เคอนิกเส็กก์(Koenigsegg) แบรนด์รถยนต์ระดับไฮเปอร์คาร์แต่งตั้งตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการในประเทศไทย ได้แก่ บริษัท เจเนอร์รัล ออโต้ซัพพลาย จำกัด พร้อมเปิดตัวรถยนต์ 2 รุ่นแรกในการทำตลาด ได้แก่ Jesko Absolut และGemera
ซึ่ง บริษัท เจเนอร์รัล ออโต้ ซัพพลาย จำกัดนั้นอยู่ในเครือของ ชาริช โฮลดิ้ง ตั้งขึ้นด้วยทุนจดทะเบียน 20 ล้านบาทและอยู่ภายใต้การบริหารงานของ นายอภิชาติ ลีนุตพงษ์ ร่วมกับ นายศักดิ์ นานาซึ่งเป็นทีมงานเดียวกันกับบริษัท เรนาสโซ มอเตอร์ ที่ดูแลรถยนต์ซูเปอร์คาร์แบรนด์ลัมโบกินี่ ในประเทศไทย
สำหรับรถที่เข้ามาทำตลาดอย่างเป็นทางการมีด้วยกัน 2 รุ่น ในการเปิดตัว แต่จะทำตลาดอย่างจริงจังเพียงรุ่นเดียวคือGemeraที่เป็นรถแบบMega-GT (Mega-Gran Touring) คันแรกของโลกขณะที่อีกหนึ่งรุ่น Jesko Absolut นั้นแม้จะพร้อมจำหน่ายแต่เนื่องจากมีลูกค้าจองซื้อไปหมดแล้วจึงกลายเป็นการนำมาโชว์เท่านั้น
Gemeraถูกออกแบบให้มีพื้นที่รองรับผู้ขับขี่และผู้โดยสารที่มีขนาดความสูง2 เมตร ได้ถึง 4 ที่นั่งและสามารถเก็บกระเป๋าสัมภาระขนาด 20 นิ้ว ได้ 4 ใบ(ด้านหน้า1 ด้านหลัง3) จึงทำให้Gemera ถูกจัดให้อยู่ในรถประเภทของ Gran Touring ได้ไม่ยาก
ขุมกำลังของ Gemeraนั้นถือว่าเป็นขีดสุดแห่งเทคโนโลยียานยนต์ในยุค2020นี้ด้วยเครื่องยนต์เบนซิน 3 สูบ เทอร์โบคู่ ขนาด 2.0 ลิตร มีชื่อเรียกว่า“TinyFriendly Giant (TFG)” ทำงานพร้อมกับมอเตอร์ไฟฟ้า 3 ตัว สามารถรีดพละกำลังรวมสูงสุดออกมาได้ถึง 1,700 แรงม้าและแรงบิดสูงสุดที่ 3,500 นิวตันเมตรจากการวัดที่ล้อ โดยใช้น้ำมันเชื้อเพลิงชนิดE85และเคลมว่ารองรับการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงเบนซินได้ทุกชนิดถึงE100
อัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ในเวลาเพียง 1.9วินาที และอัตราเร่ง 0-200 กม./ชม. ในเวลาเพียง 4.9 วินาทีความเร็วสูงสุดเคลมไว้มากกว่า 400 กม./ชม. ขณะที่น้ำมันเต็มถัง75 ลิตรสามารถวิ่งได้ระยะมากกว่า 1,000 กม. โดยโหมดเครื่องยนต์ 950 กม. และโหมดไฟฟ้าล้วน (EV)50 กม.ทั้งยังสามารถขับเคลื่อนได้ด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าเพียงอย่างเดียวด้วยความเร็วสูงสุดถึง300 กม./ชม
Gemera นั้นถูกออกแบบด้วยแนวคิดการใช้งานที่ครอบคลุมทั้งการใช้ในเมืองด้วยความเร็วต่ำและขับขี่บนทางหลวงด้วยความเร็วสูงโดยคงรูปลักษณ์แบบรถสปอร์ต 2 ประตู โดยประตูได้รับการออกแบบใหม่ที่เรียกว่าKoenigseggAutomated Twisted Synchrohelix
Actuation Doors (KATSAD) ซึ่งสามารถเปิดได้กว้างพอที่ผู้โดยสารด้านหน้าและด้านหลังสามารถเข้ารถได้พร้อมกัน
ขณะเดียวกันบริเวณด้านบนประตูนั้นติดตั้งกล้องที่แสดงภาพของรถด้านหลังซึ่งเป็นครั้งแรกของKoenigsegg ที่นำมาใช้บนรถแทนกระจกมองข้างทั่วไปล้อผลิตจากวัสดุคาร์บอนฟเบอร์ล้วน ซึ่งมีน้ำหนักไม่ถึง 9 กิโลกรัมต่อล้อ ขนาด 20และ 21 นิ้ว ส่วนด้านท้ายของGemera ติดตั้งท่อไอเสียจากAkrapovic ที่มีความดุดันทั้งด้านรูปลักษณ์และซุ้มเสียงของเครื่องยนต์
ด้านเทคโนโลยีช่วยเหลือในการขับขี่ของGemeraมีการติดตั้งทั้งระบบเลี้ยวล้อหลังและระบบกระจายแรงบิดเพื่อมอบการควบคุมที่ฉับไวและมั่นใจยิ่งขึ้นระบบความปลอดภัยได้รับการใส่ใจตั้งแต่โครงสร้างตัวถังแบบCarbon FiberMonocoque ถุงลมนิรภัย 6 ใบ ระบบช่วยเหลือการทรงตัวระบบป้องกันล้อหมุนฟรี ระบบเบรกABS และระบบช่วยเหลือการขับขี่ADAS2.5 ยิ่งไปกว่านั้นยังมีจุดยึดISOFIX สำหรับเบาะหลัง2 ที่นั่งอีกด้วย
การตกแต่งภายในของGemera อำนวยความสะดวกสบายด้วยเบาะปรับไฟฟ้าแบบ4ทิศทางในด้านหน้าแลถูกเสริมด้วยเมมโมรี่โฟมเพื่อรองรับสรีระผู้โดยสารให้สบายยิ่งขึ้นทั้ง4 ที่นั่ง ผู้โดยสารทั้ง 4ที่นั่งสามารถควบคุมระบบเครื่องเสียงความบันเทิงและระบบปรับอากาศได้ด้วยตัวเองพร้อมทั้งยังมีช่องเก็บสัมภาระของแต่ล่ะที่นั่งเพื่อเป็นสัดส่วนอีกด้วย
สำหรับGemera นี้มีเพียงแค่ 300 คันทั่วโลกเท่านั้น สนนราคาอยู่ที่ 2.998 ล้านยูโร หรือราว 110 ล้านบาท (จำหน่ายเป็นเงินสกุลยูโร) โดยประเทศไทยได้โควต้าในการจำหน่ายมาทั้งสิ้น 4คัน และมีเศรษฐีไทยจองเป็นที่เรียบร้อยแล้ว 1 คัน
การจองGemera นั้นลูกค้าที่สั่งจองจะต้องวางเงินจองทันที20% โดยเมื่อรถที่สั่งนั้นเริ่มต้นการผลิตลูกค้าจะต้องชำระอีก 30% ของราคาจำหน่าย และส่วนที่เหลือ 50%จะชำระเมื่อรถส่งมอบถึงมือลูกค้าสำเร็จ โดยสามารถจัดไฟแนนซ์ได้ยอดจัดสูงสุด 50ล้านบาท ผ่อนต่อเดือนราว 900,000 บาท เป็นระยะเวลา 5 ปี ผ่านกสิกรไทยลิสซิ่ง
การผลิตGemera จะเริ่มขึ้นในราวปี2022 ที่โรงงานแห่งใหม่ของKoenigsegg ณ ประเทศสวีเดนและจะมีกำหนดส่งมอบสำหรับลูกค้าชาวไทยอย่างไวที่สุดไตรมาสสุดท้ายของปี 2023และอย่างช้าที่สุดคือไตรมาสสามของปี 2024
ทั้งนี้ หลังการเปิดตัวทำตลาดKoenigseggอย่างเป็นทางการเรียบร้อย จะมีการตั้งโชว์รูมที่ถนนวิภาวดีรังสิต โดยจะเน้นไปที่การให้บริการหลังการขายเป็นหลักควบคู่ไปกับการสร้างการรับรู้และเชื่อมความสัมพันธ์ของลูกค้าต่อแบรนด์ Koenigsegg
ขณะที่อีกหนึ่งรุ่น“Jesko Absolut” (เยสโก้แอบซูลุท) นั้นมากับเครื่องยนต์เบนซินV8 เทอร์โบคู่ ขนาด 5.0 ลิตร กำลังสูงสุด 1,600 แรงม้า (เมื่อใช้เชื้อเพลิงE85)โดยเป็นรถรุ่นที่เร็วและแรงที่สุดในประวัติศาสตร์ของKoenigsegg เคลมความเร็วสูงสุดอยู่ที่ระดับ500 กม./ชม.
อย่างไรก็ตาม Jesko Absolut มีลูกค้าจากทั่วโลกจองหมดแล้วตั้งแต่ก่อนการเปิดตัวในประเทศไทยทำให้ตัวแทนจำหน่ายในประเทศไทยไม่ได้รับโควต้าในการจำหน่ายซึ่งหากจะจำหน่ายคาดว่าจะมีราคารวมภาษีอย่างถูกต้องแล้วที่ระดับ 350 ล้านบาท