xs
xsm
sm
md
lg

เอ็มจี เผยยอดขายครึ่งปีแรก โต 32% เตรียมเปิดราคา MG 5 20 ก.ค.นี้

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


นายพงษ์ศักดิ์ เลิศฤดีวัฒนวงศ์
บริษัท เอสเอไอซี มอเตอร์ – ซีพี จำกัด และ บริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและผู้จำหน่ายรถยนต์เอ็มจีในประเทศไทย เผยผลการดำเนินงานในครึ่งปีแรกของปี พ.ศ. 2564 มีตัวเลขยอดขายรวม 14,403 คัน หรือคิดเป็นอัตราการเติบโตอยู่ที่ 32% เทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา พร้อมเดินหน้าแผนธุรกิจครึ่งปีหลังตามที่ตั้งเป้าไว้ ประเดิมเปิดตัว ALL NEW MG5 ผ่านทางออนไลน์ด้วยเทคโนโลยี XR สุดล้ำให้ผู้ชมได้สัมผัสกับประสบการณ์ที่เหนือชั้นยิ่งกว่า วันที่ 20 กรกฎาคมนี้ เวลา 19.00 น. ที่ www.facebook.com/MGcarsThailand


ในช่วง 6 เดือนแรกของปี พ.ศ. 2564 เอ็มจีมียอดขายรวมอยู่ที่ 14,403 คัน หรือคิดเป็นอัตราการเติบโตอยู่ที่ 32% เมื่อเทียบช่วงเวลาเดียวกันกับปีที่ผ่านมา โดยแบ่งเป็นยอดขายในรุ่น MG ZS รวมกับ MG ZS EV สูงถึง 6,378 คัน ตามมาด้วยรถกระบะ MG EXTENDER จำนวน 2,652 คัน MG3 จำนวน 2,526 คัน MG HS รวมกับ MG HS PHEV จำนวน 2,465 คัน MG EP และรถรุ่นอื่นๆ จำนวน 382 คัน โดยเอ็มจียังคงครองตำแหน่งผู้นำในตลาดรถยนต์พลังงานไฟฟ้า และยังเป็นหนึ่งในผู้นำของกลุ่มรถยนต์ประเภท B-SUV และ C-SUV


สำหรับแนวทางการดำเนินงานในครึ่งปีหลัง เอ็มจี จะมีการแนะนำผลิตภัณฑ์รุ่นใหม่ออกสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง เริ่มด้วยการแนะนำ ALL NEW MG5 เจาะตลาดรถยนต์ในกลุ่ม B-segment โดยการเปิดตัว ALL NEW MG5 จะจัดขึ้นในรูปแบบออนไลน์ด้วยการนำเทคโนโลยีเสมือนจริงในรูปแบบผสมผสาน หรือ Extended Reality (XR) ซึ่งถือเป็นเทคโนโลยีเสมือนจริงขั้นสูงสุดในปัจจุบัน ที่ผสานการทำงานของทั้งระบบ VR (Virtual Reality) AR (Augmented Reality) และ MR (Mixed Reality) เข้าด้วยกัน ทำให้เกิดสภาพแวดล้อม มุมมองและมิติ ที่เสมือนจริงมากยิ่งขึ้น โดยการเปิดตัวอย่างเป็นทางการจะมีขึ้นในวันอังคารที่ 20 กรกฎาคมนี้ เวลา 19.00 น. ที่ www.facebook.com/MGcarsThailand


นายพงษ์ศักดิ์ เลิศฤดีวัฒนวงศ์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า “ความสำเร็จทางด้านยอดขายในครึ่งปีแรกนี้ สะท้อนให้เห็นว่าผู้บริโภคเชื่อมั่นและไว้วางใจในแบรนด์รถยนต์เอ็มจีเพิ่มมากขึ้น เรามุ่งหวังว่า แนวทางการดำเนินงานและแผนธุรกิจที่เน้นทั้งการนำเสนอสินค้าและบริการใหม่ๆ ที่สอดคล้องกับความต้องการเข้าสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการต่อยอดแผนงานต่างๆ ให้มีความครอบคลุม จะสามารถสร้างประโยชน์ให้กับผู้บริโภคและสังคมไทย จะเป็นส่วนสำคัญที่ผลักดันให้เอ็มจีบรรลุเป้าหมายและสนับสนุนการเติบโตของอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยไปพร้อมกัน”

สำหรับปีนี้เอ็มจีได้เปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่เข้าสู่ตลาดตามแผนที่วางไว้ โดยประเดิมเปิดตัว NEW MG EXTENDER กระบะพันธุ์ยักษ์ ให้มากกว่าความแกร่ง โฉมใหม่ ในเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ด้วยจุดเด่นของสมรรถนะ ฟังก์ชั่น ที่ครบครัน และเป็นสมาร์ทปิคอัพคันแรกในประเทศไทย ที่มีเทคโนโลยีการเชื่อมต่ออัจฉริยะ i-SMART พร้อมด้วยระบบความปลอดภัยมาตรฐานสากล และการเปิดตัว ALL NEW MG5 รวมไปถึงรถรุ่นใหม่ออกสู่ตลาดเพิ่มเติมตามแผนที่วางไว้


ในส่วนของแผนงานขยายเครือข่ายผู้แทนจำหน่ายให้ครอบคลุมทั่วประเทศ ณ ปัจจุบัน เอ็มจีมีจำนวนโชว์รูม

และศูนย์บริการอยู่ที่ 151 แห่ง และจะทยอยเปิดให้บริการครบ 170 แห่งภายในปีนี้ นอกจากนี้เอ็มจียังได้นำเสนอบริการรูปแบบใหม่ เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับลูกค้า และเพิ่มโอกาสการเข้าถึงลูกค้าได้กว้างและครอบคลุมมากขึ้น โดยได้เปิดบริการแพลตฟอร์มที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ในยุคปัจจุบัน กับ MG Online Booking ซึ่งเป็นช่องทางการขายออนไลน์ ภายใต้แนวคิด “Smart Showroom” โดยประเดิมด้วยการเปิดจอง MG HS รุ่น D ในราคาเพียง 990,000 บาท พร้อมข้อเสนอพิเศษอีกมากมาย

เอ็มจีในฐานะผู้นำตลาดรถยนต์พลังงานไฟฟ้าในประเทศไทยได้ให้ความสำคัญกับการสร้าง และยกระดับระบบนิเวศยานยนต์ไฟฟ้า (EV Ecosystem) ในประเทศให้มีความแข็งแกร่งเพื่อสร้างความมั่นใจให้กับผู้ใช้รถยนต์พลังงานไฟฟ้า โดยในครึ่งปีที่ผ่านมา เอ็มจีได้เดินหน้าบูรณาการความร่วมมือกับพันธมิตรทั้งภาครัฐและภาคเอกชนอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็น ความร่วมมือกับสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) เพื่อกำหนดมาตรฐานของสถานีชาร์จยานยนต์ไฟฟ้า และการสนับสนุนความร่วมมือระหว่าง PEA และบางจาก ในการเปิดบริการเครือข่ายสถานีอัดประจุไฟฟ้า PEA VOLTA และล่าสุดได้ร่วมมือกับ บางจากฯ เพิ่อเปิดให้บริการสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า “MG Super Charge” ในปั้มน้ำมันบางจาก 50 แห่ง ในกรุงเทพฯ นนทบุรี และสมุทรปราการ รวมถึงการร่วมมือกับ ดับบลิวเอชเอ กรุ๊ป เพื่อให้บริการในเขตพื้นที่อุตสาหกรรมดับบลิวเอชเอ ในเขตพื้นที่เศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี)


ในด้านงานกิจกรรมช่วยเหลือสังคมภายใต้โครงการ Together For Better Thailand เอ็มจีได้จับมือกับพันธมิตร ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และองค์กรที่ไม่แสวงหาผลกำไร เพื่อให้ความช่วยเหลือและเป็นพลังใจให้คนไทยสามารถ ก้าวผ่านวิกฤตโควิด-19 ไม่ว่าจะเป็น การจัดหาอุปกรณ์และของใช้จำเป็นทั้งชุด PPE อุปกรณ์ Face shield เทอร์โมมิเตอร์ น้ำยาฆ่าเชื้อ หน้ากากผ้า เจลล้างมือ รวมทั้งน้ำดื่ม เพื่อสนับสนุนการทำงานของบุคลากร ทางการแพทย์ โดยส่งมอบผ่านกระทรวงสาธารณสุข และสนับสนุนรถยนต์เอ็มจี เพื่อเป็นพาหนะในโครงการ ALL FOR HEROES ของกลุ่มเซ็นทรัล โดยทำหน้าที่รับและส่งสิ่งของจำเป็นต่างๆ กระจายไปยังโรงพยาบาลหลักและโรงพยาบาลสนาม อีกทั้งยังได้ส่งมอบหน้ากากอนามัย ให้กับมูลนิธิร่วมกตัญญู เพื่อให้เจ้าหน้าที่ได้ใช้ในการ ลงพื้นที่ปฏิบัติงานอีกด้วย




กำลังโหลดความคิดเห็น