xs
xsm
sm
md
lg

BYD ปักหมุดกัมพูชา เปิดโรงงานประกอบรถไฟฟ้าแห่งแรกที่สีหนุวิลล์ ตั้งเป้าผลิต 1 หมื่นคันต่อปี

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


นายซุน จันทอล (Sun Chanthol) รองนายกรัฐมนตรีและรองประธานลำดับที่ 1 ของสภาเพื่อการพัฒนากัมพูชา (CDC) เป็นประธานในพิธีเปิดและเข้าเยี่ยมชมไลน์การผลิต
พนมเปญ – อุตสาหกรรมยานยนต์ในกัมพูชาเข้าสู่ศักราชใหม่ หลังยักษ์ใหญ่ค่ายรถยนต์ไฟฟ้าจากจีนอย่าง BYD Auto Industry ได้เริ่มเดินเครื่องสายการผลิตรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ในโรงงานประกอบแห่งใหม่ ณ เขตเศรษฐกิจพิเศษสีหนุวิลล์ (SSEZ) อย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 22 ธันวาคม 2568 โดยได้รับเกียรติจาก นายซุน จันทอล (Sun Chanthol) รองนายกรัฐมนตรีและรองประธานลำดับที่ 1 ของสภาเพื่อการพัฒนากัมพูชา (CDC) เป็นประธานในพิธีเปิดและเข้าเยี่ยมชมไลน์การผลิต

พิธีวางศิลาฤกษ์โรงงานก่อสร้างของบริษัท BYD Cambodia จำกัด เมื่อเดือนเมษายน ที่ผ่านมา
ไฮไลท์การลงทุนและแผนงาน
• มูลค่าการลงทุน: ประมาณ 32 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (กว่า 1,000 ล้านบาท) ในเฟสแรก
• กำลังการผลิต: สูงสุด 10,000 คันต่อปี เพื่อรองรับตลาดในประเทศและโอกาสในการส่งออก
• รูปแบบการผลิต: เป็นโรงงานประกอบชิ้นส่วน (Assembly Plant) โดยนำเข้าชิ้นส่วนจากต่างประเทศมาประกอบภายใต้ระบบ CKD (Completely Knocked Down)
• รุ่นที่คาดว่าจะผลิต: เน้นรถยนต์ไฟฟ้ายอดนิยมและระบบไฮบริด โดยปัจจุบันรุ่นที่ทำตลาดโดดเด่นในกัมพูชาคือ BYD Sealion 5 และ BYD Atto 2


ในพิธีเปิด นายซุน จันทอล ได้เน้นย้ำถึงความสำคัญของการถ่ายทอดเทคโนโลยี และได้ขอความร่วมมือให้ BYD พิจารณาการใช้ชิ้นส่วนหรือวัตถุดิบภายในประเทศกัมพูชามากขึ้น เพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับห่วงโซ่อุปทานท้องถิ่นและเพิ่มโอกาสการจ้างงานให้กับแรงงานชาวกัมพูชา



ตลาด EV กัมพูชาโตกระโดด
กัมพูชากำลังก้าวสู่ยุคพลังงานสะอาดอย่างเต็มตัว สะท้อนจากสถิติการจดทะเบียนรถยนต์ไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ:
• ยอดจดทะเบียน 9 เดือนแรกของปี 2568: พุ่งแตะ 5,571 คัน
• การเติบโต: ในปี 2567 ที่ผ่านมา ยอดจดทะเบียนโตกว่า 620% เมื่อเทียบกับปี 2566
• แบรนด์ยอดนิยม: BYD ครองใจผู้ใช้เป็นอันดับต้นๆ ร่วมกับ Toyota และ Tesla

โอกาสและความท้าทาย
ปัจจุบันกัมพูชามีโรงงานประกอบรถยนต์ระดับโลกตั้งฐานอยู่แล้วถึง 6 แห่ง ได้แก่ Ford, Toyota, Hyundai, Kia, Ssangyong และ GTV ซึ่งการเข้ามาของ BYD ในฐานะโรงงานแห่งล่าสุด จะช่วยผลักดันเป้าหมายของรัฐบาลกัมพูชาที่ต้องการเพิ่มยอดรถยนต์ไฟฟ้าให้ถึง 30,000 คัน ภายในปี 2030

อย่างไรก็ตาม ความท้าทายหลักยังคงเป็นเรื่องโครงสร้างพื้นฐาน โดยเฉพาะสถานีชาร์จสาธารณะที่ยังมีจำกัดและกระจุกตัวอยู่ในเมืองใหญ่อย่างพนมเปญและสีหนุวิลล์ ซึ่งจุดนี้ถือเป็น "โอกาสทอง" ของผู้ประกอบการไทยที่มีความเชี่ยวชาญด้านการผลิตชิ้นส่วนยานยนต์หรือระบบสถานีชาร์จ ในการเข้ามาเป็นพันธมิตรทางธุรกิจกับผู้ผลิตในกัมพูชาที่อุตสาหกรรมยังอยู่ในช่วงเริ่มต้น


กำลังโหลดความคิดเห็น