IONIQ 5N ใหม่ รถไฟฟ้าสมรรถนะสูงขุมพลัง 601 แรงม้า พร้อมโหมด N Grin Boost เพิ่มกำลังสูงสุดเป็น 642 แรงม้า (สูงสุด 10 วินาที) อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. เพียง 3.4 วินาที เคาะราคาจำหน่าย 3,790,000 บาท
Hyundai IONIQ 5N ถูกพัฒนาขึ้นบนพื้นฐานของ IONIQ 5 โดยถือเป็นเวอร์ชันสมรรถนะสูงตระกูล N ของฮุนได ติดตั้งมอเตอร์ไฟฟ้าคู่กำลังสูงสุด 601 แรงม้า (HP) แรงบิดสูงสุด 740 นิวตัน-เมตร ที่มีโหมด N Grin Boost เพิ่มกำลังสูงสุดเป็น 641 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 770 นิวตัน-เมตร (สูงสุด 10 วินาที) สามารถทำอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ในเวลา 3.4 วินาที (โหมดปกติ 3.5 วินาที) ความเร็วสูงสุด 260 กม./ชม.
IONIQ 5N ติดตั้งแบตเตอรี่แบบ Lithium-ion ความจุ 84.0 kWh ระยะทางขับขี่สูงสุด 448 กิโลเมตร (ตามมาตรฐาน WLTP) รองรับการชาร์จด่วน DC กำลังสูงสุด 50 kW ระยะเวลาชาร์จจาก 10-80% ต่ำสุด 1.10 ชั่วโมง และรองรับระบบ Ultra-fast charging (DC) 350 kW ร่นระยะเวลาชาร์จเหลือ 18 นาที
IONIQ 5N ถูกติดตั้งฟังก์ชัน N-specialized เฉพาะรุ่น N ได้แก่ N Launch Control, LFB (Left Foot Braking), N Regeneration Braking, N Drift Optimizer, NGB (N Grin Boost) สูงสุด 10 วินาที, NTD (N Torque Distribution), NAS+ (N Active Sound+), N e-Shift, High-Performance N Theme Cluster, E-LSD (Electronic Limited Slip Differential), ECS (Electronic Controlled Suspension), NRS (N Road Sense), N Pedal, N Race และ NBP (N Battery Preconditioning)
ภายนอกของ IONIQ 5N ติดตั้งชุดแต่งรอบคันเฉพาะรุ่น N พร้อมช่องระบายอากาศด้านหน้าแบบ N Active Air Intakes ไฟหน้าและไฟท้ายแบบ Parametric Pixel LED พร้อมระบบเปิด-ปิดอัตโนมัติ, หลังคา Vision Roof พร้อมม่านบังแดดไฟฟ้า, ระบบปัดน้ำฝนอัตโนมัติ, กระจกมองข้างสีดำปรับ-พับด้วยไฟฟ้า, มือจับประตูแบบ Pop-up พร้อมเซ็นเซอร์, ประตูท้ายเปิด-ปิดด้วยไฟฟ้าพร้อมระบบ Smart และล้อ Forged ขนาด 21 นิ้ว หุ้มยาง Pirelli P-Zero ขนาด 275/35 R21
ภายในห้องโดยสารติดตั้งเบาะนั่งคู่หน้า N Light Sports Buckey Seat หุ้มหนัง Alcantara Suede สลับ Natural Leather Combined ปรับด้วยมือ, ระบบปรับเบาะอุ่น / เย็นคู่หน้า, พวงมาลัยดีไซน์เฉพาะรุ่น N พร้อมแป้น Regenerative Paddle Shifters, ไฟตกแต่ง Ambient Mood Light 64 สี, หน้าจอ Head-up Display และระบบ V2L จ่ายไฟสูงสุด 16A
อุปกรณ์มาตรฐานอื่นๆ ได้แก่ หน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่ 12.3 นิ้ว, หน้าจอสัมผัสขนาด 12.3 นิ้ว รองรับ Apple CarPlay / Android Auto แบบไร้สาย, ระบบเสียง BOSE 8 ลำโพง, กระจกมองหลัง Digital Center Mirror, ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ 2 โซน และที่ชาร์จโทรศัพท์มือถือไร้สาย (Wireless Charger)
ด้านระบบความปลอดภัยถูกติดตั้ง Hyundai SmartSense ประกอบด้วย ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ Smart Cruise Control with Stop and Go, ระบบเตือนและเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ FCA, ระบบเตือนและเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติที่ทางแยก FCA-JT, ระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตา BCA, ระบบป้องกันการเปิดประตูเมื่อมีรถวิ่งมาด้านข้าง SEA และกล้องมองภาพรอบทิศทาง SVM เป็นต้น
ตัวถังมีให้เลือกทั้งหมด 10 สี ได้แก่ สีฟ้า Performance Blue, สีดำ Abyss Black Pearl, สีเทา Cyber Grey Metallic, สีขาว Atlas White, สีเทา Ecotronic Grey Pearl, สีส้ม Soultronic Orange Pearl, สีฟ้า Performance Blue Matte, สีทอง Gravity Gold Matte, สีเทา Electronic Grey Matte และสีขาว Atlas White Matte (สี Matte เพิ่มเงิน 20,000 บาท)