เมอร์เซเดส-เบนซ์ เปิดตัว “The EQS SUV” ใหม่ เอสยูวีหรูขุมพลังไฟฟ้า 7 ที่นั่ง มีให้เลือกทั้งรหัส EQS 450+ และ EQS 450 4MATIC ติดตั้งมอเตอร์ไฟฟ้ากำลังสูงสุด 355 แรงม้า และ EQS 580 4MATIC กำลังสูงสุด 536 แรงม้า พร้อมแบตเตอรี่วิ่งไกลสุดถึง 660 กิโลเมตรต่อการชาร์จแต่ละครั้ง
The EQS SUV เป็นรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นที่ 3 ต่อจาก EQS และ EQE ของเมอร์เซเดส-เบนซ์ที่ถูกเปิดตัวไปก่อนหน้านี้ ชูจุดเด่นด้วยห้องโดยสารแบบ 3 แถว 7 ที่นั่ง ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าล้วน 100% เสริมด้วยระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ 4MATIC และโหมดการขับขี่แบบออฟโรดเพื่อรองรับสภาพถนนรูปแบบต่างๆ ตัวถังมีความยาวตลอดคัน 5,125 มม. ความกว้าง 1,959 มม. ความสูง 1,718 มม. พร้อมด้วยความยาวฐานล้อ 3,210 มม. เทียบเท่ากับ EQS Saloon
The EQS SUV มีให้เลือกทั้งหมด 3 รหัส ประกอบด้วย EQS 450+ ติดตั้งมอเตอร์ไฟฟ้าขนาด 265 kW หรือ 355 แรงม้า (HP) แรงบิดสูงสุด 568 นิวตัน-เมตร สำหรับขับเคลื่อนล้อคู่หลัง ขณะที่ EQS 450 4MATIC ติดตั้งมอเตอร์ไฟฟ้าแบบคู่ที่ให้แรงม้าเท่ากัน แต่แรงบิดเพิ่มขึ้นเป็น 800 นิวตัน-เมตร โดยที่รุ่น EQS 450+ มีระยะทางขับขี่ประมาณ 536 - 660 กิโลเมตรต่อการชาร์จแต่ละครั้ง ส่วน EQS 450 4MATIC มีระยะทางขับขี่สั้นกว่าอยู่ที่ประมาณ 507 - 613 กิโลเมตร ภายใต้มาตรฐานการทดสอบ WLTP
ขณะที่ EQS 580 4MATIC ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าจำนวน 2 ตัว ให้กำลังสูงสุด 400 kW หรือ 536 แรงม้า (HP) แรงบิดสูงสุด 858 นิวตัน-เมตร โดยมีระยะทางขับขี่เทียบเท่ากับรุ่น EQS 450 4MATIC อยู่ที่ 507 - 613 กิโลเมตรต่อการชาร์จเต็มแต่ละครั้งภายในมาตรฐาน WLTP เช่นเดียวกัน
The EQS SUV ทุกรุ่นรองรับการชาร์จด่วนด้วยกำลังไฟสูงสุด 200 กิโลวัตต์ สามารถชาร์จจากระดับ 10-80% ได้ในเวลาเพียง 31 นาที โดยที่รุ่น EQS 450+ สามารถชาร์จเพื่อเพิ่มระยะทางขับขี่ 250 กิโลเมตร ภายในระยะเวลาเพียง 15 นาทีเท่านั้น รวมถึงการชาร์จปกติแบบ AC ด้วยกำลังไฟขนาด 11 กิโลวัตต์ และ 22 กิโลวัตต์
ดีไซน์ภายนอกของ The EQS SUV ถูกออกแบบตามหลักอากาศพลศาสตร์เพื่อให้มีความลู่ลมมากที่สุด ใต้ท้องรถถูกออกแบบให้มีความเรียบเป็นพิเศษพร้อมกระจังหน้าแบบปิดตามฉบับรถยนต์ไฟฟ้า ติดตั้งไฟหน้าแบบ LED High Performance เป็นมาตรฐาน หรือเลือกอุปกรณ์เสริมเป็นไฟหน้าแบบ DIGITAL LIGHT รวมถึงล้ออัลลอยที่มีให้เลือกตั้งแต่ขนาด 20 นิ้ว ไปจนถึง 22 นิ้ว
ภายในห้องโดยสารชูไฮไลต์ด้วยหน้าจอ MBUX Hyperscreen ที่มีขนาดกว้างเป็นพิเศษ ติดตั้งหน้าจอจำนวน 3 จอที่เชื่อมเข้าไว้ด้วยกันภายใต้กระจกผืนเดียว พร้อมระบบนำทาง Navigation with Electric Intelligent ที่สามารถเลือกเส้นทางอย่างเหมาะสมสำหรับการแวะชาร์จแบตเตอรี่ อีกทั้งผู้โดยสารด้านหน้ายังสามารถเพลิดเพลินกับคอนเทนท์ต่างๆ บนหน้าจอ OLED ขนาด 12.3 นิ้ว โดยไม่รบกวนสมาธิของผู้ขับขี่ โดยอาศัยกล้องในการตรวจจับใบหน้าของผู้ขับขี่ หากพบว่าผู้ขับมีการชำเลืองมองหน้าจอฝั่งผู้โดยสาร ระบบจะทำการลดแสงของหน้าจอลงอัตโนมัติเพื่อป้องกันการมองเห็น
ด้านระบบช่วยเหลือการขับขี่มีการติดตั้ง Assistance Package ที่มีระบบ Active Distance Assist DISTRONIC สามารถปรับตั้งความเร็วได้อัตโนมัติเมื่อจำเป็น เพื่อให้ไปถึงจุดแวะชาร์จต่อไปได้ ควบคู่ไปกับระบบ Active Steering Assist ช่วยประคองรถให้อยู่ในเลนด้วยความเร็วสูงสุดไม่เกิน 210 กม./ชม. และระบบ Active Lane Keeping Assist ช่วยป้องกันรถออกนอกเลนที่ทำงานคู่กับระบบ Active Ambient Lighting, ไฟหน้า DIGITAL LIGHT และหน้าจอ Augmented Reality Head-up Display เพื่อเตือนกรณีรถออกนอกเลนได้ เป็นต้น
ส่วนกำหนดการวางจำหน่ายและราคาของแต่ละประเทศจะถูกประกาศอีกครั้ง