กลุ่มสื่อจีนรายงาน (19 ต.ค.) สำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (National Bureau of Statistics ชื่อย่อ NBS) เปิดเผยว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ของจีนในไตรมาสที่ 3 (เดือน ก.ค. – ก.ย.) ขยายตัวร้อยละ 4.9 เมื่อเทียบปีต่อปี ส่งผลให้เศรษฐกิจ 9 เดือนแรกของปีเติบโตร้อยละ 0.9
ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมในช่วงดังกล่าวเติบโตร้อยละ 6.9 การลงทุนในสินทรัพย์ถาวรโตร้อยละ 0.8 ในขณะที่การค้าปลีกโตร้อยละ 3.3
รายงานระบุว่า เศรษฐกิจจีนได้รับแรงขับเคลื่อนจากอุปสงค์ทั้งภายในประเทศและต่างประเทศ ซึ่งเริ่มฟื้นตัวจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19
ตัวเลขดังกล่าวทำให้จีนมีจีดีพีขายตัวต่อเนื่อง 2 ไตรมาส โดยก่อนหน้านี้ ตัวเลขจีดีพีของจีนในไตรมาสที่ 2ขยายตัวร้อยละ 3.2
ที่ผ่านมา รัฐบาลจีนประกาศใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง เช่น การกระตุ้นการใช้จ่ายภาครัฐ การลดภาษี การลดดอกเบี้ยกู้ยืมของธนาคาร และการลดเงินทุนสำรองของธนาคาร
การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ทำให้เศรษฐกิจจีนในไตรมาสแรกหดตัวลงร้อยละ 6.8% ซึ่งนับว่าตกต่ำที่สุดในรอบหลายสิบปี
ในฐานะประเทศที่มีเศรษฐกิจขนาดใหญ่เป็นอันดับที่ 2 ของโลก อัตราการขยายตัวดังกล่าวเป็นสัญญาณการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจที่สำคัญ อย่างไรก็ดี เศรษฐกิจจีนยังฟื้นตัวได้ต่ำกว่าทีบรรดานักวิเคราะห์คาดการณ์ สะท้อนว่าจีนยังต้องเผชิญความท้าทายอีกหลายประการ
ทั้งนี้ กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (International Monetary Fund: IMF) คาดว่าเศรษฐกิจจีนในปี 2563 จะเติบโตร้อยละ 1.9 โดยเป็นประเทศที่มีเศรษฐกิจขนาดใหญ่เพียงประเทศเดียวที่มีการเติบโตในปีนี้