อาวดี้ย้ำบริการหลังการขายเป็นธงนำ เน้นสร้างประสบการณ์ที่ดีกับลูกค้า พร้อมขยายศูนย์บริการเพิ่มอีก 2 แห่ง รวมเป็น 7 แห่ง ปลื้มกระแสตอบรับรุ่น A5 ดีมียอดจองสะสมกว่า 300 คัน ตั้งเป้ายอดขายเท่าปีก่อน สวนตลาดรถหรูที่หดตัว
นายกฤษณะกร เศวตนันท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร อาวดี้ ประเทศไทย กล่าวว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ทำให้บริษัทฯ รถยนต์ต่างได้รับผลกระทบอย่างหนักโดย 6เดือนแรกตลาดรวมลดลงกว่า 40% และตลาดรถหรูนั้นลดลงไป 32% แต่ทว่ายอดขายของอาวดี้นั้นเติบโตขึ้น 11%
ปัจจัยสำคัญมาจากการที่อาวดี้ ไม่หยุดในช่วงโควิด พร้อมกับการให้บริการอย่างต่อเนื่อง โดยยึดหลักใช้การบริการหลังการขายนำหน้าการขาย ประกอบกับการมีรถยนต์รุ่นใหม่เปิดตัวอย่างต่อเนื่อง จึงสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้ามากขึ้น ทั้งจากลูกค้าเก่ากลับมาซื้อซ้ำ และลูกค้าแนะนำเพื่อนให้มาซื้อ
“เราขายอะไหล่เพื่อมาขายรถ ทำให้สัดส่วนการขายราว 30-40% มาจากกลุ่มลูกค้าเก่าที่ประทับใจในการบริการหลังการขายและกลับมาซื้อซ้ำในรุ่นอื่นๆ ซึ่งในส่วนของราคาอะไหล่นั้นอาวดี้ถูกกว่าคู่แข่ง และมีการรับประกันที่ยาวนานกว่าคือ 5 ปี หรือ 150,000 กม. โดยรับประกันทุกชิ้นส่วนตามมาตรฐานของอาวดี้ เอจีจริงๆ ส่วนเป้าหมายการขายปีนี้คาดว่าจะทำได้ประมาณ 1,000 คัน เท่าๆ กับปีที่แล้ว” นายกฤษณะกร กล่าว
สำหรับอาวดี้ เอ5 หลังจากที่เปิดตัวเมื่อเร็วๆ นี้มียอดจองสะสมกว่า 300 คัน ส่งผลให้มียอดจองทุกรุ่นค้างส่งมอบกว่า 400 คัน นับว่าเป็นยอดจองสะสมและค้างส่งที่สูงมากที่สุดเป็นประวัติศาสตร์นับตั้งแต่อาวดี้ ประเทศไทยเข้ามาทำตลาดเมื่อ 4 ปีก่อน โดยคาดว่าจะสามารถส่งมอบรถค้างส่งได้ทันภายในสิ้นปีนี้
ด้านนายวัลลภ เฉลิมวงศาเวช กรรมการผู้จัดการ อาวดี้ ประเทศไทย กล่าวว่า ปัจจุบันอาวดี้ มีศูนย์บริการทั้งสิ้น 5 แห่ง ได้แก่ ในกรุงเทพฯ 2 แห่งที่ ถนนเพชรบุรีและถนนประดิษฐ์มนูธรรม ในต่างจังหวัด 3 แห่ง ได้แก่ พัทยา ภูเก็ต และเชียงใหม่ ซึ่งจะมีการเปิดเพิ่มอีก 2 แห่ง คือ สาขาถนนราชพฤษ์ และสาขาอุดรธานี
“ปัจจุบันรถยนต์อาวดี้มีจำนวนประมาณ 4,000 คันในประเทศไทย ดังนั้นเพื่อให้การบริการที่เพียงพอกับลูกค้า จึงทำให้เราเริ่มขยายศูนย์บริการให้มากขึ้นและคลอบคลุมพื้นที่สำคัญต่างๆ ทั่วประเทศ ซึ่งปีนี้คาดว่าจะมีปริมาณงานบริการหลังการขายถึง 8,700 ครั้ง และยอดขายอะไหล่ 130 ล้านบาท”
สิ่งสำคัญที่อาวดี้ ประเทศไทยย้ำมาตลอดคือ ความโปร่งใสในการคิดค่าบริการ โดยอัตราค่าแรงเท่ากันทุกที่ 960 บาท/ชั่วโมง และราคาอะไหล่ที่ชัดเจนขึ้นกับความเร่งด่วนตามความต้องการของลูกค้า ซึ่งรับซ่อมรถอาวดี้ทุกคัน ไม่ว่าจะเก่าแค่ไหน ยกเว้นรถที่นำเข้าหลังปี 2018ผ่านผู้นำเข้าอิสระ ที่จะไม่รับซ่อมและไม่ขายอะไหล่ให้ในทุกกรณี
นายกฤษณะกร เศวตนันท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร อาวดี้ ประเทศไทย กล่าวว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ทำให้บริษัทฯ รถยนต์ต่างได้รับผลกระทบอย่างหนักโดย 6เดือนแรกตลาดรวมลดลงกว่า 40% และตลาดรถหรูนั้นลดลงไป 32% แต่ทว่ายอดขายของอาวดี้นั้นเติบโตขึ้น 11%
ปัจจัยสำคัญมาจากการที่อาวดี้ ไม่หยุดในช่วงโควิด พร้อมกับการให้บริการอย่างต่อเนื่อง โดยยึดหลักใช้การบริการหลังการขายนำหน้าการขาย ประกอบกับการมีรถยนต์รุ่นใหม่เปิดตัวอย่างต่อเนื่อง จึงสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้ามากขึ้น ทั้งจากลูกค้าเก่ากลับมาซื้อซ้ำ และลูกค้าแนะนำเพื่อนให้มาซื้อ
“เราขายอะไหล่เพื่อมาขายรถ ทำให้สัดส่วนการขายราว 30-40% มาจากกลุ่มลูกค้าเก่าที่ประทับใจในการบริการหลังการขายและกลับมาซื้อซ้ำในรุ่นอื่นๆ ซึ่งในส่วนของราคาอะไหล่นั้นอาวดี้ถูกกว่าคู่แข่ง และมีการรับประกันที่ยาวนานกว่าคือ 5 ปี หรือ 150,000 กม. โดยรับประกันทุกชิ้นส่วนตามมาตรฐานของอาวดี้ เอจีจริงๆ ส่วนเป้าหมายการขายปีนี้คาดว่าจะทำได้ประมาณ 1,000 คัน เท่าๆ กับปีที่แล้ว” นายกฤษณะกร กล่าว
สำหรับอาวดี้ เอ5 หลังจากที่เปิดตัวเมื่อเร็วๆ นี้มียอดจองสะสมกว่า 300 คัน ส่งผลให้มียอดจองทุกรุ่นค้างส่งมอบกว่า 400 คัน นับว่าเป็นยอดจองสะสมและค้างส่งที่สูงมากที่สุดเป็นประวัติศาสตร์นับตั้งแต่อาวดี้ ประเทศไทยเข้ามาทำตลาดเมื่อ 4 ปีก่อน โดยคาดว่าจะสามารถส่งมอบรถค้างส่งได้ทันภายในสิ้นปีนี้
ด้านนายวัลลภ เฉลิมวงศาเวช กรรมการผู้จัดการ อาวดี้ ประเทศไทย กล่าวว่า ปัจจุบันอาวดี้ มีศูนย์บริการทั้งสิ้น 5 แห่ง ได้แก่ ในกรุงเทพฯ 2 แห่งที่ ถนนเพชรบุรีและถนนประดิษฐ์มนูธรรม ในต่างจังหวัด 3 แห่ง ได้แก่ พัทยา ภูเก็ต และเชียงใหม่ ซึ่งจะมีการเปิดเพิ่มอีก 2 แห่ง คือ สาขาถนนราชพฤษ์ และสาขาอุดรธานี
“ปัจจุบันรถยนต์อาวดี้มีจำนวนประมาณ 4,000 คันในประเทศไทย ดังนั้นเพื่อให้การบริการที่เพียงพอกับลูกค้า จึงทำให้เราเริ่มขยายศูนย์บริการให้มากขึ้นและคลอบคลุมพื้นที่สำคัญต่างๆ ทั่วประเทศ ซึ่งปีนี้คาดว่าจะมีปริมาณงานบริการหลังการขายถึง 8,700 ครั้ง และยอดขายอะไหล่ 130 ล้านบาท”
สิ่งสำคัญที่อาวดี้ ประเทศไทยย้ำมาตลอดคือ ความโปร่งใสในการคิดค่าบริการ โดยอัตราค่าแรงเท่ากันทุกที่ 960 บาท/ชั่วโมง และราคาอะไหล่ที่ชัดเจนขึ้นกับความเร่งด่วนตามความต้องการของลูกค้า ซึ่งรับซ่อมรถอาวดี้ทุกคัน ไม่ว่าจะเก่าแค่ไหน ยกเว้นรถที่นำเข้าหลังปี 2018ผ่านผู้นำเข้าอิสระ ที่จะไม่รับซ่อมและไม่ขายอะไหล่ให้ในทุกกรณี