Iso UNO-X มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าสัญชาติอิตาเลียน ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า 8.5 กิโลวัตต์ พร้อมแบตเตอรี่วิ่งไกลสุด 130 กิโลเมตรต่อหนึ่งชาร์จ เตรียมลุยตลาดไทยและเอเชียเต็มสูบภายในปี 2565 นี้
นายเฟอร์รุชโช ลัมโบร์กีนี ประธานและเจ้าของแบรนด์ Iso ทายาทรุ่นที่สามของตระกูลลัมโบร์กีนี จับมือ 2 พันธมิตร ได้แก่ บริษัท Giken Mobility ในเครือ GSS Energy Limited และบริษัท เอดิสัน มอเตอร์ จำกัด พัฒนารถจักรยานยนต์ไฟฟ้า Iso UNO-X รุ่นแรกของแบรนด์ เพื่อทำตลาดในประเทศไทยอย่างจริงจังในปี 2565 นี้ ท่ามกลางกระแสการใช้งานยานยนต์ไฟฟ้าที่กำลังคึกคักในภูมิภาคอาเซียน รวมถึงการสนับสนุนจากภาครัฐ และการตระหนักถึงประโยชน์ของยานยนต์ไฟฟ้าที่เพิ่มมากขึ้น
"โปรเจกต์นี้เกิดจากความตั้งใจของผมที่อยากจะสร้างสิ่งใหม่ในประวัติศาสตร์ ภายใต้บริษัทที่ยิ่งใหญ่ของอิตาลี ซึ่งตั้งแต่ซื้อแบรนด์ Iso มา ก็มองหาพันธมิตรที่แข็งแกร่ง และผู้นำในอุตสาหกรรม เพื่อร่วมมือกันพัฒนาและนำพาแบรนด์ Iso ไปสู่มาตรฐานสูงสุดในด้านคุณภาพ ประสิทธิภาพ และการออกแบบ ซึ่งเชื่อว่าความแข็งแกร่งของทั้ง 2 บริษัทฯ Giken Mobility และเอดิสัน มอเตอร์ จะช่วยนำพาแบรนด์ Iso บรรลุเป้าหมายสูงสุดได้แน่นอนทั้งยอดขายและผลกำไร” นายเฟอร์รุชโชกล่าว
มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า Iso UNO-X ถูกเผยโฉมครั้งแรกที่งานแสดงรถจักรยานยนต์ EICMA ประเทศอิตาลี เมื่อช่วงปลายปี 2564 ที่ผ่านมา โดยในปี 2565 นี้ จะเริ่มเปิดตัวและทำตลาดในทวีปเอเชีย ซึ่งประเทศไทยจะเป็นประเทศแรกๆ ที่เริ่มวางจำหน่ายมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า Iso UNO-X รุ่นดังกล่าว
Iso UNO-X ถูกออกแบบให้มีรูปลักษณ์เน้นความทันสมัย ติดตั้งมอเตอร์ไฟฟ้ากำลังสูงสุด 8.5 กิโลวัตต์ (ประมาณ 11.5 แรงม้า) ระบายความร้อนด้วยน้ำ ให้อัตราเร่งจาก 0-50 กม./ชม. ในเวลาราว 3.7 วินาที และทำความเร็วสูงสุดได้ 115 กม./ชม. ถ่ายทอดกำลังด้วยเกียร์แบบ Single-speed โดย Iso ระบุว่ามอเตอร์ไฟฟ้าถูกออกแบบขึ้นเป็นพิเศษเพื่อให้สามารถป้องกันความชื้นและฝุ่นได้
ขณะที่ชุดแบตเตอรี่เป็นแบบ Li-NMC ขนาด 3.24 กิโลวัตต์ชั่วโมง สามารถขับขี่ได้เป็นระยะทางราว 130 กิโลเมตรต่อการชาร์จแต่ละครั้ง สามารถชาร์จจนเต็มได้ในเวลาประมาณ 4 ชั่วโมง และได้มาตรฐานการป้องกันน้ำและฝุ่นระดับ IP67 สำหรับการขับขี่ในสภาพถนนที่หลากหลาย เสริมด้วยช่วงล่างแบบ Trellis Suspension ที่พัฒนามาจากรถแข่ง ช่วยลดการสั่นสะเทือน และเพิ่มความคงทนและความเบาสบายในการขับขี่
นอกจากนี้ Iso UNO-X ยังถูกติดตั้งหน้าจอขนาด LED แบบสัมผัสขนาด 7 นิ้ว ที่สามารถใช้งานกลางแจ้งได้ พร้อมทั้งระบบเชื่อมต่อผ่านแอปพลิเคชันบนสมาร์ทโฟนระบบ Android และ iOS เพื่อตรวจสอบสถานะแบตเตอรี่, ระยะทางคงเหลือ, ตรวจสอบข้อมูลเส้นทาง, นัดหมายเข้ารับบริการ และระบบค้นหาตำแหน่งผ่านจีพีเอส เป็นต้น
นายณัฐพัชร เลิศวิริยะสวัสดิ์ ผู้ร่วมก่อตั้งและประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอดิสัน มอเตอร์ จำกัด และประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาด บริษัท Giken Mobility Pte. Ltd. กล่าวว่า “เอดิสัน มอเตอร์ ก่อตั้งขึ้นในประเทศไทย ปี 2560 ในฐานะบริษัทสตาร์ทอัพด้านการวิจัยและพัฒนาที่เชี่ยวชาญด้านการออกแบบยานยนต์ไฟฟ้า ซึ่งในปี 2562 ที่ผ่านมา บริษัทฯ ได้รับการติดต่อจาก บริษัท กีเกน โมบิลิตี้ โดยนายคิน บอนด์ ซิดนีย์ ยึง ประธานกรรมการบริหาร บริษัท กีเกน โมบิลิตี้ และนายเฟอร์รุชโช ลัมโบร์กีนี เจ้าของแบรนด์ Iso เพื่อร่วมกันออกแบบรถจักรยานยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ภายใต้แบรนด์ Iso และเมื่อปลายปี 2564 ที่ผ่านมา บริษัท กีเกน โมบิลิตี้ ได้เข้าซื้อบริษัท เอดิสัน มอเตอร์ อย่างเป็นทางการ เพื่อสร้างความแข่งแกร่งในการพัฒนาและผลิตยานยนต์ไฟฟ้า ที่จะเป็นโซลูชั่นแบบครบวงจรสามารถตอบโจทย์ความต้องการในระดับโลกได้”
ส่วนราคาและกำหนดการวางจำหน่ายที่แน่ชัดจะถูกประกาศอีกครั้ง
