รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์เฟซบุ๊ก ระบุว่า 13 มกราคม 2566
เมื่อวานทั่วโลกติดเพิ่ม 299,928 คน ตายเพิ่ม 1,076 คน รวมแล้วติดไป 670,146,976 คน เสียชีวิตรวม 6,722,629 คน
5 อันดับแรกที่ติดเชื้อสูงสุดคือ ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ไต้หวัน สหรัฐอเมริกา และฮ่องกง
เมื่อวานนี้จำนวนติดเชื้อใหม่มีประเทศจากยุโรปและเอเชียครอง 7 ใน 10 อันดับแรก และ 17 ใน 20 อันดับแรกของโลก
จำนวนติดเชื้อใหม่ในแต่ละวันของทั่วโลกตอนนี้ มาจากทวีปเอเชียและยุโรป รวมกันคิดเป็นร้อยละ 93.97 ของทั้งโลก ในขณะที่จำนวนการเสียชีวิตคิดเป็นร้อยละ 82.43
ข้อมูลล่าสุดจากอิตาลี
เมื่อวานนี้ Novazzi F และคณะ จากประเทศอิตาลี ได้เผยแพร่ผลการวิเคราะห์สายพันธุ์ไวรัสโควิด-19 ที่ตรวจพบในกลุ่มคนที่เดินทางจากประเทศจีนเข้ามาในประเทศอิตาลีในช่วงเดือนธันวาคม 2565
เผยแพร่ในวารสารระดับสากล Eurosurveillance เมื่อ 12 มกราคม 2566
สาระสำคัญคือ จากการตรวจที่สนามบิน กรุงมิลาน วันที่ 26 ธันวาคม 2565 พบว่า อัตราการตรวจพบว่าติดเชื้อในผู้โดยสารมีตั้งแต่ 19%-42%
ในขณะที่การตรวจที่สนามบิน กรุงโรม วันที่ 29 ธันวาคม 2565 มีอัตราการตรวจพบว่าติดเชื้อในผู้โดยสารตั้งแต่ 11%-14%
ทั้งนี้สายพันธุ์ที่ตรวจพบ ส่วนใหญ่เป็น BA.5.2.48, BF.7.14 รวมถึงมี BQ.1.1 และอื่นๆ ด้วย (รูปที่ 1)
ในขณะที่ข้อมูลสายพันธุ์จาก GISAID ที่ทางประเทศจีนได้นำส่งตั้งแต่กันยายน 2565 ถึง 11 มกราคม 2566 นั้น ก็สะท้อนให้เห็นการกระจายของสายพันธุ์ย่อยต่างๆ ในแต่ละพื้นที่ โดยยังมี BF.7.14 และ BA.5.2.48 เป็นหลัก แต่บางพื้นที่ก็มีสายพันธุ์อื่นในสัดส่วนที่สูงและมีความหลากหลายเช่นกัน เช่น เซี่ยงไฮ้ (รูปที่ 2)
สำหรับไทยเรานั้น
การปะทุขึ้นมานั้นจะเป็นไปได้แน่นอน หากมีกิจกรรมเสี่ยงเพิ่มขึ้น มีการเดินทางระหว่างประเทศโดยมีจำนวนผู้ติดเชื้อที่เข้ามามากขึ้น ดังนั้นการป้องกันตัวอย่างสม่ำเสมอระหว่างที่ออกไปใช้ชีวิตประจำวันนอกบ้านจึงมีความสำคัญ
ใช้ชีวิตอย่างระมัดระวัง มีสติ ไม่ควรประมาท
การใส่หน้ากากอย่างถูกต้องสม่ำเสมอ จะช่วยลดความเสี่ยงลงไปได้มาก