือเกี่ยวข้องกับตราสารแห่งทุนเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 65 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน
ส่วนกองทุนเปิดรวงข้าวทวีผล (RKF-HI) จะทำการจ่ายเงินปันผลในรอบระยะเวลาบัญชี ระหว่างวันที่ 1 มกราคม 2550-31 ธันวาคม 2550 ในอัตรา 1.68 บาทต่อหน่วย และถือเป็นการจ่ายปันผลครั้งที่ 9 ตั้งแต่จัดตั้งกองทุน ซึ่งมียอดจ่ายปันผลรวมทั้งหมด 4.31 บาท โดยกองทุนนี้มีผลการดำเนินงานย้อนหลัง 3 เดือนอยู่ที่ 5.22%ย้อนหลัง 6 เดือนอยู่ที่ 20.03% และผลตอบแทน 1 ปีย้อนหลังอยู่ที่ 44.09%
ทั้งนี้ กองทุนเปิดรวงข้าวทวีผล เป็นกองทุนรวมตราสารแห่งทุน ประเภทรับซื้อคืนหน่วยลงทุน ไม่กำหนดอายุโครงการ โดยเป็นกองทุนที่แก้ไขประเภทมาจากกองทุนรวมรวงข้าวทวีผล ซึ่งเป็นกองทุนประเภทไม่รับซื้อคืนหน่วยลงทุน และมีนโยบายการจ่ายเงินปันผล และนโยบายการลงทุนเช่นเดียวกับกองทุน เปิด K-EQUITY
ขณะที่กองทุนเปิดทุนทวีหุ้นระยะยาว 70:30 ปันผล (K70LTF) จะทำการจ่ายเงินปันผลแก่ผู้ถือหน่วยลงทุนในรอบระยะเวลาบัญชีระหว่างวันที่ 1 มิถุนายน 2550 - 31 ธันวาคม 2550 ในอัตรา 0.26 บาทต่อหน่วย และถือเป็นการจ่ายปันผลครั้งที่ 4 รวม 1.04 บาทต่อหน่วยนับตั้งแต่มีการจัดตั้งกองทุน โดยกองทุนนี้มีผลการดำเนินงานย้อนหลัง 3 เดือนอยู่ที่ 4.30% ย้อนหลัง 6 เดือนอยู่ที่ 14.55% และผลตอบแทน 1 ปีย้อนหลังอยู่ที่ 34.46%
โดยนโยบายของกองทุนเปิด K70LTF จะเน้นลงทุนในหุ้นสามัญของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 65 และไม่เกินร้อยละ 70 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน และจะมุ่งเน้นลงทุนในหุ้นที่มีนโยบายหรือมีการจ่ายเงินปันผลอย่างสม่ำเสมอ แต่ไม่เกินปีละ 2 ครั้ง ในกรณีที่กองทุนมีกำไรสะสมและการจ่ายเงินปันผลไม่ทำให้เกิดผลขาดทุนสะสมในงวดบัญชีที่จ่ายเงินปันผลนั้น
สำหรับการจ่ายเงินปันผลของกองทุนนี้จะพิจารณาตามหลักเกณฑ์อย่างใดอย่างหนึ่งดังต่อไปนี้ 1. จ่ายจากเงินปันผลหรือดอกเบี้ยรับที่ได้รับจากทรัพย์สินของกองทุน 2. จ่ายในอัตราไม่เกินร้อยละ 30 ของกำไรสะสม หรือการเพิ่มขึ้นในสินทรัพย์สุทธิจากการดำเนินงานประจำแต่ละงวดบัญชีแล้วแต่จำนวนใดจะต่ำกว่า อย่างไรก็ตาม บริษัทจะไม่จ่ายเงินปันผล ในกรณีที่เงินปันผลต่อหน่วยที่คำนวณได้ต่ำกว่า 0.25 บาท เช่นเดียวกับทั้ง 2กองทุนข้างต้น
