xs
xsm
sm
md
lg

สอนลูกให้รู้จักค่าของเงิน (การให้และการลงทุน2)

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ดร. สมจินต์ ศรไพศาล
บลจ. วรรณ จำกัด


วันเด็กเป็นวันที่สำคัญที่สุดวันหนึ่งของปี เพราะเป็นวันที่ให้โอกาสเราในการแสดงความรักต่อเด็กๆซึ่งเป็นอนาคตของชาติ ท่านเตรียมของขวัญอะไรไว้สำหรับเด็กๆครับ

การให้เด็กสามระดับ

การให้อาจแบ่งได้ตามผลของการให้นั้นเป็นสามระดับ เช่น

ให้ความสุขได้ขณะหนึ่ง ผ่านแล้วก็แล้วไป เช่น การซื้อของเล่นให้ การพาไปสวนสนุก หรือ
ให้ความสุขพร้อมกับการเรียนรู้ในวันหนึ่ง แล้วก็จบไป เช่น พาไปท้องฟ้าจำลอง ไปดูสถานที่สำคัญต่างๆ หรือ

ให้ความสุขพร้อมการเรียนรู้ในวันนี้ โดยเป็นจุดเริ่มต้นของการเรียนรู้ต่อไปอย่างต่อเนื่อง เช่น การพาไปดูท้องฟ้าจำลองแล้วทำให้เกิดความสนใจในการศึกษาดาราศาสตร์ต่อไป เป็นต้น
โดยสรุป สามระดับของการให้ทำให้เกิดผลต่อไปนี้

ระดับแรก ความสุข
ระดับที่สอง ความสุข+การเรียนรู้

ระดับที่สาม ความสุข+การเรียนรู้+การเรียนรู้ต่อเนื่องไปในอนาคต

การให้ในระดับต่างๆ ล้วนมีประโยชน์ มีความสำคัญ และมีความเหมาะสมในโอกาสต่างๆกันไป ซึ่งพวกเราทุกคนควรหาโอกาสและสร้างโอกาสในการให้ให้ได้มากที่สุด บ่อยที่สุด เท่าที่จะทำได้ และในโอกาสใกล้วันเด็กนี้ผมอยากจะมุ่งเป้าไปยังเด็กและเยาวชนของเรา ว่าพวกเราสามารถจะทำให้เกิดการให้ในระดับสามได้อย่างไร โดยผมขอโฟกัสไปที่ความรู้ด้านการเงิน เพราะผมเชื่อว่า หากเด็กรุ่นใหม่ของเรามีความรู้เรื่องเงินเป็นอย่างดีแล้ว พวกเขาย่อมสามารถนำพาชีวิตให้ประสบความสำเร็จได้ และนั่นย่อมหมายถึง ความมั่งคงของสังคมเราอันเป็นผลมาจากความมั่นคงทางการเงินของพวกเขาเหล่านั้น แต่เราจะสอนพวกเขาเหล่านั้นได้อย่างไรล่ะ?

การเรียนรู้ก็เหมือนการกินข้าว แม้เราอยากจะให้ลูกกินอาหารดีมีประโยชน์ แต่เราไม่สามารถ บังคับให้เด็ก (รวมทั้งผู้ใหญ่ด้วย) ทานในสิ่งที่เขาไม่ชอบ สิ่งที่เราทำได้คือ การปรุงอาหารให้อร่อย จัดอาหารให้ดูน่าทาน แล้วให้เด็กเต็มใจที่จะทาน และทานด้วยความสุข สำหรับการเรียนรู้ เราก็ต้องทำให้เขารู้สึกเพลิดเพลินสนุกสนานไปกับการเรียนรู้ไปด้วยเช่นกัน ดังนั้นแม้เราจะมีหนังสือ how to ด้านการเงินมากพอสมควร แต่ส่วนใหญ่เขียนไว้ให้ผู้ใหญ่ที่มีความสนใจอย่างจริงจัง... อย่างไรก็ตาม ข่าวดีก็คือ เดี๋ยวนี้เราเริ่มมีสื่อที่มุ่งเป้าไปที่เยาวชนมากขึ้น มีหนังสือหลายเล่มที่น่าสนใจซึ่งผมอยากจะแนะนำไว้ในที่นี้ในฐานะของหนังสือที่ท่านสามารถจัดหาเป็นของขวัญวันเด็ก หรือวันสำคัญอื่นๆ เช่นวันเกิดได้เป็นอย่างดี เช่น

1. หนูเก็บเงินได้ 10 ล้านวอน หนังสือขายดีจากเกาหลี ซึ่งเป็นเรื่องเล่าของฮงเยดัม เด็กหญิงที่เรียนรู้เรื่องการเงินจากกระต่ายน้อยสีชมพู เขียนโดยคิม ซอนฮี

2. หมาน้อยสอนรวย จากหนังสือขายดีของเยอรมัน เป็นเรื่องของ เด็กหญิงคีร่า ที่ได้เรียนรู้จากหมาลาบราดอร์สีขาว เขียนโดย Bodo Schafer เศรษฐีตัวจริง แปลโดย เจนจิรา เสรีโยธิน

3. 51 คำถามเรียนรู้เศรษฐศาสตร์ใกล้ตัว ที่แปลโดย วรรณวรา จิราภัทร บรรณาธิการโดย คุณผาณิต เกิดโชคชัย และก็มีที่เป็นรูปแบบการ์ตูนอย่าง

4. พ่อจ๋า แม่จ๋า หนูอยากรวย การ์ตูนแปลจากเกาหลี โดยอุไรบุษบรรณ์ และ อก ซุน โด

5. ครอบครัวตึ๋งหนืด ซึ่งมีสองเล่มแล้ว ชื่อตอนยุทธการหนีความจน และหนทางสู่ความรวย บรรณาธิการแปลโดยคุณสุวภา เจริญยิ่ง นี่ก็จากเกาหลีอีกเหมือนกัน

6. เหรียญมหัศจรรย์ เป็นการรวบรวมหกผลงานที่ได้รับรางวัลโครงการประกวดหนังสือการ์ตูนนิยายภาพของตลาดหลักทรัพย์ฯ

หนังสือเหล่านี้ให้สาระในรูปแบบที่มีความบันเทิงควบคู่กันไปด้วย จึงเป็นการเริ่มต้นที่ดีมากของเด็กๆ อย่างไรก็ตาม การให้หนังสือเป็นของขวัญไม่ได้การันตีว่าเด็กๆจะหยิบขึ้นมาอ่าน (ผู้ใหญ่ก็เหมือนกันนั่นแหละ) ถ้าเป็นหนังสือการ์ตูนที่มีบันเทิงนำอย่างสนุกสนานจริงๆก็ง่ายหน่อย แต่ถ้าเป็นนิยายก็ยากขึ้นอีกนิดโดยเฉพาะกับเด็กเล็ก ดังนั้นท่านผู้ใหญ่อาจต้องมีกุศโลบายเสริมด้วย วิธีหนึ่งที่ผมใช้ก็คือ การชวนให้ผลัดกันอ่านคนละบท ทั้งพ่อ แม่ และลูกๆ ทั้งสามคน แต่ถ้าอ่านแบบโมโนโทนก็จะน่าเบื่อ ผมจึงชวนให้อ่านแบบเล่นละครวิทยุ คือ ผู้อ่านต้องพยายามใช้น้ำเสียงที่เร้าใจไปตามอารมณ์ของท้องเรื่อง และทำเสียงที่พยายามเลียนแบบบุคลิกภาพของตัวละครด้วย บางครั้งเราก็อ่านผิด อ่านสะดุด บางครั้งคนอ่านก็จงใจเติมคำพูดบางคำเข้าไปเพื่อแซวคนอื่น หรือทำให้ฟังเว่อๆแบบนักพากย์ละครก็เรียกเสียงฮาได้เสมอ เราเริ่มต้นจากหนังสือหนูเก็บเงินได้10ล้านวอน แล้วต่อด้วยหมาน้อยสอนรวย พวกเราใช้เวลาในรถตอนเดินทางไปโรงเรียนในตอนเวลาเช้าในการอ่านหนังสือพวกนี้ บ่อยครั้งพวกเราอยากให้เช้าเร็วๆ อยากให้รถติดขึ้นอีกนิด เพื่อเราจะได้รู้เรื่องต่อไปอีกหน่อย... (สำหรับท่านที่จะสงสัยว่าอายุเท่าใดจึงจะทำกิจกรรมในลักษณะนี้ได้ ผมไม่มีคำตอบที่ชัดเจน แต่เชื่อว่าเราค่อยๆสอนพวกเขาได้เสมอ เพื่อให้ตัวอย่างชัดเจนขึ้น ลูกทั้งสามของผมนั้น อายุ 14 12 และ 9 ขวบครับ)

สิ่งที่คาดไม่ถึงคือ ผมพบว่า หนังสือเหล่านี้ได้ให้แง่คิดมุมมองใหม่ในเรื่องการเงินให้กับผู้ใหญ่อย่างตัวผมเองได้อย่างดีในหลายๆ แง่มุมเช่นกัน และที่สำคัญผมได้เห็นความตระหนักรู้ในค่าของเงินเกิดขึ้นในพวกเด็กๆอย่างชัดเจน พวกเขาได้ชวนกันตั้งชมรมร่วมลงทุนกันขึ้น และเราได้เริ่มลงทุนกันโดยเริ่มที่กองทุนรวมและ TDEX (ThaiDEX SET50 ETF) ซึ่งเป็นการลงทุนที่กระจายใน 50 หุ้นใหญ่และมีสภาพคล่องสูงที่สุดในตลาดหลักทรัพย์ TDEX มีข้อดีคือ มีการกระจายความเสี่ยงค่อนข้างดีและสามารถติดตามดูความเคลื่อนไหวของราคาได้โดยง่ายผ่าน www.settrade.com www.set.or.th และซื้อขายผ่านโบรกเกอร์ได้ทุกแห่ง
 
ผมเชื่อว่าการให้เป็นสิ่งที่สำคัญของชีวิต การให้เป็นการแสดงออกถึงความรัก การให้ที่สำคัญของเรา คือการให้โอกาสการเรียนรู้เกี่ยวกับเงินให้กับเยาวชนของเรา ผมฝันอยากจะเห็นเยาวชนของเราได้เติบโตขึ้น เป็นคนอย่าง วอร์เรน บัฟเฟตต์ ที่รู้จักพอเพียงไม่ฟุ้งเฟ้อฟุ่มเฟือยแม้เป็นเศรษฐี และได้แบ่งปันทรัพย์ส่วนใหญ่ที่ตนหามาได้กลับคืนสู่สังคม ความมั่งคั่งของเขาจึงเป็นความมั่งคั่งของโลกด้วย

เรามาร่วมกันฝัน มาร่วมกันสร้างเยาวชนไทย ให้รู้จักสร้างความมั่งคั่งให้ตนและสังคมของเราร่วมกันนะครับ
กำลังโหลดความคิดเห็น