เกรท วอลล์ มอเตอร์ เขย่ากระแสตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในไทยอีกครั้ง กับการเปิดตัวพร้อมราคา GWM TANK 500 และ TANK 300 HEV รถยนต์เอสยูวีพรีเมียมออฟโรดจากแบรนด์ TANK เอาใจผู้ขับขี่สายออฟโรดชาวไทย วันนี้เกรท วอลล์ มอเตอร์ เปิดราคารถทั้ง 2 รุ่น
TANK 500 HEV รุ่น PRO ราคา 2,049,000 บาท รุ่น ULTRA ราคา 2,269,000 บาท
TANK 300 HEV รุ่น PRO ราคา1,649,000 บาท รุ่น ULTRA ราคา 1,799,000 บาท
GWM TANK 500 HEV ที่วางจำหน่ายในประเทศไทยมีให้เลือก 2 รุ่นย่อย คือ PRO และ ULTRA มาพร้อมเครื่องยนต์ไฮบริด (HEV) ที่ทำงานร่วมกันระหว่างเครื่องยนต์เบนซิน 2.0 ลิตร เทอร์โบแปรผัน (VGT) กำลังสูงสุด 244 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 380 นิวตัน-เมตร และมอเตอร์ไฟฟ้ากำลังสูงสุด 106 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 268 นิวตัน-เมตร ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 9 สปีด (9HAT)
GWM TANK 500 HEV มีโหมดการขับขี่ให้เลือก 11 โหมด ได้แก่ โหมดปกติ, โหมดสปอร์ต, โหมดประหยัด และโหมดออฟโรด (โหมดพื้นโคลน, โหมดพื้นทราย, โหมดพื้นหิน, โหมด 4L, โหมด 4H, โหมดพื้นหิมะ และโหมดเชีี่ยวชาญ) รองรับการลุยน้ำลึกสูงสุด 800 มิลลิเมตร
การออกแบบทั้งภายนอกและภายในของ All New GWM TANK 500 มาพร้อมกับแนวคิด Luxury ที่ให้ทั้งความหรูหรา กว้างขวาง และสะดวกสบาย ใส่ใจทุกรายละเอียดด้วยวัสดุสีดำ สีดำเงา สีโครเมียม และสีเงิน แผงคอนโซลหน้าและชุดเกียร์แบบ Electronic Shifter สีทูโทน นาฬิกาแบบคลาสสิก เบาะหนัง NAPPA ลำโพง Infinity 12 ตัวที่พร้อมมอบความบันเทิงอย่างเต็มรูปแบบร่วมกับระบบแอมพลิฟายเออร์อิสระและระบบปรับระดับเสียงอัตโนมัติตามความเร็วรถ ฟังก์ชันไฟตกแต่งห้องโดยสารแบบหลากสีและเป็นจังหวะ เพื่อสร้างบรรยากาศภายในให้เพลิดเพลิน ระบบปรับอากาศอัตโนมัติแยกอิสระซ้าย-ขวา ระบบกรองอากาศ PM2.5 และระบบชาร์จโทรศัพท์แบบไร้สาย เพื่อช่วยให้การชาร์จโทรศัพท์มือถือเป็นไปได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว
เพื่อความสะดวกสบายในทุกมิติของการเดินทาง All New GWM TANK 500 มาพร้อมกับเบาะนั่งไฟฟ้าคู่หน้า ระบบเบาะนวดไฟฟ้า ระบบดันหลังปรับด้วยไฟฟ้า ระบบระบายอากาศ และเบาะหนัง NAPPA เพื่อช่วยผ่อนคลายความเมื่อยล้าให้ผู้ขับขี่ เบาะนั่งคนขับปรับไฟฟ้าได้ 8 ทิศทาง มีระบบ Memory Seat และระบบ Welcome Seat เพิ่มความสะดวกในการขึ้น-ลงรถ เบาะผู้โดยสารด้านหน้าปรับแบบไฟฟ้าได้ 6 ทิศทาง มีปุ่มปรับตำแหน่งเบาะผู้โดยสารด้านหน้าจากด้านคนขับ เบาะนั่งโดยสารแถวที่ 2 มีหน้าจอควบคุมระบบระบายอากาศ และเบาะระบายอากาศ เบาะนั่งโดยสารแถวที่ 3 มีพนักพิงปรับแบบไฟฟ้าที่เพิ่มความสะดวกด้วยตำแหน่งปรับพนักพิงบริเวณข้างประตูผู้โดยสารแถวที่ 2 และประตูท้าย ยิ่งไปกว่านั้น ส่วนของเบาะนั่งโดยสารแถวที่ 2 สามารถแยกพับเบาะได้แบบ 60:40 และเบาะนั่งแถวที่ 3 สามารถพับเรียบ เพื่อเพิ่มพื้นที่และความสะดวกในการใช้สอยตามอเนกประสงค์ได้อย่างเต็มที่
All New GWM TANK 500 ได้นำเสนอความสามารถในการอำนวยความสะดวกให้กับผู้ขับขี่โดยเฉพาะ ด้วยหน้าจอกลางอัจฉริยะแบบสัมผัสขนาด 14.6 นิ้ว ซึ่งรองรับความบันเทิงได้ทั้ง Apple CarPlay, Android Auto, MP5, Bluetooth, ระบบนำทาง, และแสดงข้อมูลการขับขี่ โดยหน้าจอกลางอัจฉริยะนี้สามารถเชื่อมต่อกับหน้าจอแสดงผลข้อมูลการขับขี่แบบดิจิทัลขนาด 12.3 นิ้ว และหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่บนกระจกด้านหน้า เพื่อเข้าถึงข้อมูลต่าง ๆ ได้อย่างปลอดภัยและง่ายดาย อีกทั้งรถยนต์รุ่นนี้ยังช่วยเพิ่มความคล่องตัวของการขับขี่ด้วยพวงมาลัยปรับแบบไฟฟ้า 4 ทิศทาง ระบบควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ (Paddle Shift) พร้อมสวิตช์ควบคุมเครื่องเสียงและสวิตช์ควบคุมจอแสดงข้อมูลการขับขี่ ระบบเปิด-ปิดล็อกประตูอัตโนมัติเมื่อเข้าใกล้และออกห่างจากรถ ระบบกุญแจ Smart Key และระบบ Push Start
นอกจากนี้ All New GWM TANK 500 ยังเพรียบพร้อมไปด้วยระบบช่วยเหลือการขับขี่แบบออฟโรดอันชาญฉลาดและล้ำสมัย ช่วยสร้างความเชื่อมั่นในความปลอดภัยและความมั่นใจในทุกการขับขี่ ไม่ว่าจะเป็น ระบบล็อกเฟืองขับด้านหน้าและด้านหลัง (Front & Rear Electric Differential Locks) ช่วยเพิ่มความสามารถในการขับขี่แบบออฟโรดของยานพาหนะเมื่อเผชิญกับทางลาดชัน โคลน ทะเลทราย และภูมิประเทศที่ซับซ้อนอื่น ๆ ด้วยกลไกการถ่ายโอนกำลัง ทำงานร่วมกันกับกลไกล็อกของกล่องถ่ายโอนทั้งล้อหน้าและล้อหลัง สร้างระบบขับเคลื่อนออฟโรดแบบ 3 locks เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการขับขี่ออฟโรดที่ดีเยี่ยม
ระบบช่วยกลับรถในพื้นที่แคบ (TANK Turn) ทันทีที่เปิดฟังก์ชัน เมื่อระบบตรวจพบความตั้งใจในการบังคับเลี้ยวมากเกินไป ระบบจะส่งแรงเบรกไปที่ล้อหลังด้านในเพื่อลดรัศมีวงเลี้ยว เพื่อช่วยให้รถสามารถเลี้ยวในวงแคบได้ ,ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบ Off-road (Offroad Cruise Control) ทันทีที่เปิดฟังก์ชัน ระบบจะควบคุมเครื่องยนต์และระบบเบรกโดยอัตโนมัติให้รถวิ่งด้วยความเร็วต่ำและความเร็วสม่ำเสมอ เพื่อให้ผู้ขับขี่ไม่เสียสมาธิและเพิ่มความปลอดภัยจากการควบคุมรถบนสภาพถนนที่ซับซ้อน ,ระบบตรวจจับความลึกของน้ำ (Wading Depth Detection) ทันทีที่เปิดฟังก์ชัน ระบบจะประเมินความลึกของระดับน้ำและแสดงผลของระดับน้ำประกอบภาพรถบนหน้าจอกลาง เพื่อความปลอดภัยของผู้ขับขี่เมื่อขับผ่านสภาพถนนที่มีน้ำท่วมขัง
ระบบแสดงภาพใต้ท้องรถ (Body Transparent) ทันทีที่เปิดฟังก์ชัน ระบบจะจดจำข้อมูลของพื้นที่รอบเส้นทางการขับขี่ของกล้องรอบตัวรถและสร้างภาพเสมือนแบบ 360 องศา จากมุมมองด้านบนของตัวรถ ในลักษณะแบบโปร่งใสเห็นพื้นผิวถนนด้านล่าง และแสดงภาพด้านหน้าของรถ ช่วยให้ผู้ขับขี่ทราบถึงสภาพถนนใต้ท้องรถ เพิ่มความปลอดภัยและประสบการณ์การขับขี่ให้ดียิ่งขึ้น
ยิ่งไปกว่านั้น All New GWM TANK 500 มาพร้อมกับระบบช่วยเหลือการขับขี่และระบบความปลอดภัยมากมาย ให้ทุกการเดินทางปลอดภัยไร้กังวล ได้แก่ ,ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผันพร้อมการช่วยเข้าโค้งอัจฉริยะ (Intelligent ACC) ,ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติที่ความเร็วต่ำ (TJA) ,ระบบช่วยจอดรถอัตโนมัติ 3 รูปแบบ (IIP) ,ระบบช่วยถอยหลังอัตโนมัติ (ARA) ,กล้องแสดงภาพรอบทิศทาง 360 องศา ,ระบบเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติบนทางตรงและทางแยก (AEBI) และระบบช่วยเบรกฉุกเฉินที่ความเร็วต่ำ (MEB) ,ระบบช่วยเตือนและเบรกเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง (RCTA/ RCTB) ,ระบบช่วยเลี่ยงการเข้าใกล้รถใหญ่จากด้านข้าง (WDS) ,ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน (LKA) ,ระบบช่วยเตือนเมื่อรถออกนอกเลน (LDW) ,ระบบช่วยรักษาระยะให้อยู่กลางเลน (LCK) ,ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลนในภาวะฉุกเฉิน (ELK) ,ระบบช่วยเตือนเมื่อต้องการเปลี่ยนเลน (LCA),ระบบช่วยชะลอความรุนแรงของการเกิดการชนซ้ำครั้งที่ 2 (SCM),ระบบช่วยลงทางลาดชัน (HDC) และระบบช่วยออกตัวบนทางชัน (HSA) ,ระบบช่วยเตือนการเปิดประตู (DOW) ,ระบบตรวจความดันลมยาง (TPMS)
ตัวถังภายนอกมีให้เลือกทั้งหมด 4 สี ได้แก่ สีขาว, สีดำ, สีเทา และสีเทาคริสตัล (เฉพาะรุ่น ULTRA) ภายในห้องโดยสารมีให้เลือก 2 สี ได้แก่ สีดำ และสีทูโทนน้ำเงิน-เบจ (เฉพาะรุ่น ULTRA สีเทาคริสตัล)
ขณะที่ GWM TANK 300 HEV เวอร์ชันไทยทั้ง 2 รุ่นย่อย พร้อมเครื่องยนต์ไฮบริด 2.0 ลิตรเทอร์โบ ก่อนประกาศราคาจำหน่ายอย่างเป็นทางการในวันที่ 28 กันยายนนี้
GWM TANK 300 HEV ถูกพัฒนาให้เป็นรถเอสยูวีขนาดรองลงมาจาก TANK 500 HEV ที่เปิดตัวพร้อมกัน โดยมีให้เลือกทั้งหมด 2 รุ่นย่อย คือ PRO และ ULTRA ติดตั้งเครื่องยนต์เบนซินไฮบริด 2.0 ลิตรเทอร์โบ พร้อมระบบขับเคลื่อนสี่ล้อทั้งคู่ โดยมีกำหนดเปิดตัวและประกาศราคาจำหน่ายในวันที่ 28 กันยายนนี้
TANK 300 HEV ถูกพัฒนาขึ้นบนแพล็ตฟอร์ม TANK สำหรับรถออฟโรดโดยเฉพาะ ติดตั้งเครื่องยนต์ไฮบริดที่ทำงานร่วมกันระหว่างเครื่องยนต์เบนซิน 2.0 ลิตรเทอร์โบ (VGT) กำลังสูงสุด 244 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 380 นิวตัน-เมตร และมอเตอร์ไฟฟ้ากำลังสูงสุด 106 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 268 นิวตัน-เมตร ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 9 สปีด (9HAT) ที่พัฒนาขึ้นสำหรับเครื่องยนต์ไฮบริดโดยเฉพาะ พร้อมระบบขับเคลื่อนสี่ล้อเป็นมาตรฐานทั้ง 2 รุ่นย่อย
โหมดการขับขี่มีให้เลือกทั้งหมด 7 โหมด ได้แก่ โหมดปกติ, โหมดสปอร์ต, โหมดประหยัด, โหมดพื้นหิมะ, โหมดพื้นโคลน, โหมดพื้นทราย และโหมด 4Lระบบกันสะเทือนด้านหน้าเป็นแบบอิสระดับเบิลครอสอาร์ม ด้านหลังแบบมัลติลิงก์ ติดตั้งระบบดิสก์เบรกทั้ง 4 ล้อ พร้อมด้วยล้ออัลลอยขนาด 17 นิ้วสีดำ หุ้มด้วยยาง A/T ขนาด 265/65 R17
อุปกรณ์มาตรฐานภายนอกของ GWM TANK 300 HEV (ขึ้นอยู่กับรุ่นย่อย) ประกอบด้วยไฟหน้า Intelligent LED, ระบบเปิด-ปิดไฟหน้าอัตโนมัติ, ระบบปรับไฟสูง-ต่ำอัตโนมัติ, ระบบ Follow me home, ไฟส่องสว่างเวลากลางวัน LED, ไฟตัดหมอกหน้า-หลัง LED, ไฟท้าย Vertical LED, หลังคาซันรูฟเปิด-ปิดด้วยไฟฟ้า, ราวหลังคา, เสาอากาศแบบ Shark Fin และล้ออัลลอยขนาด 17 นิ้ว
ภายในห้องโดยสารตกแต่งด้วยสีดำ ติดตั้งเบาะนั่งหุ้มหนัง Nappa ปรับไฟฟ้า 8 ทิศทางฝั่งผู้ขับขี่ พร้อมเมมโมรี่และ Welcome Seat และปรับไฟฟ้า 4 ทิศทางฝั่งผู้โดยสาร, ระบบนวดและระบายอากาศฝั่งผู้ขับขี่, เบาะนั่งแถวที่ 2 ปรับพนักพิงได้ 2 ระดับ, เบาะนั่งแถวที่ 2 ปรับพับแยก 60:40, หน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่ขนาด 12.3 นิ้ว, หน้าจออินโฟเทนเมนท์แบบสัมผัสขนาด 12.3 นิ้ว รองรับ Apple CarPlay / Android Auto, ระบบเชื่อมต่อ Bluetooth และลำโพง Infinity 8 ตำแหน่ง พร้อมซับวูฟเฟอร์
TANK 300 HEV ยังถูกติดตั้งพวงมาลัยหุ้มหนังพร้อม Paddle Shift, นาฬิกาแบบคลาสสิก, เกียร์ไฟฟ้า Electronic Shifter, กุญแจ Smart Key / ปุ่ม Push Start, ระบบปรับอากาศอัตโนมัติแยกซ้าย-ขวา พร้อมระบบกรองอากาศ PM2.5 และ Ionizer, ระบบ Wireless Charger, ช่อง USB หน้า-หลัง และสำหรับกล้องบันทึกภาพ, ช่องจ่ายไฟ 220 โวลต์ และไฟตกแต่ง Ambient Light
TANK 300 HEV ถูกติดตั้งระบบช่วยเหลือการขับขี่ที่ล้ำสมัย ประกอบด้วย ระบบควบคุมความเร็วแบบแปรผัน Intelligent ACC, ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติที่ความเร็วต่ำ (TJA), ระบบช่วยจอดรถอัตโนมัติ 3 รูปแบบ (IIP), ระบบช่วยถอยหลังอัตโนมัติ (ARA), กล้องแสดงภาพรอบทิศทาง 360 องศา, ระบบเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติบนทางตรงและทางแยก (AEBI), ระบบช่วยเตือนและเบรกเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง (RCTB), ระบบช่วยเลี่ยงการเข้าใกล้รถใหญ่จากด้านข้าง (WDS), ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน (LKA), ระบบช่วยเตือนเมื่อรถออกนอกเลน (LDW), ระบบช่วยรักษาระยะให้อยู่กลางเลน (LCK), ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลนในภาวะฉุกเฉิน (ELK), ระบบช่วยชะลอความรุนแรงของการเกิดการชนซ้ำครั้งที่ 2 (SCM), ระบบช่วยลงทางลาดชัน (HDC), ระบบช่วยออกตัวบนทางชัน (HSA), ระบบช่วยเตือนการเปิดประตู (DOW) และระบบตรวจความดันลมยาง (TPMS)
นอกจากนี้ ยังมีระบบช่วยเหลือการขับขี่แบบ Off-road ที่ประกอบไปด้วย ระบบล็อกเฟืองขับด้านหน้าและหลัง (Electric Differential Lock), ระบบช่วยกลับรถในพื้นที่แคบ (TANK Turn), ระบบ 4WD อัจฉริยะเจเนอเรชันที่ 2 (2H / AWD / 4L), ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบออฟโรด Off-road Cruise Control และระบบแสดงภาพใต้ท้องรถ (Body Transparent)
GWM TANK 300 HEV มีตัวถังให้เลือกทั้งหมด 4 สี ได้แก่ สีส้ม, สีดำ, สีเทา และสีขาว พร้อมห้องโดยสารภายในสีดำทั้งหมด (ลักษณะของเบาะจะแตกต่างระหว่างรุ่น PRO และ ULTRA)