เอ็ม เอ เอ็น (MAN) เดินหน้ารุกตลาดไทยเต็มตัว ดึงสิทธิ์คืนทำตลาดเอง ชูจุดเด่นคุ้มค่าด้วยรถบรรทุกนำเข้าจากเยอรมันเคาะราคาเริ่มต้น 4.2 ล้านบาท ตั้งเป้าขายปีหน้า 100-120 คัน ระบุตลาดไทยมีศักยภาพยังเติบโตได้ เตรียมปั้นเป็นฐานขยายตลาดคุมเอเชียแปซิฟิค
นายจักรพงษ์ ศานติรัตน์ ผู้อำนวยการ เอ็ม เอ เอ็น ทรัค แอนด์ บัส ประเทศไทย เปิดเผยว่า เอ็ม เอ เอ็น () ได้ขยายกิจการด้วยการดึงสิทธิ์ในการทำตลาดกลับมาทำเอง หลังจากที่ปล่อยให้ตัวแทนนำเข้ามาจำหน่ายตั้งแต่ปี 1995 โดยจะนำรถเข้ามาทำตลาดจากประเทศเยอรมันทั้งหมด
สำหรับรถที่จะนำเข้ามาจำหน่ายนั้นจะมีทั้งหมด 3 รุ่นย่อย ได้แก่รุ่น TGS 6x4 360 แรงม้า, TGS 6x4 400 แรงม้า และ TGS 6x4 440 แรงม้า โดยมีจุดเด่นคือราคาเริ่มต้นเพียง 4.2 ล้านบาท และสามารถเลือกออปชันได้ตามต้องการ พร้อมเกียร์อัตโนมัติแบบ Tipmatic เดินหน้า 12 เกียร์ ถอยหลัง 2 เกียร์
“คุ้มค่าในระยะยาวคือ ความโดดเด่นของเอ็มเอเอ็น ทั้งการใช้งานที่เสียยาก อะไหล่ที่พร้อม ทำให้วิ่ง ตั้งเป้าการจำหน่ายของปีหน้าไว้ที่ 100-120 คัน โดยจะเริ่มลงตลาดในราวเดือนกันยายนนี้ ทุกคันจะนำเข้าจากเยอรมัน และมีแผนจะตั้งให้ประเทศไทยเป็นฐานในการขยายตลาดคุมพื้นที่เอเชียแปซิฟิคทั้งหมด” นายจักรพงษ์กล่าว
ทั้งนี้ ตลาดรถบรรทุกในประเทศไทยนั้นมีอยู่ประมาณ 16,000-18,000 คันต่อปี โดยแบ่งเป็นรถญี่ปุ่น 95% และเป็นรถยุโรปราว 5% ซึ่งปีที่แล้วมียอดขายประมาณ 632 คัน ขณะที่ในปีนี้ตลาดได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ทำให้ประเมินได้ยาก
นายจักรพงษ์ กล่าวว่า ปีหน้าคาดว่าตลาดจะฟื้นกลับมาสู่ภาวะปกติ เนื่องจากการขนส่งยังคงเป็นปัจจัยสำคัญในการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ และเอ็ม เอ เอ็นจะมียอดขายเติบโตขึ้นจากปัจจัยการขยายดีลเลอร์, การเปิดตัวรถใหม่ และการมีอะไหล่ที่เพียบพร้อม
“ภายในห้าปีข้างหน้าจะมีการขยายดีลเลอร์เป็น 10 แห่ง จากปัจจุบันที่เริ่มต้นด้วยแห่งแรกในกรุงเทพฯ รวมถึงการปรับมาตรฐานไอเสียใหม่ของภาครัฐจะทำให้ เอ็ม เอ เอ็น มีความโดดเด่นมากขึ้น ส่วนรถบรรทุกไฟฟ้า ปัจจุบันมีทำตลาดในยุโรป และในแผนระยะกลางจะมาทำตลาดในไทยด้วยอย่างแน่นอน” ในห้าปีข้างหน้าจะมีการขยายดีลเลอร์เป็น 10 แห่ง จากปัจจุบันที่เริ่มต้นด้วยแห่งแรกในกรุงเทพฯ รวมถึงการปรับมาตรฐานไอเสียใหม่ของภาครัฐจะทำให้ เอ็ม เอ เอ็น มีความโดดเด่นมากขึ้น ส่วนรถบรรทุกไฟฟ้า ปัจจุบันมีทำตลาดในยุโรป และในแผนระยะกลางจะมาทำตลาดในไทยด้วยอย่างแน่นอน”
นายจักรพงษ์ ศานติรัตน์ ผู้อำนวยการ เอ็ม เอ เอ็น ทรัค แอนด์ บัส ประเทศไทย เปิดเผยว่า เอ็ม เอ เอ็น () ได้ขยายกิจการด้วยการดึงสิทธิ์ในการทำตลาดกลับมาทำเอง หลังจากที่ปล่อยให้ตัวแทนนำเข้ามาจำหน่ายตั้งแต่ปี 1995 โดยจะนำรถเข้ามาทำตลาดจากประเทศเยอรมันทั้งหมด
สำหรับรถที่จะนำเข้ามาจำหน่ายนั้นจะมีทั้งหมด 3 รุ่นย่อย ได้แก่รุ่น TGS 6x4 360 แรงม้า, TGS 6x4 400 แรงม้า และ TGS 6x4 440 แรงม้า โดยมีจุดเด่นคือราคาเริ่มต้นเพียง 4.2 ล้านบาท และสามารถเลือกออปชันได้ตามต้องการ พร้อมเกียร์อัตโนมัติแบบ Tipmatic เดินหน้า 12 เกียร์ ถอยหลัง 2 เกียร์
“คุ้มค่าในระยะยาวคือ ความโดดเด่นของเอ็มเอเอ็น ทั้งการใช้งานที่เสียยาก อะไหล่ที่พร้อม ทำให้วิ่ง ตั้งเป้าการจำหน่ายของปีหน้าไว้ที่ 100-120 คัน โดยจะเริ่มลงตลาดในราวเดือนกันยายนนี้ ทุกคันจะนำเข้าจากเยอรมัน และมีแผนจะตั้งให้ประเทศไทยเป็นฐานในการขยายตลาดคุมพื้นที่เอเชียแปซิฟิคทั้งหมด” นายจักรพงษ์กล่าว
ทั้งนี้ ตลาดรถบรรทุกในประเทศไทยนั้นมีอยู่ประมาณ 16,000-18,000 คันต่อปี โดยแบ่งเป็นรถญี่ปุ่น 95% และเป็นรถยุโรปราว 5% ซึ่งปีที่แล้วมียอดขายประมาณ 632 คัน ขณะที่ในปีนี้ตลาดได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ทำให้ประเมินได้ยาก
นายจักรพงษ์ กล่าวว่า ปีหน้าคาดว่าตลาดจะฟื้นกลับมาสู่ภาวะปกติ เนื่องจากการขนส่งยังคงเป็นปัจจัยสำคัญในการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ และเอ็ม เอ เอ็นจะมียอดขายเติบโตขึ้นจากปัจจัยการขยายดีลเลอร์, การเปิดตัวรถใหม่ และการมีอะไหล่ที่เพียบพร้อม
“ภายในห้าปีข้างหน้าจะมีการขยายดีลเลอร์เป็น 10 แห่ง จากปัจจุบันที่เริ่มต้นด้วยแห่งแรกในกรุงเทพฯ รวมถึงการปรับมาตรฐานไอเสียใหม่ของภาครัฐจะทำให้ เอ็ม เอ เอ็น มีความโดดเด่นมากขึ้น ส่วนรถบรรทุกไฟฟ้า ปัจจุบันมีทำตลาดในยุโรป และในแผนระยะกลางจะมาทำตลาดในไทยด้วยอย่างแน่นอน” ในห้าปีข้างหน้าจะมีการขยายดีลเลอร์เป็น 10 แห่ง จากปัจจุบันที่เริ่มต้นด้วยแห่งแรกในกรุงเทพฯ รวมถึงการปรับมาตรฐานไอเสียใหม่ของภาครัฐจะทำให้ เอ็ม เอ เอ็น มีความโดดเด่นมากขึ้น ส่วนรถบรรทุกไฟฟ้า ปัจจุบันมีทำตลาดในยุโรป และในแผนระยะกลางจะมาทำตลาดในไทยด้วยอย่างแน่นอน”