เรนาสโซ มอเตอร์ หรือ ลัมโบร์กินี กรุงเทพฯ ออกแถลงการณ์ ไม่เกี่ยวข้องกับคดีดัง และการซื้อขายรถยนต์ลัมโบร์กินี่เลี่ยงภาษี เหตุเรื่องดังกล่าวเกิดขึ้นก่อนหน้าเข้ามาดำเนินกิจการ
บริษัท เรนาสโซ มอเตอร์ จำกัด หรือ ลัมโบร์กินี กรุงเทพฯ ได้ออกแถลงการณ์ถึงกรณีที่มีข่าวการแจ้งความดำเนินคดีเกี่ยวกับการนำเข้าและเลี่ยงภาษีของรถยนต์ลัมโบร์กินี่ รุ่น Aventador LP 720-4 50 Anniversario ซึ่งเป็นรุ่นพิเศษ ฉลองครบรอบ 50 ปีของ Automobili Lamborghini โดยมีใจความดังต่อไปนี้
“ในนามของบริษัท เรนาสโซ มอเตอร์ จำกัด หรือ ลัมโบร์กินี กรุงเทพฯ ขอเรียนแจ้งว่า บริษัทฯ ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นตัวแทนจำหน่ายและผู้ให้บริการหลังการขายรถยนต์ลัมโบร์กินีอย่างเป็นทางการแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย ตั้งแต่ปี พ.ศ.2561 สืบเนื่องจนถึงปัจจุบัน โดยได้นำเข้ารถซูเปอร์สปอร์ตคาร์รุ่นแรกเพื่อจัดจำหน่ายในประเทศไทยไตรมาสที่ 4 ของปี พ.ศ.2561
บริษัทฯ ขอยืนยันว่า บริษัทฯ มิได้ดำเนินการหรือมีส่วนเกี่ยวข้องกับการซื้อขายรถยนต์ลัมโบร์กินีอื่นใดที่เกิดขึ้น ก่อนการแต่งตั้งดังกล่าวทั้งสิ้น อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ มีนโยบายรับให้บริการรถยนต์ลัมโบร์กินีทุกคันที่ได้ทำการซื้อจากผู้แทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการในประเทศไทยก่อนหน้า เพื่อดูแลลูกค้าลัมโบร์กินีในประเทศไทยทุกท่านให้ได้รับความสะดวกและความพึงพอใจสูงสุดในการครอบครองรถยนต์ลัมโบร์กินี
ในการนี้ บริษัทฯ ขอยืนยันวิสัยทัศน์ในการดำเนินธุรกิจด้วยความโปร่งใส ปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด และยึดมั่น ในคุณธรรม โดยคำนึงถึงผู้รับบริการ องค์กร และสังคมเป็นสำคัญ พร้อมปฏิบัติตามพันธกิจของบริษัทฯ ที่มุ่งมั่นส่งมอบประสบการณ์ความประทับใจและความภาคภูมิใจให้ท่านเจ้าของรถลัมโบร์กินี สร้างรากฐานแบรนด์ให้แข็งแกร่ง สื่อสารคุณค่า ภาพลักษณ์ และความน่าเชื่อถือของลัมโบร์กินีในประเทศไทย เพื่อให้ลัมโบร์กินีเป็นแบรนด์ซูเปอร์สปอร์ตคาร์ระดับโลกที่ครองใจคนไทยได้อย่างเต็มภาคภูมิ”
ทั้งนี้ สำหรับการนำเข้ารถยนต์ลัมโบร์กินี่ รุ่น Aventador LP 720-4 50 Anniversario เกิดขึ้นในช่วงปี 2556 ที่กลุ่ม นิชคาร์ เป็นตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ลัมโบร์กินี่ในประเทศไทยอยู่ ซึ่งความพิเศษของรถยนต์รุ่นดังกล่าวอยู่ที่จำนวนจำกัดเพียง 200 คันทั่วโลกเท่านั้น (แบ่งเป็นรุ่นคูเป้และรุ่นเปิดประทุนอย่างละ 100 คัน) มีราคาจำหน่ายที่ประกาศไว้คือ 46,000,000 บาท
ขณะที่การส่งฟ้องของดีเอสไอเกิดขึ้นจากการตรวจสอบแล้วพบว่า มีการสำแดงราคานำเข้าเป็นเท็จต่ำกว่าราคาซื้อขายที่แท้จริง เพื่อหลีกเลี่ยงการเสียภาษี เป็นเหตุให้รัฐได้รับความเสียหาย 31 ล้านบาท โดยเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ศุลกากร พ.ศ. 2560 พ.ร.บ.ภาษีสรรพสามิต พ.ศ. 2560 และตามประมวลกฎหมายอาญา ซึ่งได้ส่งสำนวนการสอบสวนคดีพิเศษคดีดังกล่าวไปยังพนักงานอัยการแล้วเมื่อวันที่ 22 ส.ค. 62 ปัจจุบันคดีอยู่ในระหว่างการพิจารณาของอัยการสูงสุด
บริษัท เรนาสโซ มอเตอร์ จำกัด หรือ ลัมโบร์กินี กรุงเทพฯ ได้ออกแถลงการณ์ถึงกรณีที่มีข่าวการแจ้งความดำเนินคดีเกี่ยวกับการนำเข้าและเลี่ยงภาษีของรถยนต์ลัมโบร์กินี่ รุ่น Aventador LP 720-4 50 Anniversario ซึ่งเป็นรุ่นพิเศษ ฉลองครบรอบ 50 ปีของ Automobili Lamborghini โดยมีใจความดังต่อไปนี้
“ในนามของบริษัท เรนาสโซ มอเตอร์ จำกัด หรือ ลัมโบร์กินี กรุงเทพฯ ขอเรียนแจ้งว่า บริษัทฯ ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นตัวแทนจำหน่ายและผู้ให้บริการหลังการขายรถยนต์ลัมโบร์กินีอย่างเป็นทางการแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย ตั้งแต่ปี พ.ศ.2561 สืบเนื่องจนถึงปัจจุบัน โดยได้นำเข้ารถซูเปอร์สปอร์ตคาร์รุ่นแรกเพื่อจัดจำหน่ายในประเทศไทยไตรมาสที่ 4 ของปี พ.ศ.2561
บริษัทฯ ขอยืนยันว่า บริษัทฯ มิได้ดำเนินการหรือมีส่วนเกี่ยวข้องกับการซื้อขายรถยนต์ลัมโบร์กินีอื่นใดที่เกิดขึ้น ก่อนการแต่งตั้งดังกล่าวทั้งสิ้น อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ มีนโยบายรับให้บริการรถยนต์ลัมโบร์กินีทุกคันที่ได้ทำการซื้อจากผู้แทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการในประเทศไทยก่อนหน้า เพื่อดูแลลูกค้าลัมโบร์กินีในประเทศไทยทุกท่านให้ได้รับความสะดวกและความพึงพอใจสูงสุดในการครอบครองรถยนต์ลัมโบร์กินี
ในการนี้ บริษัทฯ ขอยืนยันวิสัยทัศน์ในการดำเนินธุรกิจด้วยความโปร่งใส ปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด และยึดมั่น ในคุณธรรม โดยคำนึงถึงผู้รับบริการ องค์กร และสังคมเป็นสำคัญ พร้อมปฏิบัติตามพันธกิจของบริษัทฯ ที่มุ่งมั่นส่งมอบประสบการณ์ความประทับใจและความภาคภูมิใจให้ท่านเจ้าของรถลัมโบร์กินี สร้างรากฐานแบรนด์ให้แข็งแกร่ง สื่อสารคุณค่า ภาพลักษณ์ และความน่าเชื่อถือของลัมโบร์กินีในประเทศไทย เพื่อให้ลัมโบร์กินีเป็นแบรนด์ซูเปอร์สปอร์ตคาร์ระดับโลกที่ครองใจคนไทยได้อย่างเต็มภาคภูมิ”
ทั้งนี้ สำหรับการนำเข้ารถยนต์ลัมโบร์กินี่ รุ่น Aventador LP 720-4 50 Anniversario เกิดขึ้นในช่วงปี 2556 ที่กลุ่ม นิชคาร์ เป็นตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ลัมโบร์กินี่ในประเทศไทยอยู่ ซึ่งความพิเศษของรถยนต์รุ่นดังกล่าวอยู่ที่จำนวนจำกัดเพียง 200 คันทั่วโลกเท่านั้น (แบ่งเป็นรุ่นคูเป้และรุ่นเปิดประทุนอย่างละ 100 คัน) มีราคาจำหน่ายที่ประกาศไว้คือ 46,000,000 บาท
ขณะที่การส่งฟ้องของดีเอสไอเกิดขึ้นจากการตรวจสอบแล้วพบว่า มีการสำแดงราคานำเข้าเป็นเท็จต่ำกว่าราคาซื้อขายที่แท้จริง เพื่อหลีกเลี่ยงการเสียภาษี เป็นเหตุให้รัฐได้รับความเสียหาย 31 ล้านบาท โดยเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ศุลกากร พ.ศ. 2560 พ.ร.บ.ภาษีสรรพสามิต พ.ศ. 2560 และตามประมวลกฎหมายอาญา ซึ่งได้ส่งสำนวนการสอบสวนคดีพิเศษคดีดังกล่าวไปยังพนักงานอัยการแล้วเมื่อวันที่ 22 ส.ค. 62 ปัจจุบันคดีอยู่ในระหว่างการพิจารณาของอัยการสูงสุด