“ซาปา”เป็นเมืองชายแดนตอนเหนือของประเทศเวียดนามที่อยู่ในจังหวัดหล่าวกายและอยู่บนความสูงเหนือระดับน้ำทะเลถึง1,650 เมตร จึงมีอากาศหนาวเย็นตลอดทั้งปีจุดเด่นของเมืองนี้คือการทำนาขั้นบันได ที่สวยงามตามธรรมชาติทำให้ซาปากลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่นักเดินทางต้องแวะเวียนกันมาตลอดทั้งปี
เมื่อเมืองสวยบรรยากาศดี ฟอร์ดประเทศไทยจึงเลือก “ซาปา” ให้เป็นสถานที่ทดสอบรถยนต์ “ฟอร์ด” เจเนอเรชันใหม่และใช้นาขั้นบันไดเป็นพื้นที่ทดสอบขับเพื่อโชว์นวัตกรรมและสมรรถนะ ภายใต้คอนเซ็ปต์‘Ford Next LevelExperience’ ถือเป็นการสร้างประสบการณ์ใหม่ให้กับสื่อมวลชนชาวไทยและต่างชาติได้สัมผัส
สำหรับรถยนต์ที่ฟอร์ดเตรียมไว้ให้เป็นรถฟอร์ดเจเนอเรชันใหม่ รุ่นย่อยล่าสุดทั้งฟอร์ด เรนเจอร์ เจเนอเรชันใหม่ รุ่นสตอร์มแทรคฟอร์ด เอเวอเรสต์ เจเนอเรชันใหม่ รุ่นไวลด์แทรค และฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์เจเนอเรชันใหม่ ทั้งรุ่นเครื่องยนต์ดีเซล 2.0 ลิตร และเบนซิน 3.0 ลิตร
กิจกรรมเริ่มต้นจากเมืองซาปามุ่งหน้าสู่อ่างเก็บน้ำเซียวมีที(Seo My Ty) ด้วยฝูงรถฟอร์ด4 โมเดล22 คัน ขับไปบนถนนที่เล็กแคบรถวิ่งกันควักไขว่บีบแตรกันเป็นว่าเล่นจนเข้าสู่ถนนชนบทที่คดเคี้ยวลัดเลาะไปตามไหล่เขาไต่ขึ้นไปเรื่อยๆ อารมณ์เหมือนขับขึ้นดอยในเมืองไทย ผ่านหมู่บ้านชาวเขาของคนเวียดนามมีของขายระหว่างทางและด้วยทางที่แคบ บางช่วงความกว้างของถนนพอดีกับตัวรถจึงเปิดใช้กล้องมองรอบคัน360 องศาเพื่อให้รถขับผ่านไปได้อย่างปลอดภัยเพราะกล้องช่วยให้มองเห็นอุปสรรคได้รอบตัว คนขับจะมีความมั่นใจมากขึ้น
อย่างที่กล่าวข้างต้นด้วยทางที่คดเคี้ยวและแคบการขับครั้งนี้จึงมีโอกาสทดสอบฟังก์ชั่นที่มีอยู่ในรถฟอร์ด ไม่ว่าจะเป็นการควบคุมพวงมาลัยรถการควบคุมรถ การหักเลี้ยว ระบบช่วงล่าง ทดสอบกำลังของเครื่องยนต์เวลาขึ้นเขาซึ่งคำตอบคือ ผ่านฉลุย ฟอร์ดเป็นรถที่ขับง่าย ไม่กังวลแม้บอดี้จะใหญ่ก็ตามส่วนคนนั่งก็สบายไม่มึนหัวแถมได้ชมทัศนียภาพทางธรรมชาติที่ล้อมรอบด้วยภูเขาและทุ่งนาขั้นบันไดอันเขียวขจีซึ่งเป็นเสน่ห์ของเมืองซาปา
เมื่อขบวนของพวกเรามาถึงอ่างเก็บน้ำเซียวมีที ทางเจ้าหน้าที่ได้แบ่งกลุ่มทดสอบรถฟอร์ด เจเนอเรชันใหม่ ไว้3 สถานีสำหรับกลุ่มผู้เขียนเริ่มจาก สถานีแรกทดสอบฟอร์ด เอเวอเรสต์ เจเนอเรชันใหม่รุ่นไวลด์แทรค
ทั้งนี้เพื่อให้สื่อมวลชนร่วมพิสูจน์คำนิยามของรถยนต์อเนกประสงค์สำหรับครอบครัวที่ผสานสมรรถนะเพื่อการผจญภัยเข้ากับความสะดวกสบายต่อยอดสมรรถนะและเทคโนโลยีด้วยดีไซน์ที่เป็นเอกลักษณ์แบบไวลด์แทรคอีกทั้งยังได้สัมผัสความพร้อมลุยทุกสถานการณ์กับการขับรถลุยน้ำได้สูงสุดถึง 800 มม .รวมถึงระบบขับเคลื่อนแบบ 4x4ที่มีตัวเลือกโหมดการขับขี่มากถึง 6 โหมด เพื่อให้เจ้าของรถสามารถเดินทางไปทุกสภาพพื้นผิว ได้อย่างสนุกสนาน ไม่ว่าจะเป็นการทดลองใช้โหมดการขับขี่แบบออฟโรด ทั้งในโหมดโคลน(Mud Mode)และการขับผ่านทางลื่นด้วยโหมดถนนลื่น(Slippery) การไต่หิน ลุยน้ำ ทุกอุปสรรคหากเลือกโหมดได้ถูกต้องต่อการใช้งานทุกอย่างก็ผ่านมาได้อย่างปลอดภัยและรู้สึกได้ถึงความไม่ยากต่อการขับขี่เมื่อเราต้องการที่จะลุยหรือเข้าป่า
สถานีที่ 2 เป็นการทดลองฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์ เจเนอเรชันใหม่ทั้งรุ่นเครื่องยนต์ดีเซล 2.0 ลิตร และเบนซิน3.0 ลิตร ถือเป็นก้าวข้ามความท้าทายไปอีกระดับกับบททดสอบสำหรับรถกระบะออฟโรดสมรรถนะสูง ที่อัดแน่นด้วยดีเอ็นเอฟอร์ด เพอร์ฟอร์มานซ์ที่ออกแบบมาเพื่อเอาชนะทุกสภาพถนน โดยสื่อมวลชนจะได้สัมผัสประสบการณ์การขับขี่แบบออฟโรดบนเส้นทางอันเต็มไปด้วยเนินหิน บ่อโคลน และทราย ด้วยโหมดการขับขี่ในฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์ เจนเนอเรชันใหม่ ที่มีมากถึง 7 โหมด และการใช้ฟังก์ชันTrail Controlซึ่งเปรียบเสมือนระบบควบคุมความเร็วแบบอัตโนมัติสำหรับเส้นทางออฟโรด ใช้ในการไต่ขึ้นและลงทางลาดชันทำให้ผู้ขับขี่ผ่านอุปสรรคที่ยากลำบากไปได้อย่างง่ายดาย ซึ่งแสดงให้เห็นถึงเทคโนโลยีการขับขี่ขั้นสูงตามมาตรฐานของฟอร์ดที่ยังมีทั้งระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว (ElectronicStability Program – ESP)ระบบป้องกันล้อหมุนฟรีTraction Controlพร้อมElectricBrake Booster ระบบลดความเสี่ยงจากการพลิกคว่ำ (Roll-OverMitigation – ROM) และฟีเจอร์เพื่อความปลอดภัยอื่นๆ อีกมากมาย โดยเฉพาะการใช้โหมดทราย เจ้าหน้าที่ให้กดเต็มที่บนทราย แม้รถจะมีอาการดิ้นเล็กน้อยแต่ระบบก็สามารถควบคุมได้และรู้สึกสนุกเมื่อได้ลองแถมมั่นใจต่อการขับมากขึ้นด้วย
ด้วยสถานีนี้ทำให้มีโอกาสลองเหยียบการควบคุมพวงมาลัย การคอนโทรลรถให้อยู่ในไลน์ที่กำหนด เมื่อเราทำได้การขับขี่ในสถานที่นี้จึงรู้สึกสนุกสนาน จนไม่อยากลงจากรถเลย
สถานีสุดท้ายไม่ได้มีการขับทดสอบ แต่เจ้าหน้าที่ได้อธิบายข้อดีของ ราวหลังคาและสปอร์ตบาร์แบบปรับได้ (Flexible Rack System)ของ ฟอร์ดเรนเจอร์ เจเนอเรชันใหม่ รุ่นสตอร์มแทรค เพื่อให้ผู้ขับขี่เลือกปรับรูปแบบสปอร์ตบาร์ได้อย่างสะดวกสบายกับความสามารถในการเลื่อนจุดล็อคได้ถึง 5ตำแหน่งด้วยมือเดียว ทั้งยังรองรับน้ำหนักได้สูงสุด80กก. (ขณะขับ) และ250กก. (ขณะจอด)และหลังจากนั้นให้สื่อมวลชนลองแข่งขันกันดู เพื่อทดสอบการบรรทุกเรือคายักและซัพบอร์ด ขึ้นไปติดตั้งบนราวหลังคางานนี้แข่งกันอย่างสนุกสนาน อีกทั้งยังร่วมเล่นกีฬาทางน้ำเพื่อจำลองการใช้งานจริงของผู้ใช้งานรถฟอร์ดเรนเจอร์ เจเนอเรชันใหม่รุ่นสตอร์มแทรค ที่มองหาการใช้งานรถกระบะที่เน้นความอเนกประสงค์มากกว่าที่เคย
ทั้งนี้ฟอร์ด เรนเจอร์ เจเนอเรชันใหม่ รุ่นสตอร์มแทรค ถือเป็นรถกระบะสมรรถนะสมบุกสมบันที่ได้รับการออกแบบมาให้ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์สุดท้าทายไปอีกขั้นด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่ไม่เคยมีมาก่อนในรถกระบะด้วยเครื่องยนต์ดีเซล 2.0 ลิตร เทอร์โบคู่ มอบพละกำลังสูงสุด 210 แรงม้าและแรงบิด 500 นิวตันเมตร พร้อมตัวเลือกระบบขับเคลื่อนแบบ 4x4 และ 4x2 มาพร้อมเทคโนโลยีระบบช่วยจอดอัจฉริยะ (Fully Automated Park Assist)เป็นครั้งแรกในตลาดรถกระบะ นอกเหนือจากฟอร์ดเรนเจอร์แร็พเตอร์ รถกระบะในตระกูลเพอร์ฟอร์มานซ์
สำหรับฟอร์ด เอเวอเรสต์ เจเนอเรชันใหม่ รุ่น ไวลด์แทรค อัดแน่นด้วยขุมพลังเครื่องยนต์ดีเซล 2.0 ลิตร เทอร์โบคู่ ทำงานร่วมกับเกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด แบบE-Shifter มอบพละกำลังสูงสุด 210 แรงม้า แรงบิด 500 นิวตันเมตร พร้อมระบบขับเคลื่อนแบบ 4x4 ที่มีตัวเลือกโหมดการขับขี่มากถึง 6 โหมด ได้แก่ Normal, Eco, Tow/ Haul, Slippery Mud/RutsและSandเพื่อสมรรถนะสูงสุดสำหรับการเดินทางบนทุกสภาพพื้นผิวและ ฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์ เจเนอเรชันใหม่ ทั้งรุ่นเครื่องยนต์ดีเซล 2.0 ลิตร และเบนซิน 3.0 ลิตร ที่ได้รับการพัฒนาต่อยอดจากฟอร์ด เรนเจอร์แร็พเตอร์รุ่นก่อนหน้า ด้วยรูปลักษณ์ที่ดุดัน เสริมเทคโนโลยีและฟีเจอร์ความปลอดภัยในการขับขี่ให้สายออฟโรดลุยได้ถึงใจกว่าที่เคย
กิจกรรมทดสอบรถในครั้งนี้จัดขึ้นเพื่อพิสูจน์สมรรถนะของรถฟอร์ด เจเนอเรชันใหม่ รุ่นย่อยล่าสุดที่ทีมวิศวกรของฟอร์ดออกแบบและพัฒนาขึ้นมาเพื่อมอบตัวเลือกใหม่ๆในการเป็นเจ้าของรถยนต์ที่ตอบโจทย์ แต่ละวัตถุประสงค์การใช้งานได้เหนือกว่าที่เคยมีมากิจกรรมในครั้งนี้จึงเป็นการเปิดประสบการณ์การขับขี่รถยนต์เต็มสมรรถนะ พร้อมพิสูจน์ระบบส่งกำลังและช่วงล่าง ความสะดวกสบายของอุปกรณ์ทั้งภายในและภายนอก รวมทั้งฟีเจอร์ช่วยในการขับขี่อัจฉริยะที่ครบครันเพื่อเพิ่มความอุ่นใจและความปลอดภัยสำหรับทุกการเดินทางแสดงให้เห็นถึงความเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยีใหม่ๆในอุตสาหกรรมยานยนต์ของฟอร์ด