BYD Shark กระบะขุมพลัง Plug-in Hybrid ถูกเปิดตัวอย่างเป็นทางการที่ประเทศเม็กซิโก พกขุมพลังรวมสูงสุด 430 แรงม้า พร้อมแบตเตอรี่ที่ให้ระยะทางขับขี่ในโหมดไฟฟ้าล้วนไกลสุดกว่า 100 กม. เคาะราคาเริ่มต้นเฉียด 2 ล้านบาท
มิติตัวถัง ยาว 5,457 มิลลิเมตร กว้าง 1,971 มิลลิเมตร สูง 1,925 มิลลิเมตร ระยะฐานล้อ 3,260 มิลลิเมตร รองรับน้ำหนักการลากจูง 2,500 กิโลเมตร มีให้เลือก 2 รุ่นย่อย พร้อมราคาจำหน่าย ได้แก่ รุ่น GL ราคา 899,980 เปโซ หรือประมาณ 1,950,000 บาท และรุ่น GS ราคา 969,800 เปโซ หรือประมาณ 2,100,000 บาท
BYD Shark ถูกพัฒนาขึ้นบนแพล็ตฟอร์ม DMO (Dual Mode Off Road / Plug-in Hybrid) ทำงานร่วมกันระหว่างเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบเทอร์โบ ความจุ 1.5 ลิตร และมอเตอร์ไฟฟ้าจำนวน 2 ตัว ให้กำลังรวมสูงสุด 430 แรงม้า ส่งกำลังไปยังล้อทั้งสี่ข้าง สามารถเร่งความเร็วจาก 0-100 กม./ชม. ในเวลาเพียง 5.7 วินาที และมีอัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ย 7.5 ลิตร ต่อ 100 กม. หรือประมาณ 13.3 กม./ลิตร
BYD Shark ติดตั้งแบตเตอรี่แบบ Blade Battery (LFP) ติดตั้งด้วยเทคโนโลยี Cell to Chassis กลายเป็นส่วนหนึ่งของแชสซีซ์ ช่วยเพิ่มความแข็งแรงของโครงสร้างขึ้น 38% มีขนาดความจุที่ 29.58 kWh สามารถขับขี่ในโหมดไฟฟ้าล้วนไกลสูงสุด 100 กม. (ตามมาตรฐาน NEDC) เมื่อรวมกับน้ำมันเต็มถังจะขับขี่ต่อเนื่องไกลสูงสุด 840 กม. รองรับการชาร์จด่วนจาก 30-80% ในเวลาราว 20 นาที และสามารถใช้เป็นแหล่งจ่ายไฟภายนอกได้ (VTOL)
ในตลาดเม็กซิโกถูกแบ่งออกเป็น 2 รุ่นย่อย คือ รุ่น GL และ GS มาพร้อมอุปกรณ์มาตรฐาน เช่น หน้าจออินโฟเทนเมนท์แบบสัมผัสขนาด 12.8 นิ้ว ที่สามารถปรับหมุนด้วยไฟฟ้า และหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่ขนาด 10.25 นิ้ว รองรับการสั่งงานด้วยเสียงเพียงเริ่มต้นพูดว่า "Hi BYD" โดยนอกจากจะรองรับ Apple CarPlay และ Android Auto ยังมีแอปพลิเคชันร้องคาราโอเกะ Stingray ที่พัฒนาโดย BYD เองอีกด้วย
นอกจากนี้ BYD Shark ยังถูกติดตั้งหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่บนกระจกหน้า W-HUD ขนาดใหญ่ถึง 12 นิ้ว สามารถแสดงผลการทำงานของระบบช่วยขับขี่ ADAS ได้ พร้อมด้วยระบบกล้องมองภาพ 540° ที่ประกอบด้วยกล้องมองภาพรอบคัน 360° และระบบแสดงภาพใต้ท้องรถ 180° ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการขับขี่แบบออฟโรด รวมถึงแท่นชาร์จไฟไร้สายที่สามารถจ่ายไฟได้ถึง 50W
BYD Shark ถูกติดตั้งระบบช่วยการขับขี่อัจฉริยะครบครัน เช่น ระบบควบคุมความเร็วแปรผันอัตโนมัติ (ACC), ระบบเตือนการชนด้านหน้า (FCW), ระบบช่วยเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ (AEB), ระบบเตือนการชนด้านท้าย (RCW), ระบบเตือนรถออกนอกเลน (LDW), ระบบป้องกันการชนรถคันที่สวนมา (ELKA) และระบบนำทางอัจฉริยะ (ICC - Intelligent Navigation System) เป็นต้น