อาวดี้ เอจี เผยโฉมรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ล่าสุด Q4 e-tron และ Q4 e-tron Sportback พร้อมกัน โดยทั้งสองรุ่นมาในแบบอเนกประสงค์เอสยูวีขนาดคอมแพค ซึ่งจะมีขนาดเล็กกว่า อาวดี้ e-tron โดยจะมีให้เลือกทั้งรุ่นขับเคลื่อนสี่ล้อ Quattro และรุ่นขับเคลื่อนสองล้อหลัง

สำหรับพละกำลังสูงสุดระบุไว้ที่ 220 กิโลวัตต์ (299 แรงม้า) ส่วนระยะทางวิ่งสูงสุดในรุ่นขับเคลื่อนสองล้อนั้นสามารถวิ่งได้ไกลถึง 520 กิโลเมตร (ตามมาตรฐาน WLTP) ส่วนระยะเวลาการชาร์จใช้เวลาเพียง 10 นาที สามารถวิ่งได้ระยะทาง 130 กิโลเมตร เมื่อชาร์จด้วย e-tron Charging Service

ทั้งนี้การออกแบบภายนอกเน้นเรื่องของการใช้งานเป็นหัวใจสำคัญ ไฟหน้าเป็นแบบ Matrix LED เป็นออพชันสั่งพิเศษ ส่วนไฟท้ายดีไซน์เป็นทรงยาวตลอดจากซ้ายจรดขวา ไฟ Daytime running light เป็นแบบเลือกได้ 4 รูปแบบครั้งแรกในโลก เฉพาะรุ่นSportback สปอยเลอร์หลังได้รับการติดตั้งแบบแยกจากกระจกหลัง โดยโฉมภายนอกมีให้เลือก 3 แบบได้แก่ basic, advanced and S line

ส่วนการออกแบบภายใน มากับระบบ Head up display ที่ถูกออกแบบใหม่ให้สะดวกและดูง่ายขึ้นในการเดินทาง หน้าปัดแบบ Virtual cockpit ขนาด 10.25 นิ้ว และหน้าจอความบันเทิง MMI touch display ขนาด 10.1 นิ้วติดตั้งเป็นมาตรฐาน โดยมีจอ MMI ขนาดใหญ่ 11.6 นิ้ว เป็นออพชันพิเศษ

ระบบขับเคลื่อนมีให้เลือก 3 พละกำลังได้แก่ รุ่นเริ่มต้น 125 กิโลวัตต์ (170 แรงม้า) ในรุ่นขับเคลื่อนสองล้อ, รุ่นกลาง 150 กิโลวัตต์(204แรงม้า) และรุ่นท็อปสุด 220 กิโลวัตต์(299แรงม้า) ส่วนแบตเตอรี่มีให้เลือก 2 ขนาด 52 kWh(ความจุจริง 55 kWh) และ 77 kWh (ความจุจริง 82 kWh) โดยเป็นแบบ 9 และ 12 โมดูลตามลำดับ

อาวดี้ ประกาศพร้อมจำหน่าย Q4 e-tron และ Q4 e-tron Sportback ในยุโรปตั้งแต่เดือน มิถุนายน 2564 เป็นต้นไป โดยมีราคาเริ่มต้นที่ 41,900 ยูโร (ประมาณ 1,550,000 บาท) สำหรับรุ่น Q4 35 e-tron ในเยอรมนี และสามารถเรียกรับเงินคืนจากการสนับสนุนของรัฐได้เป็นจำนวน 9,000 ยูโร หรือราว 333,000 บาท หมายความว่า ลูกค้าสามารถซื้อได้ในราคาราว 1,220,000 บาท เท่านั้น




















สำหรับพละกำลังสูงสุดระบุไว้ที่ 220 กิโลวัตต์ (299 แรงม้า) ส่วนระยะทางวิ่งสูงสุดในรุ่นขับเคลื่อนสองล้อนั้นสามารถวิ่งได้ไกลถึง 520 กิโลเมตร (ตามมาตรฐาน WLTP) ส่วนระยะเวลาการชาร์จใช้เวลาเพียง 10 นาที สามารถวิ่งได้ระยะทาง 130 กิโลเมตร เมื่อชาร์จด้วย e-tron Charging Service
ทั้งนี้การออกแบบภายนอกเน้นเรื่องของการใช้งานเป็นหัวใจสำคัญ ไฟหน้าเป็นแบบ Matrix LED เป็นออพชันสั่งพิเศษ ส่วนไฟท้ายดีไซน์เป็นทรงยาวตลอดจากซ้ายจรดขวา ไฟ Daytime running light เป็นแบบเลือกได้ 4 รูปแบบครั้งแรกในโลก เฉพาะรุ่นSportback สปอยเลอร์หลังได้รับการติดตั้งแบบแยกจากกระจกหลัง โดยโฉมภายนอกมีให้เลือก 3 แบบได้แก่ basic, advanced and S line
ส่วนการออกแบบภายใน มากับระบบ Head up display ที่ถูกออกแบบใหม่ให้สะดวกและดูง่ายขึ้นในการเดินทาง หน้าปัดแบบ Virtual cockpit ขนาด 10.25 นิ้ว และหน้าจอความบันเทิง MMI touch display ขนาด 10.1 นิ้วติดตั้งเป็นมาตรฐาน โดยมีจอ MMI ขนาดใหญ่ 11.6 นิ้ว เป็นออพชันพิเศษ
ระบบขับเคลื่อนมีให้เลือก 3 พละกำลังได้แก่ รุ่นเริ่มต้น 125 กิโลวัตต์ (170 แรงม้า) ในรุ่นขับเคลื่อนสองล้อ, รุ่นกลาง 150 กิโลวัตต์(204แรงม้า) และรุ่นท็อปสุด 220 กิโลวัตต์(299แรงม้า) ส่วนแบตเตอรี่มีให้เลือก 2 ขนาด 52 kWh(ความจุจริง 55 kWh) และ 77 kWh (ความจุจริง 82 kWh) โดยเป็นแบบ 9 และ 12 โมดูลตามลำดับ
อาวดี้ ประกาศพร้อมจำหน่าย Q4 e-tron และ Q4 e-tron Sportback ในยุโรปตั้งแต่เดือน มิถุนายน 2564 เป็นต้นไป โดยมีราคาเริ่มต้นที่ 41,900 ยูโร (ประมาณ 1,550,000 บาท) สำหรับรุ่น Q4 35 e-tron ในเยอรมนี และสามารถเรียกรับเงินคืนจากการสนับสนุนของรัฐได้เป็นจำนวน 9,000 ยูโร หรือราว 333,000 บาท หมายความว่า ลูกค้าสามารถซื้อได้ในราคาราว 1,220,000 บาท เท่านั้น