xs
xsm
sm
md
lg

เผยโฉม “เมอร์เซเดส-เอเอ็มจี ซี 43” ใหม่ พ่วงขุมพลังเทอร์โบ 2.0 ลิตร 408 แรงม้า

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



เมอร์เซเดส-เอเอ็มจี ซี 43 รหัสตัวถัง W206 ใหม่ ถูกเปิดตัวอย่างเป็นทางการแล้ว พร้อมขุมพลังเทอร์โบไมลด์ไฮบริด 4 สูบ ขนาด 2.0 ลิตร รีดกำลังสูงสุดได้ถึง 408 แรงม้า ทำอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ในเวลาเพียง 4.6 วินาที


เมอร์เซเดส-เอเอ็มจี ซี 43 ใหม่ ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ พร้อมเทคโนโลยีเทอร์โบชาร์จเจอร์ไฟฟ้า (Electric Exhaust Gas Turbocharger) เช่นเดียวกับ “เอสแอล 43” ที่เปิดตัวไปก่อนหน้านี้ โดยเทอร์โบชาร์จเจอร์ดังกล่าวจะอาศัยการทำงานของมอเตอร์ไฟฟ้าไมลด์ไฮบริดแบบ 48 โวลต์ ช่วยรีดกำลังสูงสุดได้ถึง 408 แรงม้า (HP) แรงบิดสูงสุด 500 นิวตัน-เมตร ทั้งยังสามารถรีดกำลังเพิ่มชั่วคราวได้อีก 14 แรงม้า ส่งกำลังด้วยเกียร์ AMG SPEEDSHIFT MCT 9G และระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ AMG Performance 4MATIC ที่เน้นการส่งกำลังไปยังล้อคู่หลังเป็นพิเศษ

เครื่องยนต์บล็อกดังกล่าวช่วยให้ เมอร์เซเดส-เอเอ็มจี ซี 43 ใหม่ สามารถเร่งความเร็วจาก 0-100 กม./ชม. ได้ในเวลาเพียง 4.6 วินาที (หรือ 4.7 วินาทีในรุ่นเอสเตท) และจำกัดความเร็วสูงสุดเอาไว้ที่ 250 กม./ชม. ทั้งยังสามารถติดตั้งออปชันเสริมเป็น AMG Driver’s Package เพื่อปลดล็อกความเร็วสูงสุดเป็น 265 กม./ชม. ได้อีกด้วย


เมอร์เซเดส-เอเอ็มจี ซี 43 ถูกติดตั้งระบบ AMG Dynamic Select ที่มีโหมดการขับขี่ให้เลือก ได้แก่ Slippery, Comfort, Sport, Sport + และ Individual ทำงานคู่กับช่วงล่าง AMG Ride Control ที่มีระบบปรับความหนืดไฟฟ้า Adaptive Damping System เป็นอุปกรณ์มาตรฐานในรถทุกคัน เสริมด้วยระบบ AMG Dynamics ที่อาศัยการทำงานของระบบควบคุมเสถียรภาพ (ESP) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการเข้าโค้งได้อย่างเฉียบคมมากยิ่งขึ้น มีโหมดให้เลือกทั้งหมด 3 โหมด ได้แก่ Basic, Advanced และ Pro รวมถึงสามารถปรับระดับการทำงานของระบบควบคุมเสถียรภาพได้ 3 ระดับ ประกอบด้วย On ที่ช่วยรักษาระดับความปลอดภัยสูงสุด, Sport ช่วยเพิ่มองศาในการดริฟต์ และ Off เพื่อปิดการทำงานของระบบควบคุมเสถียรภาพโดยสิ้นเชิง

นอกจากนี้ เมอร์เซเดส-เอเอ็มจี ซี 43 ยังถูกติดตั้งระบบเลี้ยวล้อหลัง (Rear-axle steering) ที่สามารถปรับองศาของล้อหลังได้สูงสุด 2.5 องศา โดยหากใช้ความเร็วต่ำกว่า 100 กม./ชม. ล้อหลังจะหมุนไปในทิศทางตรงกันข้ามกับล้อหน้าเพื่อให้มีวงเลี้ยวแคบลง และเมื่อใช้ความเร็วสูงกว่า 100 กม./ชม. ล้อหลังจะหมุนไปในทิศทางเดียวกับล้อหน้าสูงสุด 0.7 องศา เพื่อเพิ่มเสถียรภาพในการขับขี่ที่ความเร็วสูง เสริมด้วยระบบเบรก AMG ที่ติดตั้งคาลิเปอร์แบบ 4 ลูกสูบด้านหน้า และแบบ 1 ลูกสูบด้านหลัง และท่อไอเสียแบบ AMG ที่ปรับลักษณะเสียงได้ตามโหมดการขับขี่ ทั้งยังสามารถเลือกออปชันเสริมเป็น AMG Real Performance Sound ช่วยเพิ่มเสียงคำรามของท่อไอเสียภายในห้องโดยสารได้


ดีไซน์ภายนอกเน้นความสปอร์ตตามฉบับเอเอ็มจี ไม่ว่าจะเป็นกระจังหน้าที่ตกแต่งด้วยซี่แนวตั้ง กันชนหน้าพร้อมครีบอากาศที่ดูสปอร์ตมากยิ่งขึ้น กันชนท้ายตกแต่งให้มีลักษณะคล้ายดิฟฟิวเซอร์ และล้ออัลลอยเอเอ็มจีน้ำหนักเบาขนาด 18 นิ้วเป็นมาตรฐาน และเลือกเพิ่มขนาดเป็น 19 หรือ 20 นิ้วได้

ภายในห้องโดยสารถูกตกแต่งด้วยวัสดุหนัง ARTICO สลับไมโครไฟเบอร์ MICROCUT เสริมด้วยตะเข็บสีแดง และสายเข็มขัดนิรภัยสีแดง ติดตั้งพวงมาลัย AMG Performance Steering แบบท้ายตัดหุ้มด้วยหนัง Nappa และแป้นเปลี่ยนเกียร์แบบอะลูมิเนียม รวมถึงระบบอินโฟเทนเมนท์ MBUX ที่เพิ่มฟังก์ชันการทำงานและการแสดงผลแบบ AMG ขึ้นมา

ส่วนกำหนดการวางจำหน่ายและราคาจะถูกประกาศอีกครั้ง






































กำลังโหลดความคิดเห็น