นายพัฒนเดช อาสาสรรพกิจ ประธานจัดงาน ฟาสต์ ออโต โชว์ ไทยแลนด์ 2020 กล่าวว่า งานในปีนี้ เปิดฉากงาน ฟาสต์ ออโต โชว์ ไทยแลนด์ 2020 รถใหม่ - รถยนต์ใช้แล้ว - อุปกรณ์ตกแต่ง ที่เดียวจบครบเรื่องรถ พร้อมแล้วที่จะเปิดให้ประชาชนผู้สนใจได้มาเลือกเป็นเจ้าของรถยนต์ ทั้งรถยนต์รุ่นใหม่ และรถยนต์ใช้แล้ว รวมไปถึงพันธมิตรใหม่ที่เพิ่มเติมเข้ามาครั้งแรกในปีนี้คือกลุ่มผู้ประกอบการ อุปกรณ์ตกแต่งโมดิฟายด์ ชุดแต่งต่างๆ รวมไปถึงอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าเทคโนโลยีสุดล้ำสมัย จาก Dyson ที่จะมาช่วยเติมเต็มไลฟ์สไตล์คนรักรถให้สะดวกสบายขึ้นอีกด้วย
"งานปีนี้เราเลื่อนจากเดิมที่เคยจัดในระหว่างเดือนมิถุนายน - กรกฎาคมของทุกปี มาเป็นเดือนตุลาคม - พฤศจิกายน อันเนื่องมาจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด 19 อย่างไรก็ดีการจัดงานในช่วงเวลานี้ เราถือว่าเป็นช่วงจังหวะที่ดี เพราะมีรถยนต์รุ่นใหม่เปิดตัวหลายรุ่นภายในงาน อาทิ เอ็มจี เอชเอส ปลั๊ก-อิน ไฮบริด, อีซูซุ เอ็กซ์ -ซีรีส์ ใหม่, มิตซูบิชิ ปาเจโร่ สปอร์ต จีที-พลัส" เป็นต้น และคาดการณ์ว่าในการจัดงาน ฟาสต์ ออโต โชว์ ไทยแลนด์ 2021 จะกลับมาจัดงานอย่างยิ่งใหญ่อีกครั้งในห้วงเวลาเดิม คือ มิถุนายน - กรกฎาคม ดังเช่นทุกปี
นายพัฒนเดช กล่าวต่อไปว่า พื้นที่ของการจัดแสดงงานในปีนี้ ยังคงเท่าเดิม คือ 16,000 ตร.ม. ความพิเศษในปีนี้คือการได้พันธมิตรใหม่ บริษัท กรังด์ปรีซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) ที่ไม่ใช่แค่เพียงมาร่วมจัดแสดง แต่ยังเป็นผู้ถือหุ้นรายใหม่ ซึ่งจะเข้ามาช่วยสร้างความหลากหลายและแข็งแกร่งให้กับงานฟาสต์ ออโต โชว์ ไทยแลนด์ 2020 ให้มีความยิ่งใหญ่ และพร้อมจะเดินหน้าไปสู่การจัดแสดงงานรถยนต์ยังพื้นที่ต่างจังหวัดในอนาคต
ประเมินว่าการจัดงานครั้งนี้ จะมีผู้เข้าชมงานอยู่ที่ 150,000 คน โดยเป็นกลุ่มลูกค้าที่มาชมงานจะมีเป้าที่ชัดเจนว่ามาชมงานเพื่อซื้อรถ มากกว่ามาชมงานเพื่ออัพเดทความเคลื่อนไหวในแวดวงยานยนต์ มั่นใจว่ายอดขายรถใหม่ป้ายแดงปีนี้จะสามารถปิดยอดจองรถทั้งหมดที่มาร่วมภายในงานไว้ที่ 1,400 คัน และยอดรถยนต์ใช้แล้วคาดการณ์ว่าจะสามารถจำหน่ายได้ไม่น้อยกว่า 700 คัน
นายชลัทชัย ปภัสร์พงษ์ รองประธานจัดงาน กล่าวว่า อุตสาหกรรมรถยนต์ใหม่ในปีนี้ ถือเป็นปีที่เหนื่อยยากพอสมควร อย่างไรก็ดีในส่วนของประเทศไทยที่สามารถควบคุมสถานการณ์วิกฤตโควิดอยู่ในเกณฑ์ดี มีมาตรฐาน ได้รับการปลดล็อกไปหลายมาตรการ และยังคงรักษาระดับความปลอดภัยอยู่ในเกณฑ์ที่ดีในปัจจุบัน จึงมั่นใจว่าตลาดรถยนต์น่าจะกลับมาฟื้นตัวได้เร็วกว่าที่คาดการณ์กันเอาไว้ ประกอบกับการที่บริษัทรถยนต์หลายค่ายต่างก็เปิดตัวรุ่นใหม่ต่อเนื่อง และพบว่าผู้บริโภคให้ความสนใจและมีการตอบสนองการสื่อสารผ่านกิจกรรมทางการตลาดของค่ายรถต่างๆ อย่างต่อเนื่อง นับได้ว่าเป็นการส่งสัญญาณที่ดีในภาพรวมของอุตสาหกรรมยานยนต์ของตลาดประเทศไทย
ขณะที่การจัดงานฟาสต์ ออโต โชว์ ไทยแลนด์ ในปีนี้ มีบริษัทรถยนต์ใหม่แบรนด์ชั้นนำเข้าร่วมงานจำนวน 11 แบรนด์ชั้นนำ ได้แก่ MG, Approved Certified Used Car by MG, HONDA, ISUZU, MAZDA, THAIRUNG, MITSUBISHI, NISSAN, SUZUKI, SUBARU, TOYOTA
ส่วนไฮไลท์รถยนต์รุ่นใหม่ จัดแสดงภายในงาน อาทิ เอ็มจี เอชเอส ปลั๊ก-อิน ไฮบริด (MG HS Plug-in Hybrid) ที่จะโชว์ในงานเป็นครั้งแรก, มิตซูบิชิ ปาเจโร่ สปอร์ต จีที-พลัส (Mitsubishi Pajero Sport GT-Plus) ใหม่ และ นิว อีซูซุ เอ็กซ์ - ซีรีส์ 2020 (New Isuzu X-Series 2020) ชุดแต่ง X-Stylish Package มีให้เลือก 2 รุ่น Sport Racing ในรุ่น SPEED และ Sport Premium รุ่น HI-LANDER
นายอัษฎาวุธ อาสาสรรพกิจ รองประธานจัดงาน กล่าวว่า งานฟาสต์ ออโต โชว์ ไทยแลนด์ 2020 จัดขึ้นเป็นปีที่ 9 ในกลุ่มรถยนต์ใช้แล้ว ถือเป็นจุดแข็งและจุดขายหลักของงาน โดยผู้ประกอบการที่เข้าร่วมภายในงานนั้น ส่วนใหญ่จับมือกันตั้งแต่ปีแรกจนถึงปีที่ 9 แสดงให้เห็นถึงผลการตอบรับของงานที่ดี รวมไปถึงมาตรฐานในการจัดจำหน่ายที่ได้รับความไว้วางใจและมีความน่าเชื่อถือในคุณภาพของรถ และในแต่ละปีผู้ประกอบการก็จะคัดสรรรถยนต์ใช้แล้ว ที่มีความแข็งแกร่งด้วย การจัดรถที่มีคุณภาพดี ในราคาโดนใจ พร้อมโปรโมชั่นที่คุ้มค่า เหนือความคาดหมายมากระตุ้นการตัดสินใจทุกปี อีกทั้งการซื้อรถใช้แล้ว ยังได้รับสิทธิพิเศษผ่านโปรโมชั่นต่างๆ ภายในงานมาตรฐานเดียวกันกับการซื้อรถใหม่ป้ายแดงอีกด้วย
สำหรับผู้ประกอบการรถยนต์ใช้แล้วที่เข้าร่วมงานในปีนี้ มีจำนวนทั้งสิ้น 15 ราย ได้แก่ วิสาร ออโต้คาร์, DDS คาร์เซ็นเตอร์, โย รัชดา, ศูนย์รถยนต์ 54 นิวัฒน์, THE ONE, CarDeeSureOK, เจ มอเตอร์เทรด, A.T.CARSALE, อมรวารันตี โดยเบนซ์อมรรัชดา, รถเศรษฐี, เบสท์ เซอร์วิส, NBP CAR, รถบ้านคุณเอ็กซ์ By AUTO MASTER, UNIQUE AUTO และ น้องใหม่ล่าสุด ดา ศรีนครินทร์
การจัดงานในปีนี้ ยังคงสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้ที่จะซื้อรถยนต์ใช้แล้วด้วยการรับซื้อคืน 100% ตามเงื่อนไข 5 ข้อ คือ 1. ไม่ไฟไหม้ 2. ไม่จมน้ำ 3. ไม่มีการตัดต่อ 4. โอนทะเบียนได้ถูกกฎหมาย 5. ไม่มีการชนหนัก และพิเศษสุดสำหรับผู้ที่ซื้อรถยนต์ใช้แล้วทุกคันภายในงานยังจะได้รับบัตรกำนัลในการใช้บริการที่ “บี-ควิก” อีกด้วย
นายอโณทัย เอี่ยมลำเนา ผู้บริหาร บริษัท กรังด์ปรีซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) รองประธานจัดงาน กล่าวว่า ถือเป็นปีแรกของกลุ่มกรังด์ปรีซ์ ในฐานะผู้ถือหุ้นรายใหม่ของงานฟาสต์ ออโต โชว์ ไทยแลนด์ 2020 ความพิเศษที่จะได้พบ คือ จัดโซนอุปกรณ์ตกแต่ง โมดิฟายด์ มอเตอร์สปอร์ต อี-สปอร์ต และเครื่องซีมูเลเตอร์จำลอง มาให้ผู้เข้าร่วมชมงานได้สัมผัสความแปลกใหม่ของงานในครั้งนี้
นอกจากนั้นแล้วได้นำประสบการณ์จากงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งล่าสุดที่จัดภายใต้วิถีใหม่ "NEW NORMAL" ตามมาตรการของ ศบค.มาใช้อย่างเคร่งครัด อาทิ มีจุดคัดกรองผู้ชมงานก่อนเข้างาน จุดบริการเจลแอลแอลกอฮอล์ทั่วบริเวณงาน ทำความสะอาดทุกครั้งหลังจากที่มีลูกค้าเข้าชมตัวรถ รวมถึงรถทดสอบที่จัดเตรียมไว้ด้านหลังฮอลล์ด้วย โดยทั้งหมดได้เพิ่มจำนวนเจ้าหน้าที่ในการดำเนินการ 15%
นางกฤติยา ศรีสนิท ประธานคณะเจ้าหน้าที่ด้านธุรกิจสินเชื่อยานยนต์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ถือเป็นปีที่ 5 แล้วสำหรับกรุงศรี ออโต้ ที่ได้เป็นผู้สนับสนุนหลักอย่างเป็นทางการของงาน ฟาสต์ ออโต โชว์ ไทยแลนด์ 2020 โดยในปีนี้ได้นำเสนอโปรโมชั่นพิเศษสำหรับลูกค้า “กรุงศรี ยูสด์ คาร์” อาทิ รู้ผลอนุมัติสินเชื่อไวภายใน 15 นาที, ดาวน์น้อย, ผ่อนสบายสูงสุด 84 เดือน พร้อมแพคเกจพิเศษรับประกันอะไหล่รถยนต์ (Krungsri Auto Extended Warranty) นานสูงสุด 2 ปี หรือ 70,000 กิโลเมตร นอกจากนี้ยังมี "กรุงศรี ออโต้ พร้อมสตาร์ท" ซึ่งเป็นนวัตกรรมประเมินวงเงินสินเชื่อผ่านแพลตฟอร์มดิจิทัล ที่ลูกค้าสามารถรู้ผลภายใน 3 นาที ก่อนเลือกซื้อรถในงาน
นายพัฒนเดช กล่าวทิ้งท้ายว่า สำหรับโปรโมชั่นพิเศษภายในงาน อาทิ ลุ้นรับรางวัลประจำวันทุกวัน ได้แก่บัตรเติมน้ำมัน มูลค่า 1,000 บาท วันละ 5 รางวัล และ รางวัลใหญ่บัตรเติมน้ำมัน มูลค่า 100,000 บาท และพิเศษสุดในวันสุดท้ายของงานร่วมลุ้นรางวัล เครื่องดูดฝุ่น Dyson รุ่น V8 Slim Fluffy + มูลค่า 14,900 บาท นอกจากนี้แล้ว ใบปลิวมีมูลค่า อย่าทิ้ง !!! สามารถ นำมาเป็นคูปองส่วนลด 2,000 บาท ซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้า ที่บูท Dyson ภายในงาน ฟาสต์ ออโต โชว์ ไทยแลนด์ 2020
งาน ฟาสต์ ออโต โชว์ ไทยแลนด์ 2020 เริ่มขึ้นแล้วในวันพุธที่ 28 ตุลาคม - วันอาทิตย์ที่ 1 พฤศจิกายน นี้ ณ ฮอลล์ 105 - 106 ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา โดยงานเปิดให้เข้าชมฟรี! ไม่มีค่าใช้จ่าย
