ฮุนได ปฏิวัติวงการรถยนต์ไฟฟ้าชั้นนำของเมืองไทยด้วยการเปิดตัว IONIQ Lab ที่ทรู ดิจิทัล พาร์ค กรุงเทพฯ IONIQ Lab แสดงถึงสถานะความเป็นผู้นำระดับโลก และความเชี่ยวชาญด้านรถยนต์ไฟฟ้าขั้นสูงของฮุนได ตลอดจนส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์และความร่วมมือในประเทศ ผู้เข้าชมจะได้สัมผัส IONIQ 5 เจ้าของรางวัลระดับโลก, ยานยนต์ IONIQ 5 N ประสิทธิภาพสูง และอนาคตแห่งนวัตกรรมยานยนต์ไฟฟ้ามากมาย
ฮุนได มอเตอร์ ผู้บุกเบิกนวัตกรรมยานยนต์ไฟฟ้าระดับโลกในประเทศไทย สร้างปรากฏการณ์ความล้ำหน้าด้านเทคโนโลยีรถยนต์ไฟฟ้าครั้งสำคัญ เปิดตัวศูนย์นวัตกรรม “IONIQ Lab” ณ ทรู ดิจิทัล พาร์ค สร้างปรากฏการณ์ความล้ำหน้าทางเทคโนโลยีรถยนต์ไฟฟ้าครั้งสำคัญ และยังเป็นก้าวสำคัญของรถยนต์ไฟฟ้ารุ่น IONIQ 5 เจ้าของรางวัลระดับโลกจากหลายเวที ศูนย์แห่งนี้แสดงถึงความมุ่งมั่นของฮุนไดในการสร้างสรรค์อนาคตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น ผ่านการพัฒนานวัตกรรมที่ยั่งยืนสู่เมืองไทยและทั่วโลก
IONIQ Lab จะเป็นศูนย์รวมด้านนวัตกรรมและความยั่งยืน ซึ่งแสดงถึงความเป็นผู้นำระดับโลกและความเชี่ยวชาญด้านรถยนต์ไฟฟ้าขั้นสูงของฮุนได ตลอดจนส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์และสนับสนุนความร่วมมือของสำนักงานสาขาต่าง ๆ ของฮุนได โมบิลิตี้ ประเทศไทย นอกจากนี้ ยังเป็นศูนย์รวมทัศนะที่หลากหลายเพื่อสร้างองค์ความรู้เชิงลึกที่ทันสมัยเกี่ยวกับแนวโน้มและเทคโนโลยีต่าง ๆ ในแวดวงยานยนต์ทั่วโลก
นายเจ กิว จอง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ฮุนได โมบิลิตี้ (ประเทศไทย) กล่าวว่า “IONIQ Lab คืออีกหนึ่งปฐมบทอันน่าตื่นใจของแบรนด์ IONIQ หลังประสบความสำเร็จจากการเปิดตัวรุ่น IONIQ 5 ในเมืองไทย ซึ่งเราเชื่อว่าทุกคนควรมีส่วนร่วมในการสรรค์สร้างอนาคตที่สดใสของโลกใบนี้ร่วมกัน”
“IONIQ Lab คือศูนย์รวมแห่งนวัตกรรมและความยั่งยืน การผสาน 2 องค์ประกอบเป็นหนึ่งเดียวแสดงให้เห็นว่าฮุนไดมุ่งมั่นสร้างสรรค์อนาคตแห่งการเดินทางชั้นเลิศอย่างเต็มรูปแบบ โดย IONIQ Lab ถูกออกแบบให้เป็น ‘Pioneer Playground’ เพื่อยกระดับอิสรภาพในการเดินทาง การเชื่อมต่อออนไลน์ ความปลอดภัย และการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ศูนย์แห่งนี้ยังเน้นการพัฒนาและการเรียนรู้แบบไดนามิก เพื่อให้ผู้มาเยือนได้สัมผัสกับเทคโนโลยีและผลิตภัณฑ์ระดับพรีเมียมจากแบรนด์ IONIQ แบบครบวงจร”
การลงทุนสร้าง IONIQ Lab ในประเทศไทย สะท้อนถึงความสำคัญเชิงกลยุทธ์ของตลาดเมืองไทยในระดับภูมิภาคอาเซียนเพื่อการนำเสนอบริการและผลิตภัณฑ์ชั้นเลิศสู่การสร้างสรรค์อนาคตที่ยั่งยืนของฮุนได ทั้งยังตอกย้ำถึงความมุ่งมั่นยกระดับประสบการณ์ของลูกค้าชาวไทยให้เหนือกว่าความคาดหมายในทุกด้าน ซึ่งฮุนไดไม่เพียงเดินหน้าสู่อนาคตด้วยรถยนต์ไฟฟ้าเท่านั้น แต่ยังนำเสนออัตลักษณ์และพร้อมแบ่งปันเรื่องราวอันน่าทึ่งภายในโซนพิเศษของศูนย์ IONIQ Lab เพื่อให้ลูกค้าได้สัมผัสกับเทคโนโลยียานยนต์ไฟฟ้าของฮุนไดอย่างใกล้ชิด
IONIQ Lab ตั้งอยู่ชั้น 1 ของอาคารฝั่งตะวันตกภายในทรู ดิจิทัล พาร์ค ผ่านความร่วมมือกับกลุ่มซีพี ซึ่งเป็นองค์กรที่มีวิสัยทัศน์ร่วมกัน ศูนย์แห่งนี้จะช่วยส่งเสริมฮุนไดในการบุกเบิกนวัตกรรมและแนวปฏิบัติงานบนวิถีแห่งความยั่งยืน
นายเจ กิว จอง กล่าวต่อว่า “เราได้เลือกทรู ดิจิทัล พาร์ค เป็นพันธมิตรสำหรับการก่อตั้งศูนย์กลางแห่งความเป็นผู้นำและแนวทางปฏิบัติงานที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมตามวิสัยทัศน์ของแบรนด์ IONIQ ซึ่งมีเป้าหมายในการก้าวข้ามขีดจำกัดของการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าแบบเดิม ๆ”
“การผลักดันขีดจำกัดของเทคโนโลยีรถยนต์ไฟฟ้าของฮุนไดปรากฏให้เห็นอย่างเด่นชัดในทุกแง่มุมของ IONIQ 5 การเปิดตัว IONIQ Lab นับเป็นอีกหนึ่งหลักชัยอันน่าตื่นใจบนเส้นทางของ IONIQ 5 ที่ลูกค้าสามารถมาสัมผัสได้โดยตรง รถยนต์ไฟฟ้ารุ่นนี้แสดงให้เห็นถึงความก้าวหน้าครั้งสำคัญในการสร้างนิยามใหม่แห่งประสบการณ์การขับขี่ที่เหนือชั้น สำหรับผู้ที่ตื่นตัวต่อวิทยาการของโลกสมัยใหม่”
แรงบันดาลใจจากอดีตสู่การสรรค์สร้างงานออกแบบแห่งอนาคต
ในการออกแบบรถยนต์ IONIQ ทีมงานฮุนไดได้ตั้งเป้าหมายในการนำเสนอมาตรฐานดีไซน์ใหม่ทั้งภายในและภายนอก เพื่อกระตุ้นอารมณ์ความรู้สึกและสร้างแรงบันดาลใจด้วยนวัตกรรม “Parametric Pixels” อันโดดเด่นของแบรนด์ IONIQ ซึ่งเป็นผลงานระดับซิกเนเจอร์ที่มีเฉพาะในกลุ่มรถยนต์ไฟฟ้าเท่านั้น
รถยนต์ไฟฟ้า IONIQ 5 ที่เพิ่งเปิดตัวในไทยเมื่อเร็ว ๆ นี้ ได้พลิกโฉมประสบการณ์การเดินทางของฮุนไดไปอย่างสิ้นเชิงด้วยดีไซน์คลาสสิกเหนือกาลเวลาของ Pony Coupe รุ่นแรก ซึ่งเน้นรูปทรงที่โดดเด่นราวกับศิลปะโอริกามิ และมอบพื้นที่ห้องโดยสารที่กว้างขวาง และฟีเจอร์ความสะดวกสบายระดับพรีเมียม
คุณสมบัติอันโดดเด่นเหล่านี้ ทำให้ IONIQ 5 ได้รับรางวัลอันทรงเกียรติจากงาน World Car of the Year Awards 2022 ซึ่งคว้า 3 รางวัล ทั้งรางวัล Car of the Year, รางวัล Electric Vehicle of the Year และรางวัล Car Design of the Year นอกจากนี้ยังได้รับการยกย่องให้เป็น 2022 German Car of the Year และ 2022 UK Car of the Year โดยเฉพาะการออกแบบที่โดดเด่นยังได้รับการกย่องจากเวทีชั้นนำทั้ง Car Design, IDEA และอีกมากมาย
การผสานประสบการณ์ขับขี่ที่เร้าใจของแบรนด์ N เข้ากับเทคโนโลยีรถยนต์ไฟฟ้าที่ล้ำสมัย
IONIQ Lab รวบรวมแนวคิดงานออกแบบของ IONIQ 5 และฟีเจอร์นวัตกรรมใหม่ไว้ไว้อย่างครบครัน นอกจากนี้ ยังเป็นสัญลักษณ์ของยุคใหม่แห่งการก้าวข้ามขีดจำกัดทางนวัตกรรม และการกำหนดมาตรฐานใหม่ด้านความคาดหวังต่อยานยนต์ไฟฟ้า โดยแบรนด์ N มุ่งมั่นสร้างมาตรฐานใหม่ของยานยนต์ไฟฟ้าสมรรถนะสูง จากการผสานประสบการณ์ขับขี่ที่เร้าใจเข้ากับเทคโนโลยีรถยนต์ไฟฟ้าใหม่ล่าสุด
ความสำเร็จของแบรนด์ N ไม่ได้เกิดจากวงการมอเตอร์สปอร์ตเท่านั้น หากถูกขับเคลื่อนด้วยความมุ่งมั่นในการสร้างสรรค์ยานยนต์ที่มอบความเพลิดเพลินสูงสุดในยามขับขี่แก่ลูกค้าและแฟน ๆ ความมุ่งมั่นนี้ได้กลายเป็นจริงผ่านการพัฒนาผลิตภัณฑ์สำหรับลงแข่งในสนามมอเตอร์สปอร์ตระดับโลก อาทิ WRC, TCR และ Nürburgring 24 Hours ซึ่งผลลัพธ์จากการเข้าร่วมในมอเตอร์สปอร์ตและการพัฒนาเทคโนโลยีสมรรถนะขั้นสูง ทำให้ผู้ที่ชื่นชอบรถยนต์จำนวนมากกลายเป็นแฟนตัวยงของ Hyundai และแบรนด์ N ในที่สุด
นายจูน พาร์ค รองประธานกรรมการทีมกลยุทธ์ของแบรนด์ N จากสำนักงานใหญ่ บริษัท ฮุนได มอเตอร์กล่าวว่า “แบรนด์ N คือสัญลักษณ์แห่งความท้าทายทางเทคโนโลยีของฮุนได ซึ่งผสานจิตวิญญาณแห่งนวัตกรรมการเดินทางและการขับขี่ที่เร้าใจ โดยวิสัยทัศน์ด้านสมรรถนะของเรามีแรงบันดาลใจมาจากโลกมอเตอร์สปอร์ต และสร้างขึ้นบนเสาหลัก 3 ด้าน ได้แก่ Corner Rascal, Racetrack Capability และ Everyday Sportscar”
“ด้วยการมาถึงของยุคแห่งพลังงานไฟฟ้า ทำให้ IONIQ 5 N เป็นมาตรฐานใหม่ของรถยนต์ไฟฟ้าสมรรถนะสูง โดยเราได้จัดแสดงยานยนต์รุ่นนี้ที่ IONIQ Lab เป็นครั้งแรกในเมืองไทย เพื่อสื่อถึงความมุ่งมั่นในการรักษาไว้ซึ่งความสนุกสนานเร้าใจในการขับขี่ด้วยเทคโนโลยีรถยนต์ไฟฟ้าที่ดีที่สุดในปัจจุบัน เพราะ IONIQ 5 N ไม่เพียงแต่ถูกออกแบบเพื่อโลดแล่นในสนามแข่งเท่านั้น แต่ยังยกระดับการขับขี่ในชีวิตประจำวันให้กลายเป็นประสบการณ์อันตื่นเต้นเร้าใจ สมดังสโลแกนของแบรนด์ N ที่ว่า “Never Just Drive”
ฮุนได ขอเชิญลูกค้าและผู้สนใจร่วมค้นพบงานออกแบบที่ล้ำสมัยของ IONIQ 5 ซึ่งผสานเข้ากับเทคโนโลยีเพื่อการขับขี่ที่เร้าใจของแบรนด์ N ได้ที่ IONIQ Lab ภายในทรู ดิจิทัล พาร์ค ยานยนต์รุ่นพิเศษนี้ได้สร้างมาตรฐานใหม่ของการขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า ผ่านการนำเสนอแนวคิดที่ว่า “สมรรถนะอันเร้าใจไปด้วยกันได้กับสำนึกรักษ์สิ่งแวดล้อม”