ฮอนด้า เปิดตัว “ซิตี้ อี:เอชอีวี ใหม่” ในตระกูลเดอะ ซิตี้ ซีรีส์ มากับเครื่องยนต์แบบ Full Hybrid (i-MMD) แรง ประหยัด เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม พร้อมเทคโนโลยีความปลอดภัยระดับพรีเมียม ฮอนด้า เซนส์ซิ่ง (Honda SENSING) เคาะราคา 839,000 บาท
ฮอนด้า ซิตี้ อี:เอชอีวี ใหม่ ได้รับการออกแบบและพัฒนาต่อยอดจาก ฮอนด้า ซิตี้ เจเนอเรชันที่ 5 ภายใต้แนวคิด “Ambitious Sedan” นับเป็นครั้งแรกของรถในเซกเมนท์นี้ที่มากับระบบขับเคลื่อนไฮบริด โดยคงรูปแบบดีไซน์ภายนอกเอาไว้เช่นเดิม ห้องโดยสารกว้างขวาง อุปกรณ์อำนวยความสะดวกล้ำสมัย สมรรถนะการขับขี่ดีและมีคุณภาพของฮอนด้า ซิตี้
การออกแบบภายนอก
ดีไซน์ภายนอกของ ฮอนด้า ซิตี้ อี:เอชอีวี ใหม่ ถูกออกแบบภายใต้แนวคิด “Standing on the Edge” มาพร้อมโครงสร้างตัวถังแบบ Wide & Low ที่ให้ความสปอร์ตปราดเปรียว , ไฟหน้าแบบ LED พร้อมไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่ในเวลากลางวันแบบ LED , ไฟตัดหมอกคู่หน้าแบบ LED และ ไฟท้ายแบบ LED โดยมาพร้อมระบบเปิด-ปิดไฟหน้าอัตโนมัติและระบบปิดไฟหน้าอัตโนมัติ เมื่อดับเครื่องยนต์
กระจังหน้าแบบ Gloss Black พร้อมโลโก้ฮอนด้าสีฟ้า (H Mark), กระจกมองข้างสีดำแบบสปอร์ต ปรับและพับไฟฟ้าพร้อมไฟเลี้ยวในตัว, สปอยเลอร์หลังแบบ Gloss Black พร้อมสัญลักษณ์ RS และ e:HEV, เสาอากาศแบบครีบฉลาม, ล้ออัลลอยขนาด 16 นิ้ว ดีไซน์สปอร์ต และแป้นเหยียบคันเร่งและเบรกแบบสปอร์ต
การออกแบบภายใน
ห้องโดยสารได้รับการออกแบบภายใต้แนวคิด “Ambitious Beauty” ใช้โทนสีดำเน้นความเรียบง่าย โดยยึดหลักของฮอนด้าในการพัฒนา คือ “Man-Maximum Machine-Minimum” พื้นที่ถูกออกแบบให้สอดคล้องกับสรีระ มีความกว้างขวางสะดวกสบายในทุกมิติทั้งผู้ขับขี่และผู้โดยสาร
เบาะที่นั่งหนังกลับดีไซน์สปอร์ต ตกแต่งเดินด้ายสีแดงในแนวนอนเพื่อช่วยเพิ่มความรู้สึกโปร่งโล่งและสะดวกสบายในการขับขี่, คอนโซลหน้าแบบ Piano Black พร้อมที่วางแก้วน้ำ, คอนโซลกลางมาพร้อมที่วางแขนขนาดใหญ่, พนักเท้าแขนด้านหน้าและด้านหลัง พร้อมที่วางแก้วน้ำ, มือจับเปิดประตูด้านในตกแต่งโครเมียม
มาตรวัดพร้อมหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบ TFT ขนาด 7 นิ้ว ,พวงมาลัยแบบมัลติฟังก์ชัน พร้อมปุ่มควบคุมระบบเครื่องเสียงและปุ่มรับ-วางสายโทรศัพท์, ระบบช่วยชะลอความเร็วรถที่พวงมาลัย (Deceleration Paddle Selectors), ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ และช่องปรับอากาศตอนหลัง เพื่อความสะดวกสบายในห้องโดยสาร มาพร้อมช่องจ่ายไฟสำรอง 2 ตำแหน่ง
ระบบเครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสขนาด 8 นิ้ว แบบ Advanced Touch รองรับการเชื่อมต่อ Apple CarPlay พร้อม Google Maps และระบบสั่งการด้วยเสียง SIRI, ระบบสตาร์ทเครื่องยนต์ พร้อมเครื่องปรับอากาศด้วยกุญแจรีโมท (Remote Engine Start),ระบบควบคุมประตูแบบอัจฉริยะ (Honda Smart Key System)และช่องเชื่อมต่อ USB จำนวน 2 ช่อง
ฮอนด้า คอนเนค (Honda CONNECT)
เทคโนโลยีเชื่อมต่อเพื่อการสื่อสารระหว่างผู้ขับขี่และรถยนต์ ทำงานผ่านแอปพลิเคชันบนมือถือ ฮอนด้า คอนเนค โดยมี 8 ฟังก์ชันการใช้งานหลัก ที่จะมาช่วยอำนวยความสะดวก และเพิ่มความปลอดภัยตลอดการเดินทาง
1.My Service ตรวจสอบประวัติการเข้ารับบริการ รวมทั้งการประเมินรายการอะไหล่และค่าใช้จ่ายเบื้องต้น โดยจะมีการแจ้งเตือนกำหนดการเข้ารับบริการครั้งต่อไป
2.Car Log ข้อมูลการขับขี่จะประกอบด้วยพฤติกรรมการขับขี่ ที่สามารถแสดงผลเป็นรายวัน รายเดือน หรือรายปี และ บันทึกการเดินทาง ที่สามารถเลือกทริปโปรด และแชร์ผ่านโซเชียลมีเดีย เช่น ไลน์ อินสตาแกรม เฟซบุ๊ก และทวิตเตอร์ เป็นต้น
3.WiFi สามารถเชื่อมต่อสัญญาณอินเตอร์เน็ตไร้สายจากรถยนต์ โดยจะใช้งานได้พร้อมกันสูงสุดถึง 5 อุปกรณ์ มีระยะการส่งสัญญาณห่างจากตัวรถยนต์อยู่ที่ 40 เมตร โดยต้องไม่มีสิ่งกีดขวาง
* ลูกค้าสามารถสมัครแพ็กเกจอินเตอร์เน็ตจากผู้ให้บริการเครือข่าย (เอไอเอส) โดยลูกค้าจะเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่าย
4.Airbag Deployment เมื่อเกิดอุบัติเหตุและถุงลมทำงาน กล่องอุปกรณ์ TCU จะส่งสัญญาณเตือนให้ทราบทันทีผ่านทางแอปพลิเคชัน พร้อมทั้งส่งข้อมูลไปยังศูนย์บริการข้อมูลฮอนด้าเพื่อทำการติดต่อไปยังเบอร์โทรศัพท์ที่ลงทะเบียนไว้ หรือเบอร์โทรฉุกเฉินที่ลูกค้าผู้ใช้งานระบุไว้ในระบบ เพื่อทำการประสานงานให้ความช่วยเหลือขั้นต้น
5.Car Status แจ้งเตือนสถานะรถยนต์ เมื่อเกิดความผิดปกติจากระบบของรถยนต์ และ แจ้งเตือนสัญญาณกันขโมย เมื่อเกิดความผิดปกติกับรถยนต์จากภายนอก เช่น การเปิดประตู กระโปรงหน้า และฝากระโปรงท้ายของรถยนต์อย่างผิดปกติ
6.Remote Vehicle Control สามารถสั่งการล็อกและปลดล็อกประตูทั้งหมด อีกทั้งยังสามารถสั่งสตาร์ทเครื่องยนต์ พร้อมทั้งตั้งค่าระดับอุณหภูมิของระบบปรับอากาศในรถยนต์ และการสั่งดับเครื่องยนต์ ยิ่งไปกว่านั้นยังสามารถสั่งเปิดสัญญาณไฟ ทั้งไฟหน้าและไฟท้าย โดยผู้ใช้งานจะต้องกำหนดรหัสส่วนตัวเป็นตัวเลข 4 หลัก (PIN) และจะต้องป้อนรหัสส่วนตัวทุกครั้งก่อนการใช้งาน
7.Geo Fence & Speed Alert สามารถกำหนดขอบเขตการขับขี่รถยนต์ทั้งเข้าและออกตามพื้นที่ที่กำหนดไว้ และยังสามารถตั้งค่าการแจ้งเตือนความเร็วตามกำหนดได้อีกด้วย
8.Find My Car สามารถตรวจสอบพิกัดรถยนต์ โดยระบบจะส่งพิกัดรถยนต์บนแผนที่ล่าสุด แสดงผลบนแอปพลิเคชัน ซึ่งผู้ใช้งานจะต้องใส่รหัสส่วนตัว 4 หลัก (PIN) ก่อนการใช้งาน
เครื่องยนต์ไฮบริดใหม่ i-MMD
หัวใจของการขับเคลื่อนมากับขุมพลังแบบ Full Hybrid ระบบ Sport Hybrid Intelligent Multi-Mode Drive (i-MMD) ที่ผสานการทำงานอันทรงพลังร่วมกันของมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว กับเครื่องยนต์เบนซินขนาด 1.5 ลิตร Atkinson-Cycle DOHC i-VTEC 4 สูบ 16 วาล์ว กำลังสูงสุดของมอเตอร์ไฟฟ้า 109 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 253 นิวตัน-เมตร ที่ 0 - 3,000 รอบต่อนาที กำลังสูงสุดของเครื่องยนต์ 98 แรงม้า ส่วนกำลังสูงสุดรวม 126 แรงม้า
ระบบส่งกำลังเป็นเกียร์อัตโนมัติแบบอัตราทดแปรผันต่อเนื่องไฟฟ้า (E-CVT) แบตเตอรี่เป็นแบบลิเธียม-ไอออน อัตราการประหยัดน้ำมันดีเยี่ยมถึง 27.8 กิโลเมตร/ลิตร และมีอัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เพียง 85 กรัม/กิโลเมตร สามารถรองรับน้ำมัน E20
เพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่ลูกค้า ฮอนด้า ซิตี้ อี:เอชอีวี ใหม่ มาพร้อมการรับประกันอายุการใช้งานแบตเตอรี่ถึง10 ปี และรับประกันระบบไฮบริดทั้งระบบ 5 ปี ไม่จำกัดระยะทาง พร้อมด้วยโปรแกรมการให้บริการพิเศษด้านคุณภาพรถยนต์ ฮอนด้า อัลติเมท แคร์ (Honda Ultimate Care) ด้วยการขยายการรับประกันคุณภาพรถยนต์ใหม่โดยเพิ่มระยะเวลาอีก 2 ปี หรือระยะทาง 40,000 กิโลเมตร รวมเป็นสูงสุด 5 ปี หรือ 140,000 กิโลเมตร (อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน) อีกทั้งฟรีค่าแรงในการเช็คระยะเป็นเวลา 5 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร (อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน)
เทคโนโลยีความปลอดภัย ฮอนด้า เซนส์ซิ่ง (Honda SENSING)
ฮอนด้า ซิตี้ อี:เอชอีวี ใหม่ มาพร้อมเทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะ ฮอนด้า เซนส์ซิ่ง (Honda SENSING) ซึ่งนับว่าเป็นครั้งแรกของประเทศไทยที่เทคโนโลยีความปลอดภัยขั้นสูงได้รับการติดตั้งในรถซิตี้คาร์ของฮอนด้า ด้วยการทำงานของกล้องมุมมองกว้างด้านหน้า ที่ช่วยตรวจจับวัตถุบนท้องถนนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยแจ้งเตือนผู้ขับขี่และช่วยควบคุมในสถานการณ์การขับขี่ที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ เพื่อเพิ่มความปลอดภัยให้กับผู้ใช้รถมากยิ่งขึ้น โดยมีระบบการทำงานดังต่อไปนี้
•ระบบเตือนการชนพร้อมระบบช่วยเบรก (Collision Mitigation Braking System: CMBS)
•ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน (Adaptive Cruise Control: ACC)
•ระบบเตือนและช่วยควบคุมเมื่อรถออกนอกช่องทางเดินรถ (Road Departure Mitigation System with Lane Departure Warning: RDM with LDW)
•ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทางเดินรถ (Lane Keeping Assist System: LKAS)
•ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ (Auto High-Beam: AHB)
เหนืออื่นใด ยังมาพร้อมกับเทคโนโลยีเพื่อความปลอดภัยเพิ่มเติม เช่น
•ระบบแสดงภาพมุมอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน (Honda LaneWatch)
•ระบบเบรกมือไฟฟ้า (Electric Parking Brake)
•ระบบ Brake Hold อัตโนมัติ (Auto Brake Hold)
•ระบบล็อกรถอัตโนมัติเมื่อกุญแจรีโมทอยู่ห่างจากตัวรถ (Walk Away Auto Lock)
•ถุงลม 6 ตำแหน่ง ได้แก่ ถุงลมคู่หน้า (Dual SRS) ถุงลมด้านข้าง (Side Airbags) และ ม่านถุงลมด้านข้าง (Side Curtain Airbags)
•กล้องส่องภาพด้านหลังปรับมุมมอง 3 ระดับ (Multi-angle Rearview Camera) ช่วยเพิ่มทัศนวิสัย
ในการถอย
•ระบบป้องกันล้อล็อก (ABS) ช่วยป้องกันล้อล็อกเมื่อเบรกกะทันหัน และระบบกระจายแรงเบรก (EBD) บนพื้นถนนที่ลื่น
•ระบบช่วยควบคุมการทรงตัวขณะเข้าโค้ง (Vehicle Stability Assist - VSA)
•ระบบช่วยการออกตัวขณะอยู่บนทางลาดชัน (Hill Start Assist - HSA)
•สัญญาณไฟฉุกเฉินอัตโนมัติขณะเบรกกะทันหัน (Emergency Stop Signal – ESS)
ฮอนด้า อี:เอชอีวี ใหม่ มีให้เลือกทั้งหมด 6 สี ได้แก่ สีใหม่ สีน้ำเงินออบซิเดียน (มุก) สีแดงอิกไนต์ (เมทัลลิก)
สีขาวแพลทินัม (มุก) สีดำคริสตัล (มุก) สีเงินลูนาร์ (เมทัลลิก) และสีเทาโมเดิร์นสตีล (เมทัลลิก)
Honda e:HEV RSราคา 839,000 บาท
สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.honda.co.th/cityehev
ชุดอุปกรณ์ตกแต่ง
เสริมความพรีเมียมด้วยชุดอุปกรณ์ตกแต่งโมดูโล (Modulo) รอบคัน ที่มาพร้อมกับแนวคิด “Stage Up Booster” โดยมีไอเท็มอุปกรณ์ตกแต่งให้เลือก เช่น คิ้วตกแต่งซุ้มล้อด้านหน้า ราคา 1,700 บาท คิ้วบันไดสเตนเลส LED ราคา 4,400 บาท รวมทั้งอุปกรณ์เพิ่มอรรถประโยชน์ใช้สอยในห้องเก็บสัมภาระท้ายรถ เช่น กระบะใส่ของท้ายรถ ราคา 1,250 บาท
นอกจากนี้ยังมีให้เลือกในรูปแบบแพ็กเกจชุดแต่งรอบคัน ได้แก่
•Modulo Aero RS Package ราคา 17,900 บาท ประกอบด้วย สเกิร์ตหน้า แบบ 2 ชิ้น สเกิร์ตข้าง และ
สเกิร์ตหลัง แบบ 2 ชิ้น
หมายเหตุ:
-อุปกรณ์มาตรฐาน อาจแตกต่างกันในแต่ละรุ่น
-สีขาวแพลทินัม (มุก) เพิ่ม 10,000 บาท
-สีน้ำเงินออบซิเดียน (มุก) และสีดำคริสตัล (มุก) เพิ่ม 6,000 บาท
-ราคาแพ็กเกจชุดแต่งโมดูโล ไม่รวม VAT 7%
-ดูรายละเอียดอุปกรณ์ตกแต่งเพิ่มเติมได้ที่ https://hondaaccess.co.th/line-up/honda-city-hev
ฮอนด้า ซิตี้ อี:เอชอีวี ใหม่ ได้รับการออกแบบและพัฒนาต่อยอดจาก ฮอนด้า ซิตี้ เจเนอเรชันที่ 5 ภายใต้แนวคิด “Ambitious Sedan” นับเป็นครั้งแรกของรถในเซกเมนท์นี้ที่มากับระบบขับเคลื่อนไฮบริด โดยคงรูปแบบดีไซน์ภายนอกเอาไว้เช่นเดิม ห้องโดยสารกว้างขวาง อุปกรณ์อำนวยความสะดวกล้ำสมัย สมรรถนะการขับขี่ดีและมีคุณภาพของฮอนด้า ซิตี้
การออกแบบภายนอก
ดีไซน์ภายนอกของ ฮอนด้า ซิตี้ อี:เอชอีวี ใหม่ ถูกออกแบบภายใต้แนวคิด “Standing on the Edge” มาพร้อมโครงสร้างตัวถังแบบ Wide & Low ที่ให้ความสปอร์ตปราดเปรียว , ไฟหน้าแบบ LED พร้อมไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่ในเวลากลางวันแบบ LED , ไฟตัดหมอกคู่หน้าแบบ LED และ ไฟท้ายแบบ LED โดยมาพร้อมระบบเปิด-ปิดไฟหน้าอัตโนมัติและระบบปิดไฟหน้าอัตโนมัติ เมื่อดับเครื่องยนต์
กระจังหน้าแบบ Gloss Black พร้อมโลโก้ฮอนด้าสีฟ้า (H Mark), กระจกมองข้างสีดำแบบสปอร์ต ปรับและพับไฟฟ้าพร้อมไฟเลี้ยวในตัว, สปอยเลอร์หลังแบบ Gloss Black พร้อมสัญลักษณ์ RS และ e:HEV, เสาอากาศแบบครีบฉลาม, ล้ออัลลอยขนาด 16 นิ้ว ดีไซน์สปอร์ต และแป้นเหยียบคันเร่งและเบรกแบบสปอร์ต
การออกแบบภายใน
ห้องโดยสารได้รับการออกแบบภายใต้แนวคิด “Ambitious Beauty” ใช้โทนสีดำเน้นความเรียบง่าย โดยยึดหลักของฮอนด้าในการพัฒนา คือ “Man-Maximum Machine-Minimum” พื้นที่ถูกออกแบบให้สอดคล้องกับสรีระ มีความกว้างขวางสะดวกสบายในทุกมิติทั้งผู้ขับขี่และผู้โดยสาร
เบาะที่นั่งหนังกลับดีไซน์สปอร์ต ตกแต่งเดินด้ายสีแดงในแนวนอนเพื่อช่วยเพิ่มความรู้สึกโปร่งโล่งและสะดวกสบายในการขับขี่, คอนโซลหน้าแบบ Piano Black พร้อมที่วางแก้วน้ำ, คอนโซลกลางมาพร้อมที่วางแขนขนาดใหญ่, พนักเท้าแขนด้านหน้าและด้านหลัง พร้อมที่วางแก้วน้ำ, มือจับเปิดประตูด้านในตกแต่งโครเมียม
มาตรวัดพร้อมหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบ TFT ขนาด 7 นิ้ว ,พวงมาลัยแบบมัลติฟังก์ชัน พร้อมปุ่มควบคุมระบบเครื่องเสียงและปุ่มรับ-วางสายโทรศัพท์, ระบบช่วยชะลอความเร็วรถที่พวงมาลัย (Deceleration Paddle Selectors), ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ และช่องปรับอากาศตอนหลัง เพื่อความสะดวกสบายในห้องโดยสาร มาพร้อมช่องจ่ายไฟสำรอง 2 ตำแหน่ง
ระบบเครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสขนาด 8 นิ้ว แบบ Advanced Touch รองรับการเชื่อมต่อ Apple CarPlay พร้อม Google Maps และระบบสั่งการด้วยเสียง SIRI, ระบบสตาร์ทเครื่องยนต์ พร้อมเครื่องปรับอากาศด้วยกุญแจรีโมท (Remote Engine Start),ระบบควบคุมประตูแบบอัจฉริยะ (Honda Smart Key System)และช่องเชื่อมต่อ USB จำนวน 2 ช่อง
ฮอนด้า คอนเนค (Honda CONNECT)
เทคโนโลยีเชื่อมต่อเพื่อการสื่อสารระหว่างผู้ขับขี่และรถยนต์ ทำงานผ่านแอปพลิเคชันบนมือถือ ฮอนด้า คอนเนค โดยมี 8 ฟังก์ชันการใช้งานหลัก ที่จะมาช่วยอำนวยความสะดวก และเพิ่มความปลอดภัยตลอดการเดินทาง
1.My Service ตรวจสอบประวัติการเข้ารับบริการ รวมทั้งการประเมินรายการอะไหล่และค่าใช้จ่ายเบื้องต้น โดยจะมีการแจ้งเตือนกำหนดการเข้ารับบริการครั้งต่อไป
2.Car Log ข้อมูลการขับขี่จะประกอบด้วยพฤติกรรมการขับขี่ ที่สามารถแสดงผลเป็นรายวัน รายเดือน หรือรายปี และ บันทึกการเดินทาง ที่สามารถเลือกทริปโปรด และแชร์ผ่านโซเชียลมีเดีย เช่น ไลน์ อินสตาแกรม เฟซบุ๊ก และทวิตเตอร์ เป็นต้น
3.WiFi สามารถเชื่อมต่อสัญญาณอินเตอร์เน็ตไร้สายจากรถยนต์ โดยจะใช้งานได้พร้อมกันสูงสุดถึง 5 อุปกรณ์ มีระยะการส่งสัญญาณห่างจากตัวรถยนต์อยู่ที่ 40 เมตร โดยต้องไม่มีสิ่งกีดขวาง
* ลูกค้าสามารถสมัครแพ็กเกจอินเตอร์เน็ตจากผู้ให้บริการเครือข่าย (เอไอเอส) โดยลูกค้าจะเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่าย
4.Airbag Deployment เมื่อเกิดอุบัติเหตุและถุงลมทำงาน กล่องอุปกรณ์ TCU จะส่งสัญญาณเตือนให้ทราบทันทีผ่านทางแอปพลิเคชัน พร้อมทั้งส่งข้อมูลไปยังศูนย์บริการข้อมูลฮอนด้าเพื่อทำการติดต่อไปยังเบอร์โทรศัพท์ที่ลงทะเบียนไว้ หรือเบอร์โทรฉุกเฉินที่ลูกค้าผู้ใช้งานระบุไว้ในระบบ เพื่อทำการประสานงานให้ความช่วยเหลือขั้นต้น
5.Car Status แจ้งเตือนสถานะรถยนต์ เมื่อเกิดความผิดปกติจากระบบของรถยนต์ และ แจ้งเตือนสัญญาณกันขโมย เมื่อเกิดความผิดปกติกับรถยนต์จากภายนอก เช่น การเปิดประตู กระโปรงหน้า และฝากระโปรงท้ายของรถยนต์อย่างผิดปกติ
6.Remote Vehicle Control สามารถสั่งการล็อกและปลดล็อกประตูทั้งหมด อีกทั้งยังสามารถสั่งสตาร์ทเครื่องยนต์ พร้อมทั้งตั้งค่าระดับอุณหภูมิของระบบปรับอากาศในรถยนต์ และการสั่งดับเครื่องยนต์ ยิ่งไปกว่านั้นยังสามารถสั่งเปิดสัญญาณไฟ ทั้งไฟหน้าและไฟท้าย โดยผู้ใช้งานจะต้องกำหนดรหัสส่วนตัวเป็นตัวเลข 4 หลัก (PIN) และจะต้องป้อนรหัสส่วนตัวทุกครั้งก่อนการใช้งาน
7.Geo Fence & Speed Alert สามารถกำหนดขอบเขตการขับขี่รถยนต์ทั้งเข้าและออกตามพื้นที่ที่กำหนดไว้ และยังสามารถตั้งค่าการแจ้งเตือนความเร็วตามกำหนดได้อีกด้วย
8.Find My Car สามารถตรวจสอบพิกัดรถยนต์ โดยระบบจะส่งพิกัดรถยนต์บนแผนที่ล่าสุด แสดงผลบนแอปพลิเคชัน ซึ่งผู้ใช้งานจะต้องใส่รหัสส่วนตัว 4 หลัก (PIN) ก่อนการใช้งาน
เครื่องยนต์ไฮบริดใหม่ i-MMD
หัวใจของการขับเคลื่อนมากับขุมพลังแบบ Full Hybrid ระบบ Sport Hybrid Intelligent Multi-Mode Drive (i-MMD) ที่ผสานการทำงานอันทรงพลังร่วมกันของมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว กับเครื่องยนต์เบนซินขนาด 1.5 ลิตร Atkinson-Cycle DOHC i-VTEC 4 สูบ 16 วาล์ว กำลังสูงสุดของมอเตอร์ไฟฟ้า 109 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 253 นิวตัน-เมตร ที่ 0 - 3,000 รอบต่อนาที กำลังสูงสุดของเครื่องยนต์ 98 แรงม้า ส่วนกำลังสูงสุดรวม 126 แรงม้า
ระบบส่งกำลังเป็นเกียร์อัตโนมัติแบบอัตราทดแปรผันต่อเนื่องไฟฟ้า (E-CVT) แบตเตอรี่เป็นแบบลิเธียม-ไอออน อัตราการประหยัดน้ำมันดีเยี่ยมถึง 27.8 กิโลเมตร/ลิตร และมีอัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เพียง 85 กรัม/กิโลเมตร สามารถรองรับน้ำมัน E20
เพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่ลูกค้า ฮอนด้า ซิตี้ อี:เอชอีวี ใหม่ มาพร้อมการรับประกันอายุการใช้งานแบตเตอรี่ถึง10 ปี และรับประกันระบบไฮบริดทั้งระบบ 5 ปี ไม่จำกัดระยะทาง พร้อมด้วยโปรแกรมการให้บริการพิเศษด้านคุณภาพรถยนต์ ฮอนด้า อัลติเมท แคร์ (Honda Ultimate Care) ด้วยการขยายการรับประกันคุณภาพรถยนต์ใหม่โดยเพิ่มระยะเวลาอีก 2 ปี หรือระยะทาง 40,000 กิโลเมตร รวมเป็นสูงสุด 5 ปี หรือ 140,000 กิโลเมตร (อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน) อีกทั้งฟรีค่าแรงในการเช็คระยะเป็นเวลา 5 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร (อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน)
เทคโนโลยีความปลอดภัย ฮอนด้า เซนส์ซิ่ง (Honda SENSING)
ฮอนด้า ซิตี้ อี:เอชอีวี ใหม่ มาพร้อมเทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะ ฮอนด้า เซนส์ซิ่ง (Honda SENSING) ซึ่งนับว่าเป็นครั้งแรกของประเทศไทยที่เทคโนโลยีความปลอดภัยขั้นสูงได้รับการติดตั้งในรถซิตี้คาร์ของฮอนด้า ด้วยการทำงานของกล้องมุมมองกว้างด้านหน้า ที่ช่วยตรวจจับวัตถุบนท้องถนนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยแจ้งเตือนผู้ขับขี่และช่วยควบคุมในสถานการณ์การขับขี่ที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ เพื่อเพิ่มความปลอดภัยให้กับผู้ใช้รถมากยิ่งขึ้น โดยมีระบบการทำงานดังต่อไปนี้
•ระบบเตือนการชนพร้อมระบบช่วยเบรก (Collision Mitigation Braking System: CMBS)
•ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน (Adaptive Cruise Control: ACC)
•ระบบเตือนและช่วยควบคุมเมื่อรถออกนอกช่องทางเดินรถ (Road Departure Mitigation System with Lane Departure Warning: RDM with LDW)
•ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทางเดินรถ (Lane Keeping Assist System: LKAS)
•ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ (Auto High-Beam: AHB)
เหนืออื่นใด ยังมาพร้อมกับเทคโนโลยีเพื่อความปลอดภัยเพิ่มเติม เช่น
•ระบบแสดงภาพมุมอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน (Honda LaneWatch)
•ระบบเบรกมือไฟฟ้า (Electric Parking Brake)
•ระบบ Brake Hold อัตโนมัติ (Auto Brake Hold)
•ระบบล็อกรถอัตโนมัติเมื่อกุญแจรีโมทอยู่ห่างจากตัวรถ (Walk Away Auto Lock)
•ถุงลม 6 ตำแหน่ง ได้แก่ ถุงลมคู่หน้า (Dual SRS) ถุงลมด้านข้าง (Side Airbags) และ ม่านถุงลมด้านข้าง (Side Curtain Airbags)
•กล้องส่องภาพด้านหลังปรับมุมมอง 3 ระดับ (Multi-angle Rearview Camera) ช่วยเพิ่มทัศนวิสัย
ในการถอย
•ระบบป้องกันล้อล็อก (ABS) ช่วยป้องกันล้อล็อกเมื่อเบรกกะทันหัน และระบบกระจายแรงเบรก (EBD) บนพื้นถนนที่ลื่น
•ระบบช่วยควบคุมการทรงตัวขณะเข้าโค้ง (Vehicle Stability Assist - VSA)
•ระบบช่วยการออกตัวขณะอยู่บนทางลาดชัน (Hill Start Assist - HSA)
•สัญญาณไฟฉุกเฉินอัตโนมัติขณะเบรกกะทันหัน (Emergency Stop Signal – ESS)
ฮอนด้า อี:เอชอีวี ใหม่ มีให้เลือกทั้งหมด 6 สี ได้แก่ สีใหม่ สีน้ำเงินออบซิเดียน (มุก) สีแดงอิกไนต์ (เมทัลลิก)
สีขาวแพลทินัม (มุก) สีดำคริสตัล (มุก) สีเงินลูนาร์ (เมทัลลิก) และสีเทาโมเดิร์นสตีล (เมทัลลิก)
Honda e:HEV RSราคา 839,000 บาท
สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.honda.co.th/cityehev
ชุดอุปกรณ์ตกแต่ง
เสริมความพรีเมียมด้วยชุดอุปกรณ์ตกแต่งโมดูโล (Modulo) รอบคัน ที่มาพร้อมกับแนวคิด “Stage Up Booster” โดยมีไอเท็มอุปกรณ์ตกแต่งให้เลือก เช่น คิ้วตกแต่งซุ้มล้อด้านหน้า ราคา 1,700 บาท คิ้วบันไดสเตนเลส LED ราคา 4,400 บาท รวมทั้งอุปกรณ์เพิ่มอรรถประโยชน์ใช้สอยในห้องเก็บสัมภาระท้ายรถ เช่น กระบะใส่ของท้ายรถ ราคา 1,250 บาท
นอกจากนี้ยังมีให้เลือกในรูปแบบแพ็กเกจชุดแต่งรอบคัน ได้แก่
•Modulo Aero RS Package ราคา 17,900 บาท ประกอบด้วย สเกิร์ตหน้า แบบ 2 ชิ้น สเกิร์ตข้าง และ
สเกิร์ตหลัง แบบ 2 ชิ้น
หมายเหตุ:
-อุปกรณ์มาตรฐาน อาจแตกต่างกันในแต่ละรุ่น
-สีขาวแพลทินัม (มุก) เพิ่ม 10,000 บาท
-สีน้ำเงินออบซิเดียน (มุก) และสีดำคริสตัล (มุก) เพิ่ม 6,000 บาท
-ราคาแพ็กเกจชุดแต่งโมดูโล ไม่รวม VAT 7%
-ดูรายละเอียดอุปกรณ์ตกแต่งเพิ่มเติมได้ที่ https://hondaaccess.co.th/line-up/honda-city-hev