สร้างความฉงนสงสัยให้กับเหล่า เทสลามาเนีย ทั่วโลก เมื่อ เทสลา ประกาศลดราคารถรถยอดนิยมอย่าง Model 3 และ Model Y ลงในหลายประเทศทั้งอเมริกา จีน และเอเชีย
ในช่วงปลายปีที่แล้ว เทสลา ประกาศลดราคาในอเมริกาเป็นจำนวนเงินถึง 7,500 ดอลลาร์ หรือราว 247,000 บาท หลังจากที่ยอดขายชะลอตัวอย่างมีนัยนะสำคัญเนื่องจากรัฐบาลสหรัฐได้ประกาศมอบส่วนลด 7,500 ดอลลาร์แก่ผู้ซื้อรถยนต์ไฟฟ้าหลังวันที่ 1 ม.ค. 2566 ทำให้ลูกค้าชะลอการซื้อออกไป เทสลาจึงต้องตัดสินใจประกาศลดราคาดังกล่าว สวนทางกับสิ่งที่ อีลอน มัสก์ ประกาศมาตลอดว่า “จะไม่มีการลดราคารถยนต์เทสลา”
ซ้ำร้ายไปกว่านั้น เทสลา ในประเทศจีน ยังได้ประกาศลดราคาจำหน่ายของ Model 3 และ Model Y ลงถึง 2 ครั้งในระเวลาห่างกันไม่ถึง 3 เดือนจนทำให้ลูกค้าชาวจีนที่ซื้อรถไปก่อนหน้าออกมาประท้วง โดยลดราคาลงรวมแล้ว 13-24% ตามแต่ละรุ่นย่อย ทำให้ราคาจำหน่ายของ ทั้งสองรุ่นในจีนเมื่อเทียบกันรุ่นต่อรุ่นต่ำกว่าราคาในสหรัฐราว 25-32% เลยทีเดียว
สำหรับราคาจำหน่ายของเทสลา Model 3 เริ่มต้นที่ 229,900 หยวน (ราว1,130,000 บาท) จากเดิม 265,900 หยวน (ราว1,310,000 บาท) ลดลง 36,000 หยวน (ราว 180,000บาท) ส่วน Model Y เริ่มต้นที่ 259,900 หยวน (ราว1,300,000บาท) จากเดิม 288,900 หยวน (ราว1,450,000บาท) ลดลงไป 29,000 หยวน (ราว145,000บาท)
ซึ่งตลาดประเทศจีนของเทสลาถือว่ามีจำนวนยอดขายที่สูงมากเป็นอันดับ 2 รองจากตลาดสหรัฐอเมริกา
ทั้งนี้ การลดราคาของเทสลายังคงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องในหลายประเทศ เช่น ญี่ปุ่น และ ออสเตรเลีย ที่มีการประกาศลดราคาราว 10% โดยเป็นที่คาดหมายว่า การลดราคาดังกล่าวเกิดขึ้นจากกำลังซื้อรถเทสลาของจีนอยู่ในภาวะตึงตัว สวนทางกับกำลังกำลังการผลิตของโรงงานเซี่ยงไฮ้ที่มีมากขึ้นหลังเทสลาเพิ่มการผลิตอย่างต่อเนื่อง
อย่างไรก็ตาม หากมองไปที่ตลาดยุโรป ยอดขายของเทสลา ยังอยู่ในช่วงขาขึ้น โดยมีอัตราการเติบโตในระดับสูงราว 90% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา
สำหรับประเทศไทย เทสลาเข้ามาทำตลาดโดยเปิดจำหน่าย 2 รุ่น คือ Model 3 และ Model Y ที่ผลิตจากโรงงานที่เซี่ยงไฮ้ ซึ่งหลังการเปิดตัวเพียงไม่ถึง 1 เดือนมีรายงานข่าวว่า ยอดจองสูงถึงระดับ 7,000 กว่าคันแล้ว ขณะที่การส่งมอบจะเริ่มต้นในช่วงเดือนกุมภาพันธ์นี้ สนนราคาตัวของเทสลา Model 3 ในไทยเริ่มต้นที่ 1,759,000 บาท โดยยังไม่มีการประกาศปรับเปลี่ยนราคาแต่อย่างใด
ในช่วงปลายปีที่แล้ว เทสลา ประกาศลดราคาในอเมริกาเป็นจำนวนเงินถึง 7,500 ดอลลาร์ หรือราว 247,000 บาท หลังจากที่ยอดขายชะลอตัวอย่างมีนัยนะสำคัญเนื่องจากรัฐบาลสหรัฐได้ประกาศมอบส่วนลด 7,500 ดอลลาร์แก่ผู้ซื้อรถยนต์ไฟฟ้าหลังวันที่ 1 ม.ค. 2566 ทำให้ลูกค้าชะลอการซื้อออกไป เทสลาจึงต้องตัดสินใจประกาศลดราคาดังกล่าว สวนทางกับสิ่งที่ อีลอน มัสก์ ประกาศมาตลอดว่า “จะไม่มีการลดราคารถยนต์เทสลา”
ซ้ำร้ายไปกว่านั้น เทสลา ในประเทศจีน ยังได้ประกาศลดราคาจำหน่ายของ Model 3 และ Model Y ลงถึง 2 ครั้งในระเวลาห่างกันไม่ถึง 3 เดือนจนทำให้ลูกค้าชาวจีนที่ซื้อรถไปก่อนหน้าออกมาประท้วง โดยลดราคาลงรวมแล้ว 13-24% ตามแต่ละรุ่นย่อย ทำให้ราคาจำหน่ายของ ทั้งสองรุ่นในจีนเมื่อเทียบกันรุ่นต่อรุ่นต่ำกว่าราคาในสหรัฐราว 25-32% เลยทีเดียว
สำหรับราคาจำหน่ายของเทสลา Model 3 เริ่มต้นที่ 229,900 หยวน (ราว1,130,000 บาท) จากเดิม 265,900 หยวน (ราว1,310,000 บาท) ลดลง 36,000 หยวน (ราว 180,000บาท) ส่วน Model Y เริ่มต้นที่ 259,900 หยวน (ราว1,300,000บาท) จากเดิม 288,900 หยวน (ราว1,450,000บาท) ลดลงไป 29,000 หยวน (ราว145,000บาท)
ซึ่งตลาดประเทศจีนของเทสลาถือว่ามีจำนวนยอดขายที่สูงมากเป็นอันดับ 2 รองจากตลาดสหรัฐอเมริกา
ทั้งนี้ การลดราคาของเทสลายังคงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องในหลายประเทศ เช่น ญี่ปุ่น และ ออสเตรเลีย ที่มีการประกาศลดราคาราว 10% โดยเป็นที่คาดหมายว่า การลดราคาดังกล่าวเกิดขึ้นจากกำลังซื้อรถเทสลาของจีนอยู่ในภาวะตึงตัว สวนทางกับกำลังกำลังการผลิตของโรงงานเซี่ยงไฮ้ที่มีมากขึ้นหลังเทสลาเพิ่มการผลิตอย่างต่อเนื่อง
อย่างไรก็ตาม หากมองไปที่ตลาดยุโรป ยอดขายของเทสลา ยังอยู่ในช่วงขาขึ้น โดยมีอัตราการเติบโตในระดับสูงราว 90% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา
สำหรับประเทศไทย เทสลาเข้ามาทำตลาดโดยเปิดจำหน่าย 2 รุ่น คือ Model 3 และ Model Y ที่ผลิตจากโรงงานที่เซี่ยงไฮ้ ซึ่งหลังการเปิดตัวเพียงไม่ถึง 1 เดือนมีรายงานข่าวว่า ยอดจองสูงถึงระดับ 7,000 กว่าคันแล้ว ขณะที่การส่งมอบจะเริ่มต้นในช่วงเดือนกุมภาพันธ์นี้ สนนราคาตัวของเทสลา Model 3 ในไทยเริ่มต้นที่ 1,759,000 บาท โดยยังไม่มีการประกาศปรับเปลี่ยนราคาแต่อย่างใด
