xs
xsm
sm
md
lg

สาวไม่หวาน…เจน จงสถิตย์วัฒนา ทายาท นานมีบุ๊คส์

เผยแพร่:   โดย: MGR Online




๐ ชื่อเจน จงสถิตย์วัฒนา
: อายุ 22 ปีค่ะ เจนเป็นลูกสาวคนเล็กของครอบครัว จงสถิตย์วัฒนา ต่อจากพี่คิม จงสถิตย์วัฒนา (พี่สาวคนโต) ปัจจุบันเจนเป็น ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ บ. AA Footwear Co.,Ltd. บริษัทของครอบครัว ซึ่งผลิตรองเท้า แบรนด์ PIERRE CARDIN (จากปารีส) แบรนด์ GEOX (จากอิตาลี)

หน้าที่หลักๆ : ปัจจุบัน เจนดูแลพนักงานขาย ดูยอดขายให้เป็นไปตามเป้าหมายของบริษัทค่ะ โดยโฟกัสเจาะจง รองเท้าแบรนด์ PIERRE CARDIN แบรนด์ GEOX ของผู้หญิง แม้ว่าจะรับหน้าที่เยอะขึ้นกว่าแต่ก่อนมาก แต่ก็ถือว่าสนุกดีค่ะ

๐ วันแรก : รู้สึกตื่นเต้นเหมือนพนักงานเข้าใหม่ (หัวเราะ) ซึ่งก็ไม่นานค่ะ ไม่ถึง 1 สัปดาห์ก็ผ่านไปได้ เพราะเจนพยายามเข้าหาคนอื่น ไปสวัสดีทักทายและแนะนำตัวค่ะ นี่คือบรรยากาศในการทำงานวันแรก

๐ เสน่ห์ของงาน : มีอะไรใหม่ๆ มาท้าทายแบบที่เราไม่เคยเจอมาก่อนทุกวันๆ ทำให้เราได้คิดแก้ไขปัญหาว่าจะต้องเป็นอย่างไร

๐ หมวยขี้ลืม : เจนเป็นคนที่ถ้ามีเรื่องอย่างอื่นเข้ามา เจนก็พร้อมจะลืมเรื่องที่ทำได้ทันที (หัวเราะ) ดังนั้นทุกวันนี้ ก่อนนอนเจนจะเขียนว่าพรุ่งนี้ต้องทำอะไรบ้าง เพื่อเตือนตัวเองว่า เราต้องทำอะไร แต่ก็ช่วยได้บ้างไม่ได้บ้าง จะว่าเป็นกรรมพันธุ์ก็ไม่ใช่ เพราะพ่อ แม่ พี่คิมก็ไม่เป็น

๐ นานมีบุ๊คส์ : เจนไม่ได้มีตำแหน่งอะไร แต่มีอะไรพี่คิมจะเป็นการปรึกษากันซะมากกว่า...เช่นว่า หนังสือนี้ จะต้องตั้งชื่อว่าอะไรดี จะต้องทำแผนการตลาดอย่างไรดีให้ขายได้ ให้เป็นที่รู้จัก พอได้หนังสือมาก็จะต้องมาดูว่าจะตั้งชื่อไทยว่าอะไร แล้วใครเป็นกลุ่มลูกค้า เหมือนกับวิธีการซื้อหนังจากต่างประเทศและต้องมาตั้งชื่อค่ะ

๐ นัก (ทำ)กิจกรรม : ตอนเรียนเจนชอบทำกิจกรรมค่ะ ตั้งแต่ตอนนั้นมัธยม (ร.ร.นานาชาติดัลลิช จ.ภูเก็ต) เล่นละครทุกๆ ปี ซึ่งมีอยู่ปีหนึ่งที่ได้รับบทเรื่องร้ายในตัวละครเพลงเรื่อง Grease ซึ่งเจนชอบมากๆ อยู่แล้ว ก็เลยรู้สึกว่าชอบเพลงที่ตัวร้ายได้ร้องเพลงด้วย ก็เลยรู้สึกประทับใจมากๆ 
       นอกจากนี้เจนขณะเรียนปริญญาตรีที่มิชิแกน (ประเทศสหรัฐฯ) เจนเคยเป็นประธานสมาคมนักเรียนไทย โดยจัดกิจกรรมส่งเสริมวัฒนธรรมไทย และเซาท์อีสต์เอเชีย จัดละครเวทีรำไทยและอื่นๆ อีกมากมาย ที่สำคัญเจนแสดงละครละครโดยรับบทเป็นรจนา ซึ่งก็สนุก และตื่นเต้นดีค่ะ

๐ ฉันไม่ใช่นางเอก : เห็นหน้าแบบนี้เหมือนจะเป็นสาวหวาน…แต่ไม่หวานนะคะ ถ้าเปรียบเป็นตัวละครในหนังสือเรื่องหนึ่ง แน่นอนว่า...เจนไม่ใช่นางเอกแน่นอนค่ะ (หัวเราะ)

๐ ประสบการณ์ต่างแดน : เจนเรียนบริหารธุรกิจ อยู่ที่อเมริกา 4 ปีเต็มๆ ค่ะ โดย 3 ปีแรกเจนเช่าอพาร์ตเมนท์อยู่กับพี่คิมตลอด แต่ปีสุดท้ายต้องอยู่คนเดียว ซึ่งก็หินมากค่ะ คือเจนก็ต้องซักผ้า ทำความสะอาดบ้าน ต้องล้างห้องน้ำเองทั้งหมด มันทำให้เราได้เรียนรู้ที่จะใช้ชีวิต อย่างน้อยๆ ก็ได้แมนเนจชีวิตเองโดยไม่มีผู้ใหญ่ที่จะมาค่อยดูแล
          ถามว่าเหงาไหม ไม่ค่ะ…เพราะเป็นเมืองที่มีกิจกรรมให้ทำเยอะ แม้จะเป็นเมืองเล็กๆ แต่ก็ปลอดภัยและอยู่สบายค่ะ ที่สำคัญชีวิตต่างประเทศมันทำให้เราโตขึ้น…เป็นการโตทางความคิดค่ะ

๐ ทำไมไม่ทำงานหนังสือ : นั่นนะซิ… (หัวเราะ) คือตั้งแต่ตอนเด็กๆ คุณพ่อ-แม่จะให้มาช่วยเรื่องงานหนังสือมากกว่าเรื่องรองเท้า เวลาปิดเทอม แรกๆ ก็ตั้งใจจะมาทำหนังสือเหมือนกัน ที่นี่ก็มีประชุมครอบครัวกัน ก็ถามว่าตกลงคิมอยากทำอะไร เจนอยากทำอะไร พี่ก็บอกว่า อยากทำหนังสือเจนก็ Ok เราก็ไม่ได้มี Reference ว่าต้องทำอะไรกว่ากัน เพราะชอบเหมือนกันทั้งสองอย่าง ก็เลยมาทำรองเท้า ซึ่งพอมาทำก็รู้ว่าชอบมากๆ (เน้นเสียง)

๐ ลงเอยที่บริหาร : ก่อนหน้านั้นเจนลงเรียนบัญชีการเงิน แล้วก็เรื่องการทำกลยุทธ์ให้บริษัท ดังนั้นเรื่องการเงินและเรื่องกลยุทธ์ให้บริษัทมันสำคัญในการที่เราจะกลับมาทำธุรกิจ ที่บ้านและตอนที่เจนกลับไป แรกๆ ก็ไม่รู้ว่าจะมาทำหนังสือหรือจะมาทำรองเท้า เจนเลยคิดว่าถ้าเรียนแบบนี้มันสามารถไปทำอะไรก็ได้

๐ งานอดิเรก : นอกจากชอบร้องเพลง กินอาหาร ไปเที่ยวทะเลแล้ว สิ่งที่เจนชอบมาตั้งแต่เด็กๆ เจนชอบอ่านหนังสือมากๆ คือตอนเด็กๆ คุณพ่อ-แม่ก็จะมาเล่านิทานอ่านหนังสือให้เราฟังก่อนนอน แต่อ่านครั้งละหนึ่งบท เราก็อยากฟังต่อๆ ท่านก็บอกว่านอนก่อน พรุ่งนี้ค่อยมาฟังใหม่มันเป็นการปลูกฝังการรักการอ่านมากๆ มาตั้งแต่เด็กๆ

๐ แฟนฉัน : นักเขียนในดวงใจเจนชอบ Paolo Coelho นักเขียนชาวบราซิล, J.K. Rowling, กิ่งฉัตร, วินทร์ เลียววาริณ

๐ นิทานก่อนนอน :
มันไม่ใช่นิทาน แต่เจนรู้สึกว่าใช่ เป็นเรื่องราวไดอารี่ของ แอน แฟรงค์ เด็กชาวยิวที่อยู่ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ทุกๆ คืนท่านก็มาอ่านเสียงเล็ก เสียงน้อยเล่าให้เราฟังว่าเขาเจออะไรบ้าง นี่คือนิทานเรื่องแรกตอนเด็กๆ ซึ่งก็เป็นการปลูกฝังให้เรารักการอ่านจนถึงวันนี้ค่ะ

๐ ทำไมคนไทยอ่านหนังสือน้อย : อันนี้ไม่เกี่ยวกับนานมีบุ๊คส์นะค่ะ เจนว่าในห้องสมุดที่ตัวเองเคยไปในประเทศ มีหนังสือน้อยมากแล้วก็ ส่วนใหญ่เป็นหนังสือเก่า ไม่อัปเดต บางทีเราก็รู้สึกว่าหลายๆ คนที่ไม่มีเงินไปซื้อหนังสือมาอ่าน ก็ต้องไปเช่า แล้วพอไปเข้าห้องสมุดก็มีไม่มาก หรือไม่มีหนังสือแบบที่เราสนใจจริงๆ พอเข้าไปปุ๊บ แล้วไม่รู้จะอ่านอะไร หรือมีความรู้สึกที่อยากจะอ่าน ก็ไม่รู้ว่าจะไปอ่านที่ไหน

๐ ถ้าวันนี้ไม่มีหนังสือในโลก : เจนจะเศร้ามากเลยค่ะ เพราะมันเหมือนกับมีอะไรที่สำคัญต่อชีวิตเราได้หายไป

๐ อนาคต : เจนอยากจะมีแบรนด์รองเท้า-กระเป๋าเป็นของตัวเอง เพราะว่าตอนนี้รองเท้ามันมียี่ห้อใหม่ๆ เกิดขึ้นมาเยอะเหมือนกัน เราก็ต้องหาจุดโหว่ที่มันยังขาดอยู่ ซึ่งปัจจุบันแบบรองเท้าก็ลอกกันไปลอกกันมา รองเท้าเฉพาะกลุ่มจริงๆ แล้วมันก็มีไม่เยอะมาก
          ส่วนอนาคตจะเห็นเจนเขียนหนังสือไหม อาจจะมีค่ะ เพราะมันเป็นความฝันหนึ่งตอนเด็กๆ อยากเขียนแนวฟิกชั่น

๐ ปรัชญาในการทำงาน : เป็นสิ่งที่คุณพ่อสอนมาตลอดว่า จงคิดว่าอย่าคิดว่าตัวเองเป็นคนที่เก่งที่สุด เพราะว่าเราควรจะฟังความคิดเห็นของคนอื่น เวลาที่จะทำอะไรควรจะปรึกษาคนอื่นก่อน เพราะมันจะเป็นความคิดรอบด้าน

                        *******************************

                                     หนังสือเล่มโปรด

          ครอบครัวตึ๋งหนืด/ หนังสือเล่มนี้มันแฝงความรู้ที่สอนคนดีมากๆ สอนให้เด็กรู้จักประหยัด ที่ชอบเพราะเหมือนกับว่ามุกที่มันใส่ในนี้มันขำๆ อ่านง่ายดีค่ะ เล่มนี้เจนอ่านเมื่อปีที่แล้วเพราะทุกๆ ครั้งที่มีหนังสือเล่มใหม่ๆ มาพี่คิมก็เอามาให้เรา ทดสอบก่อนว่าผ่านไหม ปรากฏว่า "ชอบ" ปิ๊ง…!

          ขุมทรัพย์สุดปลายฝัน (The Alchemist) / เล่มนี้เป็นเล่มของ Paolo Coelho ที่เจนชอบมากที่สุด มันเล่าเรื่องการเดินทางตามหาความฝัน โดยมีเด็กเป็นตัวเอก ซึ่งระหว่างทางเขาเจอะเจอหลายเรื่องมากๆ และพอตอนจบ เขาก็ยังหาความฝันไม่ค่อยเจอ และก็เลยกลับมาในจุดเริ่มต้นของเขา และก็พบว่า จริงๆ แล้ว สิ่งที่เขาค้นหามันอยู่ที่จุดเริ่มต้นของตัวเอง
          เจนอ่านเล่มนี้ตอน ม.6 อ่านแล้วมันให้แรงบันดาลใจที่ว่า บางครั้งเวลาเรารู้สึกท้อว่ามีปัญหาหรือมีอะไรเข้ามาในชีวิตเรา มันก็แบบเป็นการเดินทางอย่างหนึ่งนะที่จะทำให้เราเดินทางไปหาอีกจุดๆ หนึ่ง มันทำให้เราเรียนรู้มากขึ้น 

          ล้างหนี้เลือดของ โดย Daniel Silva / เล่มนี้เป็นนวนิยาย เล่าเรื่องของสายลับอิสราเอล โดยจะมีการสืบสวนมากมาย อ่านแล้วมันระทึกใจและประทับใจมากๆ ค่ะ เล่มนี้อ่านติดมือรีบๆ กินข้าวก็ต้องกลับมาอ่านต่อให้จบค่ะ (หัวเราะ)
          Harry Potter / เจนชอบเล่ม 6 ตอน : Harry Potter กับเจ้าชายเลือดผสม ที่ชอบมากที่สุด เพราะว่าเหมือนกับว่า เจนรู้สึกว่าเล่มนี้ Harry โตเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น แล้วก็ไปเผชิญกับโลกอยู่นอกโรงเรียนออกซ์ฟอร์ดมากขึ้น สนุกมาก
         เล่มนี้อ่านตอนแรกๆ ที่มันวางแผนเลย คือเราบังเอิญเจนอยู่ที่เซี่ยงไฮ้ เกือบ 4 ปีก่อน เจนไปเรียนภาษาจีนอยู่ 1 เดือน บังเอิญหนังสือเล่มนี้มันออกพอดี พอเป็นหนังเจนก็ติดตามมาตลอด ถ้าจะต้องให้คะแนนเจนให้ 7 เต็ม 10 คะแนนเลยค่ะ แต่ว่ารายละเอียดบางอย่างก็ขาดหายไป ก็เลยขออนุญาตตัดไป 3 คะแนนละกันค่ะ (หัวเราะ)

         Mr. Pig / ชื่อไทยงานหมูหรืองานหนักเราก็รักที่จะทำงาน (มั้ง) เล่มนี้เป็น
ของบล็อกเกอร์ของคนไต้หวัน เล่าเรื่องเกี่ยวกับ ขำๆ ในที่ทำงาน เช่น ในนั้นมันจะมีกฎ 80-20 ในการทำงาน 80% ของกำไรมาจากเพียงยอดจริงแค่ 20 % แต่ในที่ทำงานของเขา คน 80% ขายแรงงานเพื่อรับรายได้แค่ 20% ส่วนคน 20% ใช้แค่ลมปากเพี่อรับรายได้ 80% มันเป็นการประชดในการทำงานก็ขำๆ ดี เรื่องนี้อ่านไม่นาน 2 เดือนเอง

          ******************************************



กำลังโหลดความคิดเห็น