ฮอนด้าแห่งสหรัฐอเมริกาประกาศเตรียมยุติการผลิตรถยนต์ไฮบริดขนาดคอมแพ็กรุ่น “อินไซต์” (Insight) ภายในเดือนมีถุนายนที่จะถึงนี้ โดยมีความเป็นไปได้สูงว่าจะนำเอา “ซีวิค อี:เอชอีวี” ขุมพลังไฮบริดมาแทนที่ให้กับลูกค้าชาวอเมริกันในอนาคตอันใกล้
ฮอนด้าแห่งสหรัฐอเมริกา ประกาศเตรียมยุติการผลิตรถยนต์ไฮบริด “อินไซต์” ที่ทำตลาดมาตั้งแต่ปี 2561 โดยไม่ได้ระบุว่าจะนำรถรุ่นไหนเข้ามาแทนที่ แต่มีความเป็นไปได้ว่าฮอนด้าจะเลือกนำเอา “ซีวิค อี:เอชอีวี” มาทำตลาดแทนให้กับลูกค้าชาวมะกัน โดยหากอ้างอิงตามสเปกยุโรปจะถูกติดตั้งเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ ขนาด 2.0 ลิตร Atkinson-cycle คู่กับมอเตอร์ไฟฟ้าอีก 2 ตัว ให้กำลังสูงสุดรวมทั้งระบบ 184 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 315 นิวตัน-เมตร ให้อัตราสิ้นเปลืองไม่ต่ำกว่า 20 กม./ลิตร ภายใต้มาตรฐานการทดสอบ WLTP
ทั้งนี้ ฮอนด้า อินไซต์ โฉมปัจจุบันที่วางจำหน่ายในสหรัฐอเมริกาถือเป็นเจเนอเรชันที่ 3 แล้ว ถูกเปิดตัวครั้งแรกที่งานนิวยอร์กมอเตอร์โชว์เมื่อปี 2561 โดยพัฒนาขึ้นบนพื้นฐานเดียวกับ ซีวิค เจเนอเรชันที่ 10 พ่วงขุมพลังไฮบริดขนาด 1.5 ลิตร ทำงานคู่กับมอเตอร์ไฟฟ้าอีก 2 ตัว ให้กำลังสูงสุดรวม 212 แรงม้า (HP) ให้อัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ยอยู่ที่ 52 ไมล์ต่อแกลลอน หรือประมาณ 22.1 กิโลเมตรต่อลิตรตามมาตรฐาน EPA ของสหรัฐอเมริกา
อย่างไรก็ดี การยุติวางจำหน่าย อินไซต์ ในสหรัฐอเมริกาอาจไม่ใช่เรื่องที่น่าเสียดายนัก เนื่องจากที่ผ่านมา ฮอนด้าได้มีการเว้นระยะห่างการทำตลาดรถไฮบริดรุ่นนี้ในแต่ละเจเนอเรชันอยู่แล้ว โดยเจเนอเรชันแรกถูกทำตลาดในช่วงระหว่างปี 2542 - 2549 ตามมาด้วยเจเนอเรชันที่ 2 ในช่วงระหว่างปี 2552 - 2557 ส่วนโฉมปัจจุบันเริ่มทำตลาดมาตั้งแต่ปี 2561 ก่อนจะหยุดการผลิตลงในเดือนมิถุนายนที่จะถึงนี้ จึงมีความเป็นไปได้ว่าฮอนด้าอาจนำชื่อ อินไซต์ กลับมาทำตลาดอีกครั้งในอนาคต
ส่วนฮอนด้าประเทศไทยก็มีแผนวางจำหน่าย ซีวิค อี:เอชอีวี ใหม่ในเดือนมิถุนายน 2565 ที่จะถึงนี้เช่นกัน หลังจากที่ได้มีการเผยโฉมในงานบางกอกอินเตอร์เนชันแนลมอเตอร์โชว์ไปเมื่อช่วงปลายเดือนมีนาคมที่ผ่านมา โดยจะถูกทำตลาดควบคู่ไปกับรุ่นเครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบ 1.5 ลิตร พร้อมทั้งประกาศราคาจำหน่ายเบื้องต้นของรุ่น e:HEV EL ไม่เกิน 1,150,000 บาท และรุ่น e:HEV RS ไม่เกิน 1,270,000 บาท