ฮอนด้าแห่งสหรัฐอเมริกา ประกาศเปิดตัว “แอคคอร์ด” เจเนอเรชันที่ 11 ใหม่ ปรับดีไซน์ภายนอกหรูเฉียบเต็มพิกัด พร้อมขุมพลังที่มีให้เลือกทั้งเครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบ 1.5 ลิตร และไฮบริด 2.0 ลิตร ส่วนราคาจำหน่ายจะถูกประกาศอีกครั้ง
ฮอนด้า แอคคอร์ด เจเนอเรชันที่ 11 ใหม่ มาพร้อมรูปลักษณ์ภายนอกที่ถูกออกแบบขึ้นใหม่ทั้งหมด เน้นความเรียบหรูมากขึ้นกว่าโฉมปัจจุบันอย่างเห็นได้ชัด โดยชูจุดเด่นด้วยระบบ Google built-in เป็นครั้งแรกในรถฮอนด้า เพื่อให้สามารถใช้บริการต่างๆ ของกูเกิลได้อย่างไร้รอยต่อ พร้อมขุมพลังเบนซินเทอร์โบ 1.5 ลิตร ที่ปรับปรุงเพิ่มการตอบสนองต่อผู้ขับขี่ให้ดียิ่งขึ้น รวมถึงเครื่องยนต์เบนซินไฮบริด 2.0 ลิตร ที่แรงขึ้นกว่าเดิม วางจำหน่ายใน 6 รุ่นย่อย ได้แก่ LX, EX, Sport, EX-L, Sport-L และ Touring
ภายนอกของ แอคคอร์ด โฉมใหม่ ถูกติดตั้งไฟหน้าแบบแอลอีดีรูปทรงเรียวยาว เชื่อมเข้ากับกระจังหน้าทรงหกเหลี่ยมคว่ำ ซึ่งถือว่าเป็นดีไซน์ที่ค่อนข้างแปลกตาไปจากฮอนด้ารุ่นอื่นๆ ในปัจจุบัน ขณะที่กระโปรงหน้าถูกออกแบบให้มีความยื่นยาวเพื่อเพิ่มความภูมิฐานเช่นเดียวกับรถระดับหรู ขณะที่แนวหลังคาถูกออกแบบให้มีความลาดเทสไตล์รถฟาสต์แบ็ก ส่วนไฟท้ายแบบแอลอีดีมีลักษณะเป็นเส้นตรงยาวตลาดความกว้างของตัวรถ ช่วยเพิ่มความโดดเด่นในเวลากลางคืน
ตัวถังของของ แอคคอร์ด ใหม่ ยังมีความยาวเพิ่มขึ้นจากรุ่นปัจจุบัน 2.8 นิ้ว (ประมาณ 71 มิลลิเมตร) และเพิ่มระยะห่างระหว่างล้อคู่หลังขึ้นอีก 0.4 นิ้ว (ประมาณ 10 มิลลิเมตร) เพื่อช่วยให้ตัวรถดูกว้างและมั่นคงมากยิ่งขึ้น มีล้ออัลลอยให้เลือกทั้งขนาด 17 นิ้ว ในรุ่นเริ่มต้นไปจนถึงรุ่นกลาง และเพิ่มขนาดเป็น 19 นิ้ว ในรุ่นกลางไปจนถึงรุ่นท็อปสุด
ภายในห้องโดยสารถูกออกแบบไปในทิศทางเดียวกับ ซีวิค และ เอชอาร์-วี โฉมปัจจุบัน เน้นดีไซน์สไตล์มินิมอลมากยิ่งขึ้น ตกแต่งแผงคอนโซลหน้าด้วยตะแกรงไขว้ที่ช่วยเพิ่มความกลมกลืนให้กับช่องแอร์ อีกทั้งยังมีการใส่ใจรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ เช่น การออกแบบให้หัวเกียร์โน้มไปทางผู้ขับขี่อีก 5 องศา จึงสามารถวางแก้วน้ำขนาดใหญ่ไว้บริเวณช่องข้างคันเกียร์ได้ เสริมด้วยอุปกรณ์มาตรฐาน เช่น เช่น หน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่ขนาด 10.2 นิ้ว, เบาะนั่งผู้ขับขี่ปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง, หลังคามูนรูฟ, ระบบอุ่นเบาะคู่หน้า, ระบบปรับอากาศแบบแยกอุณหภูมิอิสระซ้าย-ขวา, พวงมาลัยและหัวเกียร์หุ้มหนัง
ฮอนด้า แอคคอร์ด ใหม่ ยังมีการติดตั้งหน้าจออินโฟเทนเมนท์แบบสัมผัสขนาดใหญ่ถึง 12.3 นิ้ว ซึ่งถือว่าใหญ่ที่สุดเท่าที่ฮอนด้าเคยติดตั้งมา รองรับการเชื่อมต่อ Wireless Apple Carplay และ Android Auto พร้อมด้วยปุ่มควบคุมระดับเสียงแยกต่างหากเพื่อการใช้งานที่ง่ายขึ้น อีกทั้งยังออกแบบให้มีแถบวางนิ้วมือขนาด 1 นิ้ว บริเวณส่วนล่างของหน้าจอ ทำให้การสั่งงานสะดวกมากขึ้นแม้ในขณะรถกำลังเคลื่อนที่อยู่ก็ตาม
ในรุ่น Touring ซึ่งเป็นรุ่นท็อปสุดยังถูกติดตั้งระบบ Google built-in เพื่อการใช้งานฟังก์ชันต่างๆ ของกูเกิลได้อย่างสะดวก ไม่ว่าจะเป็นระบบผู้ช่วยสั่งการ Google Assistant, ระบบแผนที่นำทาง Google Maps และยังสามารถดาวน์โหลดแอปพลิเคชันเพิ่มเติมผ่านทาง Google Play ได้ อีกทั้งยังถูกติดตั้งหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่บนกระจกบังลมหน้าขนาด 6 นิ้ว และระบบเสียง Bose ที่มีลำโพงถึง 12 ตำแหน่ง เสริมด้วยเทคโนโลยี Bose Centerpoint และระบบประมวลสัญญาณดิจิทัล Bose SurroundStage เพื่อคุณภาพเสียงที่สมบูรณ์แบบไม่ว่าจะอยู่ตำแหน่งใดของห้องโดยสารก็ตาม
ขุมพลังของ ฮอนด้า แอคคอร์ด เจเนอเรชันที่ 11 ในสหรัฐอเมริกา มีให้เลือกทั้งเครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบ 4 สูบ ขนาด 1.5 ลิตร กำลังสูงสุด 192 แรงม้า (HP) แรงบิดสูงสุด 260 นิวตัน-เมตร ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ CVT และเครื่องยนต์ไฮบริดที่ทำงานร่วมกันระหว่างเครื่องยนต์เบนซิน Atkinson-cycle ขนาด 2.0 ลิตร และมอเตอร์ไฟฟ้าจำนวน 2 ตัว ให้กำลังรวมสูงสุด 204 แรงม้า (HP) แรงบิดสูงสุด 335 นิวตัน-เมตร มีโหมดการขับขี่ให้เลือก 4 โหมด คือ ECON, Normal, Sport และ Individual (รุ่นเทอร์โบมีเฉพาะ ECON และ Normal เท่านั้น)
ส่วนราคาจำหน่ายอย่างเป็นทางการในสหรัฐฮเมริกาจะถูกประกาศอีกครั้ง
