พะเยา - นายก อบต.แม่ลาวพะเยาออกโรงเตือนลูกบ้าน อย่าหลงเชื่อพวกหลอกลวงทางโทรศัพท์มือถือที่ระบาดหนัก ระบุหากใครหลงเชื่อเพราะความโลภอาจสูญเงินจนหมดตัว
นายเฉลิมชัย มีสุข นายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) แม่ลาว อ.เชียงคำ จ.พะเยา เปิดเผยว่า ขณะนี้มีแก๊งหลอกลวงทางโทรศัพท์เริ่มระบาดมาอีกแก๊งหนึ่ง ซึ่งลักษณะการทำงานของแก๊งดังกล่าวจะลวงผ่านทางโทรศัพท์มือถือ โดยเฉพาะกับคนทำงานที่มีเงินเดือนประจำ มีประวัติด้านการเงินกับธนาคารหรือสถาบันการเงินต่างๆ ทั้งในและนอกพื้นที่ บุคคลเหล่านี้คือกลุ่มเป้าหมายของการถูกหลอก
ล่าสุดตนและพนักงานธุรการใน อบต.แม่ลาว ก็ถูกโทรศัพท์มาลวงด้วย โดยผู้ที่โทร.มาจากปลายทางซึ่งไม่ทราบว่าจากที่ใดจะลวงว่าตนไปใช้บริการบัตรเครดิตซื้อสินค้าจำนวน 1-2 ครั้งแล้วไม่จ่ายเงินในจำนวนหลายหมื่นบาท เมื่อทางผู้ที่โทร.มาลวงอ้างว่าไปตรวจสอบเอกสารหลักฐานแล้วพบว่า เอกสารหลักฐานถูกทำลายไปแล้ว ขู่ให้ตนส่งเอกสารประกอบด้วยสำเนาบัตรประจำตัวประชาชน และสำเนาทะเบียนบ้านส่งกลับให้ไปอีกครั้งเพื่อจะนำเข้าไปสู่ระบบเคลียร์บัตรเครดิตดังกล่าว
นายเฉลิมชัย กล่าวต่อว่า จากการสังเกตพบว่าการลวงทางโทรศัพท์ของแก๊งดังกล่าวจะเจาะจงมาที่บุคคลที่มีประวัติการเงินกับธนาคารหรือสถาบันการเงินต่างๆ ซึ่งมีหลักฐานเป็นสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนและสำเนาทะเบียนบ้านปรากฏ ซึ่งสำเนาเอกสารดังกล่าวหากไม่มีการขีดคร่อมใช้เฉพาะกิจจะถูกนำไปใช้แอบอ้าง อันเป็นอันตรายกับเจ้าของเอกสารในภายหลัง
นอกจากนี้ หากสถาบันการเงินและธนาคารต่างๆ ไม่พึงรักษาความลับให้ลูกค้าก็สามารถทำให้อันตรายในลักษณะการลวงเช่นนี้เกิดกับลูกค้าได้ง่ายขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มบุคคลที่ชอบทำบัตรเครดิตจะมีโอกาสถูกลวงได้ง่ายมาก ดังนั้น ตนได้แนะนำพร้อมประสานงานไปยังผู้นำในพื้นที่ให้ประกาศแจ้งเตือนประชาชนระวัง อย่าทำบัตรเครดิตหรือทิ้งหลักฐานเอกสารไว้กับสถาบันการเงินใดๆ อย่างเด็ดขาด และอย่าได้โลภกับลาภที่มีการหยิบยื่นให้มิฉะนั้นอาจสูญทรัพย์สินทั้งหมดได้
นายเฉลิมชัย มีสุข นายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) แม่ลาว อ.เชียงคำ จ.พะเยา เปิดเผยว่า ขณะนี้มีแก๊งหลอกลวงทางโทรศัพท์เริ่มระบาดมาอีกแก๊งหนึ่ง ซึ่งลักษณะการทำงานของแก๊งดังกล่าวจะลวงผ่านทางโทรศัพท์มือถือ โดยเฉพาะกับคนทำงานที่มีเงินเดือนประจำ มีประวัติด้านการเงินกับธนาคารหรือสถาบันการเงินต่างๆ ทั้งในและนอกพื้นที่ บุคคลเหล่านี้คือกลุ่มเป้าหมายของการถูกหลอก
ล่าสุดตนและพนักงานธุรการใน อบต.แม่ลาว ก็ถูกโทรศัพท์มาลวงด้วย โดยผู้ที่โทร.มาจากปลายทางซึ่งไม่ทราบว่าจากที่ใดจะลวงว่าตนไปใช้บริการบัตรเครดิตซื้อสินค้าจำนวน 1-2 ครั้งแล้วไม่จ่ายเงินในจำนวนหลายหมื่นบาท เมื่อทางผู้ที่โทร.มาลวงอ้างว่าไปตรวจสอบเอกสารหลักฐานแล้วพบว่า เอกสารหลักฐานถูกทำลายไปแล้ว ขู่ให้ตนส่งเอกสารประกอบด้วยสำเนาบัตรประจำตัวประชาชน และสำเนาทะเบียนบ้านส่งกลับให้ไปอีกครั้งเพื่อจะนำเข้าไปสู่ระบบเคลียร์บัตรเครดิตดังกล่าว
นายเฉลิมชัย กล่าวต่อว่า จากการสังเกตพบว่าการลวงทางโทรศัพท์ของแก๊งดังกล่าวจะเจาะจงมาที่บุคคลที่มีประวัติการเงินกับธนาคารหรือสถาบันการเงินต่างๆ ซึ่งมีหลักฐานเป็นสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนและสำเนาทะเบียนบ้านปรากฏ ซึ่งสำเนาเอกสารดังกล่าวหากไม่มีการขีดคร่อมใช้เฉพาะกิจจะถูกนำไปใช้แอบอ้าง อันเป็นอันตรายกับเจ้าของเอกสารในภายหลัง
นอกจากนี้ หากสถาบันการเงินและธนาคารต่างๆ ไม่พึงรักษาความลับให้ลูกค้าก็สามารถทำให้อันตรายในลักษณะการลวงเช่นนี้เกิดกับลูกค้าได้ง่ายขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มบุคคลที่ชอบทำบัตรเครดิตจะมีโอกาสถูกลวงได้ง่ายมาก ดังนั้น ตนได้แนะนำพร้อมประสานงานไปยังผู้นำในพื้นที่ให้ประกาศแจ้งเตือนประชาชนระวัง อย่าทำบัตรเครดิตหรือทิ้งหลักฐานเอกสารไว้กับสถาบันการเงินใดๆ อย่างเด็ดขาด และอย่าได้โลภกับลาภที่มีการหยิบยื่นให้มิฉะนั้นอาจสูญทรัพย์สินทั้งหมดได้