xs
xsm
sm
md
lg

BMW เปิดตัว X1 ใหม่ พร้อมส่ง iX1 ขุมพลังไฟฟ้าล้วนเป็นครั้งแรก

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



บีเอ็มดับเบิลยูประกาศเปิดตัว “X1” ใหม่ ปรับดีไซน์ภายนอกเน้นความทันสมัยยิ่งขึ้น พร้อมหน้าจอ BMW Curved Display และระบบปฏิบัติการ BMW Operating System 8 เป็นมาตรฐานในทุกคัน มีขุมพลังให้เลือกทั้งเครื่องยนต์เบนซินไมลด์ไฮบริด, ดีเซลไมลด์ไฮบริด, ปลั๊กอินไฮบริด รวมถึงขุมพลังไฟฟ้าล้วนในรุ่น iX1 ที่เพิ่งถูกเปิดตัวเป็นอีกหนึ่งทางเลือก


บีเอ็มดับเบิลยู X1 ใหม่ ถูกพัฒนาต่อเนื่องมาเป็นเจเนอเรชันที่ 3 แล้ว โดยถือเป็นรถอเนกประสงค์แบบ SAV รุ่นเริ่มต้นของบีเอ็มดับเบิลยู ถูกติดตั้งไฟหน้าแบบแอลอีดีเป็นอุปกรณ์มาตรฐานในทุกรุ่นย่อย และสามารถเลือกอัปเกรดเป็นไฟหน้าแบบ Adaptive LED ที่มีฟังก์ชันไฟสูง Matrix high beam ได้ โดยยังคงเอกลักษณ์กระจังหน้าทรงไตคู่ที่คราวนี้ถูกออกแบบให้มีขนาดใหญ่ขึ้นจนเกือบจะเป็นรูปสี่เหลี่ยมจตุรัส พร้อมด้วยไฟท้ายแบบแอลอีดีที่ถูกออกแบบให้เป็นรูปตัวแอล ขณะที่ล้ออัลลอยมีให้เลือกตั้งแต่ขนาด 17 นิ้ว ไปจนถึง 20 นิ้ว

ขณะที่ช่วงล่างมีการติดตั้งระบบป้องกันการลื่นไถลของล้อ (Near-actuator wheel slip limitation) เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการยึดเกาะถนนควบคู่ไปกับความมั่นคงในการขับขี่ และยังคงสามารถติดตั้งช่วงล่างแบบ Adaptive M Suspension ที่สามารถเลือกปรับความหนืด และลดความสูงของช่วงล่างลง 15 มิลลิเมตรได้


ภายในห้องโดยสารถูกออกแบบขึ้นใหม่ทั้งหมด ถูกติดตั้งหน้าจอ BMW Curved Display และระบบปฏิบัติการ BMW Operating System 8 เป็นมาตรฐานในทุกคัน ทำงานผ่านหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่ขนาด 10.25 นิ้ว และหน้าจอควบคุมสั่งการแบบสัมผัสขนาด 10.7 นิ้ว เสริมด้วยปุ่มควบคุม BMW iDrive ที่พัฒนาขึ้นใหม่เพื่อรองรับการสัมผัสและระบบสั่งงานด้วยเสียงได้ดียิ่งขึ้น พร้อมทั้งระบบนำทาง BMW Maps ผ่านระบบคลาวด์ และฟังก์ชันมุมมองแบบ Augmented View เป็นครั้งแรกในรุ่น X1 อีกทั้งยังมีฟีเจอร์ถ่ายภาพจากกล้องภายในห้องโดยสารเพื่อส่งไปยังสมาร์ทโฟนของเจ้าของรถได้อีกด้วย

ด้านระบบช่วยเหลือการขับขี่ยังมีให้แบบแน่นเอี๊ยดเมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า โดยทุกคันมาพร้อมระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ Cruise Control with brake function และระบบเตือนการชนด้านหน้า Front-coliision warning system ที่สามารถตรวจจับรถที่วิ่งมาในทางตรงกันข้ามในขณะเลี้ยวได้ เสริมด้วยระบบช่วยจอด Parking Assistant, กล้องมองภาพด้านหลัง Reversing Assist Camera และระบบช่วยถอยหลังอัตโนมัติ Reversing Assistant ที่มีให้ในทุกคันเช่นเดียวกัน


ขณะที่ระบบความปลอดภัยเพิ่มเติมประกอบด้วย ระบบช่วยควบคุมพวงมาลัย Steering and Lane Control Assistant, ระบบควบคุมความเร็วแบบแปรผันอัตโนมัติ Active Cruise Control with Stop&Go function, กล้องมองภาพรอบคัน Surround View และ Remote 3D View, ระบบบันทึกการขับขี่ BMW Drive Recorder และระบบอัปเกรดซอฟต์แวร์ Remote Software Upgrades ที่ช่วยให้สามารถเพิ่มฟีเจอร์อื่นๆ ในอนาคตได้


ด้านขุมพลังของ X1 มีให้เลือกทั้งเครื่องยนต์ปลั๊กอินไฮบริดภายใต้รหัส X1 xDrive30e ที่อาศัยเทคโนโลยี BMW eDrive เจเนอเรชันที่ 5 พร้อมด้วยเครื่องยนต์เบนซินและดีเซลที่มีเทคโนโลยี Mild-hybrid 48V ที่ช่วยเสริมการทำงานของเกียร์อัตโนมัติ 7 สปีดเพื่อลดอัตราสิ้นเปลืองและช่วยให้ส่งกำลังได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น


เริ่มต้นด้วยเครื่องยนต์เบนซินไมลด์ไฮบริดรหัส X1 sDrive18i เครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบ 3 สูบ กำลังสูงสุด 136 แรงม้า ตามด้วย X1 xDrive23i ที่ทำงานร่วมกันระหว่างเครื่องยนต์เบนซินที่มีกำลังสูงสุด 204 แรงม้า และมอเตอร์ไฟฟ้า 19 แรงม้า ส่งผลให้มีกำลังสูงสุดรวมทั้งระบบอยู่ที่ 218 แรงม้า

ขณะที่ฝั่งเครื่องยนต์ดีเซลเริ่มต้นด้วยรหัส X1 sDrive18d ที่ใช้ขุมพลังแบบ 4 สูบ กำลังสูงสุด 150 แรงม้า และ X1 xDrive23d ที่ทำงานร่วมกันระหว่างเครื่องยนต์ดีเซลกำลังสูงสุด 197 แรงม้า และมอเตอร์ไฟฟ้า 19 แรงม้า ให้กำลังสูงสุดรวมทั้งระบบ 211 แรงม้า


ไม่เพียงเท่านี้ บีเอ็มดับเบิลยูยังมีการเปิดตัว iX1 xDrive30 ขุมพลังไฟฟ้าล้วน ซึ่งขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าจำนวน 2 ตัว ให้กำลังสูงสุด 313 แรงม้า (รวมพละกำลังที่ได้จากระบบบูสต์) แรงบิดสูงสุด 494 นิวตัน-เมตร สามารถเร่งความเร็วจาก 0-100 กม./ชม. ได้ในเวลาเพียง 5.7 วินาที พร้อมแบตเตอรี่ที่ถูกติดตั้งไว้ใต้ท้องรถ ซึ่งบีเอ็มดับเบิลยูคาดว่าจะให้ระยะทางขับขี่ประมาณ 413 - 438 กิโลเมตรต่อการชาร์จแต่ละครั้ง
























กำลังโหลดความคิดเห็น