ฟอร์ด ดีใจตลาดรถยนต์ไทยฟื้นตัวเร็วเกินคาด โดยยอดขายสะสม 10 เดือน แตะ 600,000 คัน คาดปีนี้ 760,000 คัน ส่วนปีหน้าขยับถึง 800,000 คัน ตั้งเป้าขาย 30,000 คันในปีนี้ พร้อมเปิดรุ่นปรับโฉมของเรนเจอร์และเอเวอร์เรสต์ดันยอดขาย
นายวิชิต ว่องวัฒนาการ กรรมการผู้จัดการ ฟอร์ด ประเทศไทย กล่าวว่า ตลาดรถยนต์ไทยปีนี้เดิมประเมินกันว่าจะมียอดขายรวมราว 600,000 คัน หลังได้รับผละกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 แต่จากสถานการณ์ที่ดีขึ้นทำให้ยอดขายฟื้นตัวได้เร็วเกินกว่าที่คาดเอาไว้มาก
ในไตรมาสสองยอดขายร่วงลงอย่างหนัก แต่ไตรมาสสามนั้นมีการฟื้นตัวกลับมาอย่างรวดเร็ว โดยยอดขายล่าสุดของเดือนตุลาคมนั้นมีประมาณ 72,000 คัน และเมื่อรวมกับยอดขายสะสม 9 เดือนจะทำให้ยอดขายสะสม 10 เดือนของตลาดรถยนต์ไทยอยู่ที่ประมาณ 600,000 คัน
“ปัจจัยสำคัญมาจากการที่รถเพื่อการพาณิชย์นั้นยังคงมีความต้องการของลูกค้าอยู่เหมือนเดิม เนื่องจากเป็นรถที่เอาไว้ใช้ทำมาหากิน ดังนั้นจึงมีความจำเป็นและได้รับผลกระทบน้อยกว่ารถยนต์นั่ง โดยรถปิกอัพมีสัดส่วนการขายอยู่ราว 48-50% ของตลาดรวมทุกประเภท” นายวิชิตกล่าว
ทั้งนี้จากการสำรวจกลุ่มลูกค้าพบว่า รถยนต์ที่มีราคาสูงมียอดขายที่ดีขึ้น โดยเฉพาะฟอร์ด เรนเจอร์ แรพเตอร์ จากยอดขายเฉลี่ยเดือนละไม่กี่สิบคัน แต่ในช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมามียอดขายเพิ่มขึ้นเป็นเดือนละกว่าร้อยคัน และมีสัดส่วนของการซื้อด้วยเงินสดเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว
นายวิชิต กล่าวเพิ่มเติมว่า การประเมินยอดขายรถยนต์รวมในปีหน้า คาดว่าจะมียอดขายราว 800,000 คัน หลังจากที่สถาณการณ์ของโควิด-19ดีขึ้นและรัฐเริ่มผ่อนคลายมาตรการต่างๆ ให้นักท่องเที่ยวเข้ามาได้มากขึ้น เศรษฐกิจโดยรวมจะดีขึ้นตาม
สำหรับยอดขายของฟอร์ดในปีนี้ผ่าน 10 เดือนมียอดทั้งสิ้น 21,800 คัน ลดลง 40% และตั้งเป้าสำหรับการขายของปีนี้ไว้ที่ 30,000 คัน โดยมีปัจจัยมาจากการเปิดตัวรุ่นปรับโฉมใหม่ พร้อมปรับการวางตำแหน่งสินค้าใหม่ของทั้ง เรนเจอร์และเอเวอร์เรสต์
นายวิชิต ว่องวัฒนาการ กรรมการผู้จัดการ ฟอร์ด ประเทศไทย กล่าวว่า ตลาดรถยนต์ไทยปีนี้เดิมประเมินกันว่าจะมียอดขายรวมราว 600,000 คัน หลังได้รับผละกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 แต่จากสถานการณ์ที่ดีขึ้นทำให้ยอดขายฟื้นตัวได้เร็วเกินกว่าที่คาดเอาไว้มาก
ในไตรมาสสองยอดขายร่วงลงอย่างหนัก แต่ไตรมาสสามนั้นมีการฟื้นตัวกลับมาอย่างรวดเร็ว โดยยอดขายล่าสุดของเดือนตุลาคมนั้นมีประมาณ 72,000 คัน และเมื่อรวมกับยอดขายสะสม 9 เดือนจะทำให้ยอดขายสะสม 10 เดือนของตลาดรถยนต์ไทยอยู่ที่ประมาณ 600,000 คัน
“ปัจจัยสำคัญมาจากการที่รถเพื่อการพาณิชย์นั้นยังคงมีความต้องการของลูกค้าอยู่เหมือนเดิม เนื่องจากเป็นรถที่เอาไว้ใช้ทำมาหากิน ดังนั้นจึงมีความจำเป็นและได้รับผลกระทบน้อยกว่ารถยนต์นั่ง โดยรถปิกอัพมีสัดส่วนการขายอยู่ราว 48-50% ของตลาดรวมทุกประเภท” นายวิชิตกล่าว
ทั้งนี้จากการสำรวจกลุ่มลูกค้าพบว่า รถยนต์ที่มีราคาสูงมียอดขายที่ดีขึ้น โดยเฉพาะฟอร์ด เรนเจอร์ แรพเตอร์ จากยอดขายเฉลี่ยเดือนละไม่กี่สิบคัน แต่ในช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมามียอดขายเพิ่มขึ้นเป็นเดือนละกว่าร้อยคัน และมีสัดส่วนของการซื้อด้วยเงินสดเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว
นายวิชิต กล่าวเพิ่มเติมว่า การประเมินยอดขายรถยนต์รวมในปีหน้า คาดว่าจะมียอดขายราว 800,000 คัน หลังจากที่สถาณการณ์ของโควิด-19ดีขึ้นและรัฐเริ่มผ่อนคลายมาตรการต่างๆ ให้นักท่องเที่ยวเข้ามาได้มากขึ้น เศรษฐกิจโดยรวมจะดีขึ้นตาม
สำหรับยอดขายของฟอร์ดในปีนี้ผ่าน 10 เดือนมียอดทั้งสิ้น 21,800 คัน ลดลง 40% และตั้งเป้าสำหรับการขายของปีนี้ไว้ที่ 30,000 คัน โดยมีปัจจัยมาจากการเปิดตัวรุ่นปรับโฉมใหม่ พร้อมปรับการวางตำแหน่งสินค้าใหม่ของทั้ง เรนเจอร์และเอเวอร์เรสต์