xs
xsm
sm
md
lg

จีนสะเทือน 5 ปี บริษัทรถ EV ล้มระนาว จาก 460 แบรนด์ เหลือแค่ 40 ราย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



คลื่นความไม่มั่นคงในวงการรถยนต์ไฟฟ้าจีนทวีความรุนแรง หลังเนต้า ล้มอย่างเป็นทางการ เผย 5 ปี EV จีนสูญกว่า 460 แบรนด์ ตอนนี้เหลือไม่ถึง 40 แบรนด์ บางรายขายไม่ถึง 1,000 คัน/เดือน ผู้บริโภคหวั่นซื้อมือหนึ่งเสี่ยงซ่อมไม่ได้ มือสองราคาดิ่ง ชี้คนไทยควรพิจารณาแบรนด์ใหญ่มั่นคง พร้อมระบบบริการหลังการขายที่เชื่อถือได้

ช่วงนี้วงการรถยนต์พลังงานไฟฟ้าของจีนเผชิญกับข่าวด้านลบอย่างต่อเนื่อง ทั้งจากข้อเท็จจริงและกระแสข่าวลือเกี่ยวกับอนาคตของอุตสาหกรรม EV โดยเฉพาะเมื่อมีการประกาศล้มละลายอย่างเป็นทางการของเนต้า หนึ่งในแบรนด์รถยนต์ EV ที่เคยมาแรง ยิ่งทำให้เกิดความหวาดหวั่นในหมู่ผู้บริโภคทั้งในจีนและตลาดต่างประเทศที่แบรนด์จีนเข้าไปทำตลาด รวมถึงประเทศไทย


แม้ในปี 2025 จีนยังคงเดินหน้าเข้าสู่ยุครถยนต์พลังงานใหม่แบบเต็มตัว แต่ภาพรวมของอุตสาหกรรมกลับอยู่ในช่วง "ลดความร้อนแรง" จากช่วงเร่งการเติบโตสูงในอดีต โดยสิ่งที่น่ากังวลที่สุดคือ การล้มละลายของบริษัทรถยนต์ EV จำนวนมาก

รายงานล่าสุดระบุว่า ตั้งแต่ปี 2020 ถึง 2024 ภายในเวลาเพียง 5 ปี มีแบรนด์รถ EV ในจีนสูญหายไปมากกว่า 460 แบรนด์ จากที่เคยมีมากกว่า 500 เหลืออยู่เพียงราว 40 กว่าแบรนด์ที่ยังคงมีสถานะ "ดำเนินกิจการ" ได้ ขณะเดียวกันแบรนด์ที่มียอดขายต่ำกว่า 1,000 คันต่อเดือน ก็กำลังถูกตลาดคัดออกอย่างต่อเนื่อง


ผลกระทบที่เกิดขึ้นนั้นรุนแรง โดยเฉพาะกับผู้ใช้รถยนต์กว่า 160,000 รายในจีนที่ใช้รถจากแบรนด์ที่ล้มละลาย พวกเขาต้องเผชิญกับปัญหาใหญ่หลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นการปิดศูนย์บริการ การขาดแคลนชิ้นส่วนสำคัญอย่างแบตเตอรี่หรือมอเตอร์ ปัญหาการซ่อมแซมที่ไร้คำตอบ รวมถึงบริษัทประกันที่ปฏิเสธให้ความคุ้มครอง ตัวอย่างเช่น เนต้า ซึ่งมีรายงานว่าเบี้ยประกันสูงขึ้นกว่า 40% และลูกค้าหลายรายไม่สามารถซื้อประกันภัยรถยนต์ได้อีกเลย

ในด้านมูลค่าขายต่อ รถยนต์จากแบรนด์ที่เลิกผลิต ถูกประเมินราคาต่ำจนน่าตกใจ บางรุ่นแทบไม่ต่างจากเศษเหล็ก ขณะที่รถยนต์ EV ที่อิงเทคโนโลยีอัจฉริยะจำนวนมากยังพึ่งพาการควบคุมผ่านแอปพลิเคชัน หากบริษัทต้นสังกัดล่มหรือระบบเซิร์ฟเวอร์ปิด ผู้ใช้จะไม่สามารถใช้งานฟังก์ชันสำคัญของรถได้ เช่น การปลดล็อกผ่านบลูทูธ การอัปเดตระบบ หรือแม้แต่ระบบนำทาง



ปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นไม่เพียงบั่นทอนความเชื่อมั่นของผู้บริโภค แต่ยังสะท้อนจุดอ่อนที่สำคัญของอุตสาหกรรม EV จีน ซึ่งอยู่ระหว่างการเปลี่ยนผ่านจาก "ยุคบูม" สู่ "ยุคคัดกรอง" อย่างแท้จริง

สำหรับผู้บริโภคไทย การเลือกซื้อรถยนต์ EV ควรพิจารณาให้รอบคอบ โดยเลือกแบรนด์ที่มีความมั่นคงทางธุรกิจ มีระบบบริการหลังการขายที่เข้มแข็ง และเครือข่ายศูนย์บริการที่พร้อมดูแลในระยะยาว


ในขณะที่ฝั่งจีน ภาครัฐและภาคอุตสาหกรรมจำเป็นต้องร่วมกันวางกรอบการพัฒนาใหม่ เพื่อสร้าง “สนามแข่งขันที่ปลอดภัย ยั่งยืน และมีคุณภาพ” เพื่อไม่ให้รถยนต์ EV กลายเป็นเพียง “สินค้าใช้ครั้งเดียวแล้วทิ้ง” ในอนาคตอันใกล้



กำลังโหลดความคิดเห็น