xs
xsm
sm
md
lg

โตโยต้า ชี้ตลาดรถเริ่มฟื้นตัว ปรับเป้าขายใหม่ คาดตลาดรวมปีนี้ 660,000 คัน

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



โตโยต้า แถลงยอดขายผ่านครึ่งปีตลาดรถยนต์ขายได้ 328,604 คัน หดตัว 37.3% ชี้ตลาดเริ่มฟื้นตัวแล้ว คาดทั้งปี 660,000 คัน ลดลง 34.5% พร้อมปรับเป้าขายใหม่ของโตโยต้าเป็น 220,000 คัน แชร์ 33.3% ระบุผ่านวิกฤตโดยไม่มีเลิกจ้าง ขอบคุณทุกคนที่ร่วมมือกัน


มิจิโนบุ ซึงาตะ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด กล่าวว่าในช่วงต้นปีที่ผ่านมา มีการคาดการณ์ตลาดรถยนต์รวมในประเทศปี 2563 อยู่ที่ 940,000 คัน และตั้งเป้าหมายการขายรถยนต์โตโยต้าไว้ที่ 310,000 คัน แต่ทว่านับตั้งแต่กลางเดือนมีนาคมเป็นต้นมา การระบาดของไวรัสโควิด-19 ทำให้ความต้องการของตลาดลดลงอย่างฉับพลัน ทั้งตลาดรถยนต์ในประเทศและตลาดการส่งออก ส่งผลต่อการดำเนินธุรกิจของประเทศไทยดยรวม มีความแตกต่างออกไปจากแผนที่เราคาดการณ์ไว้โดยสิ้นเชิง ซึ่งไตรมาสที่ 1 ตัวเลขยอดขายตลาดรวมอยู่ที่ประมาณ 200,000 คัน ลดลง24% เมื่อเทียบในช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา โดยโตโยต้ามียอดขายอยู่ที่ 56,200 คัน คิดเป็น 65% ของยอดขายในช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว




“หลังผ่านสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 และการหยุดสายการผลิตเป็นการชั่วคราวนั้น ตลาดรถยนต์ของไทยช่วงไตรมาสที่ 2 มียอดขายประมาณ 128,500 คัน ลดลง 51% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา โดยโตโยต้ามียอดขายอยู่ที่ 38,100 คัน ลดลง55% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ในทางกลับกันหากเราพิจารณาถึงยอดจำหน่ายรายเดือนของช่วงไตรมาสที่ 2 จะเห็นได้ว่าตลาดกำลังอยู่ในช่วงค่อยๆฟื้นตัว อันเป็นผลจากการที่รัฐบาลได้ทยอยออกมาตรการผ่อนคลายต่างๆ ส่งผลให้ผู้บริโภคเริ่มกลับมามีความเชื่อมั่นมากยิ่งขึ้น” ซึงาตะกล่าว


ขณะที่ยอดขายรถยนต์รวม 6 เดือนแรกของปีมีจำนวนทั้งสิ้น328,604 คัน ลดลง 37.3% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว ในส่วนของโตโยต้ามียอดขาย 94,222 คัน ลดลง 45.1% ส่วนแบ่งตลาด 28.7% ส่วนตัวเลขคาดการณ์ยอดขายรถยนต์ในปี 2563 ประเมินไว้ที่ 660,000 คัน ลดลง 34.5% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา




ซึงาตะ กล่าวเพิ่มเติมว่า จากการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่หลากหลายรุ่นในปีนี้ ส่งผลให้โตโยต้าปรับเป้าหมายยอดขายในปี 2563 ใหม่เป็น 220,000 คัน ลดลง 33.8% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา ส่วนแบ่งทางการตลาด33.3% หากในอนาคตตลาดมีแนวโน้มในเชิงบวกมากขึ้น โตโยต้าพร้อมปรับเป้าหมายให้เพิ่มสูงขึ้นตาม



อนึ่ง โตโยต้ามีการประกาศหยุดสายการผลิตชั่วคราวตั้งแต่วันที่ 7 เมษายน จนถึงช่วงกลางเดือนพฤษภาคม โดยพนักงานยังคงทำงานอย่างต่อเนื่อง และได้ใช้ช่วงเวลาดังกล่าว ซ่อมบำรุงเครื่องจักรและเครื่องไม้เครื่องมือต่างๆ รวมถึงพัฒนาทักษะและความสามารถของพนักงาน ช่วยให้โตโยต้าสามารถรักษาสถานะการจ้างงานของพนักงานทุกคนโดยไม่มีการเลิกจ้างแต่อย่างใด



ทั้งนี้ ผู้แทนจำหน่ายโตโยต้าทั้ง 155 แห่งทั่วประเทศ พยายามรักษาสถานะการจ้างงานของพนักงานทุกคน โดยพนักงานขายและพนักงานที่ทำหน้าที่ดูแลหลังการขายได้ใช้ช่องทางออนไลน์ในการติดต่อลูกค้า พร้อมเชิญลูกค้านำรถยนต์เข้ามาซ่อมบำรุงที่ศูนย์บริการหรือจัดให้มีบริการซ่อมบำรุงแบบเคลื่อนที่ เพื่อเป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการดูแลรักษารถยนต์ท่ามกลางสถานการณ์การแพร่ระบาด




“ผมรู้สึกปลาบปลื้มที่ได้เห็นพนักงานในโรงงานของเรามีความสุขที่ได้กลับมาทำงานอีกครั้ง โดยปัจจุบันการผลิตกลับสู่ภาวะปกติ และตั้งใจที่จะเพิ่มยอดการผลิตให้สูงขึ้นนับตั้งแต่เดือนนี้เป็นต้นไป โดยยังคงเน้นย้ำในการดูแลสุขอนามัยและความปลอดภัยขั้นสูงสุดให้กับพนักงานของเราทุกคน พร้อมรักษาระดับความเข้มงวดของการใช้มาตรการการป้องกันโรค ตามแนวทางของรัฐบาลอย่างเคร่งครัด ผมขอถือโอกาสนี้ขอบคุณทั้งพนักงานและตัวแทนจำหน่ายทุกคนจากใจจริงด้วยครับ” ซึงาตะ กล่าว



อย่างไรก็ตาม ในส่วนของภาคธุรกิจยานยนต์ของประเทศไทยนั้น ผลกระทบที่ได้รับถือว่าไม่รุนแรงเท่ากับประเทศอื่นๆ ในภูมิภาคอาเซียน และการฟื้นตัวของประเทศไทยรวดเร็วกว่า ดังนั้นแนวโน้มของตลาดรถยนต์ไทยน่าจะไปในทิศทางที่ดี ไม่แย่เท่ากับที่เคยคาดการณ์ไว้ แนวโน้มเชิงบวกเริ่มเห็นได้จากยอดจำหน่ายรายเดือนที่กำลังเพิ่มขึ้น ประกอบกับความสำเร็จในการจัดงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 41 ซึ่งในขณะนี้มีผู้สนใจเข้าเยี่ยมชมงานเป็นจำนวนมาก


ซึงาตะ กล่าวเพิ่มเติมว่า “สำหรับโตโยต้าในช่วงครึ่งปีแรกนั้น เราได้ปรับแผนการดำเนินงานทั้งในส่วนของการผลิตและการขายเพื่อให้มั่นใจได้ว่ารถยนต์รุ่นใหม่ ๆของเราสามารถแนะนำออกสู่ตลาดได้ในช่วงเวลาที่เหมาะสม ดังนั้นในช่วงครึ่งปีหลังจากนี้ เราจะเร่งเดินหน้าทำการตลาดอย่างเต็มที่โดยมีผลิตภัณฑ์รุ่นใหม่ ๆ ของเราเป็นตัวขับเคลื่อน ซึ่งเมื่อเดือนที่ผ่านมาเราได้เปิดตัวรถยนต์ไฮลักซ์ รีโว่ใหม่ และฟอร์จูนเนอร์ใหม่ ภายใต้แนวคิด "Unbeatable"หรือ “พลังแกร่งเหนือนิยาม” เพื่อสะท้อนภาพลักษณ์อันแข็งแกร่งของประเทศไทยและคนไทยดังที่พิสูจน์ได้จากความสามารถในการควบคุมสถานการณ์การระบาดของโรคได้โดยผลิตภัณฑ์ใหม่ของเราทั้ง 2 รุ่นนี้ได้รับการชื่นชมในเชิงบวกจากลูกค้าซึ่งเราหวังว่าการเดินหน้าเพิ่มกำลังการผลิตจะเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ช่วยกระตุ้นยอดขายให้สูงขึ้นไปอีก

“โคโรลล่า ครอส”  กำลังมาแรง ได้รับความนิยมมาก
นอกจากนี้ เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา เราได้ทำการเปิดตัวรถยนต์อเนกประสงค์รุ่นใหม่ล่าสุด“โคโรลล่า ครอส” ออกสู่ตลาดเป็นครั้งแรกภายใต้สโลแกน "A New Journey" หรือ “ให้ชีวิตเดินทาง”โดยรถยนต์รุ่นนี้ถือเป็นปรากฏการณ์ใหม่ของเราในฐานะที่เป็นรถยนต์ในเซกเมนต์ที่โตโยต้าไม่เคยทำตลาดมาก่อน พร้อมกันนี้ ผมขอแจ้งให้ทราบเพิ่มเติมว่าเราได้ติดตั้งแอพพลิเคชั่น T-Connect ในรถยนต์รุ่นใหม่ทั้งสามรุ่นดังกล่าวโดยนี่ถือเป็น “ระบบการเชื่อมต่ออัจฉริยะ” โครงการแรกของโตโยต้าในเอเชียซึ่งเกิดจากการพัฒนาร่วมกันระหว่าง บริษัท โตโยต้าและกลุ่มผู้ผลิตชิ้นส่วนโตโยต้าภายในประเทศไทย ทั้งนี้ เทคโนโลยี T-Connectมอบฟังก์ชั่นการใช้งานที่หลากหลายไม่ว่าจะเป็นระบบติดตามเมื่อเกิดการโจรกรรม การค้นหาตำแหน่งรถและบริการผู้ช่วยส่วนตัว

รถยนต์ไฮลักซ์ รีโว่ใหม่


ซึงาตะ กล่าวว่า สำหรับการส่งออกในครึ่งปีแรกของปี 2563 ของโตโยต้าส่งออกรถยนต์สำเร็จรูปจำนวนทั้งสิ้น 97,000 คัน ลดลง 30% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา อย่างไรก็ดี มีสัญญาณเชิงบวกจากในภูมิภาคโอเชียเนียและบางประเทศในทวีปเอเชีย ด้วยเหตุนี้ โตโยต้าจึงปรับการคาดการณ์การส่งออกรถยนต์สำเร็จรูปสำหรับปีนี้ทั้งปี อยู่ที่ 194,000 คัน ลดลง 27% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว



ในส่วนของการผลิตรถยนต์รวมของโตโยต้า เป็นไปตามสภาวะของตลาดรถยนต์ทั้งในประเทศและต่างประเทศซึ่งมีแนวโน้มเติบโตขึ้นเหนือกว่าที่ได้คาดการณ์ไว้ ดังนั้น จำนวนการผลิตรถยนต์ของโตโยต้าในปี 2563 จะอยู่ในระดับที่ 408,000 คัน ลดลง 29% เมื่อเทียบกับยอดการผลิตของปีที่ผ่านมา

Q1ยอดขายตลาดรวมลดลงอยู่ที่ประมาณ 200,000 คัน  โดยโตโยต้ามียอดขายอยู่ที่  56,200 คัน
“จากที่ได้กล่าวมาทั้งหมดนี้ ผมขอขอบคุณทุกท่านจากใจจริงอีกครั้ง ไม่ว่าจะเป็นทั้งรัฐบาลไทย ลูกค้าคนสำคัญของเรา ตลอดจนภาคส่วนต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง สำหรับการสนับสนุนที่ท่านได้กรุณามอบให้กับพวกเราชาวโตโยต้าในประเทศไทยมาโดยตลอด แม้ในช่วงเวลาอันยากลำบากเช่นนี้ก็ตาม ” ซึงาตะกล่าวปิดท้าย

Q 2 ตลาดรถยนต์ลดลง ไปที่ประมาณ 128,500 คัน  โดยโตโยต้ามียอดขายอยู่ที่ 38,100 คัน

หลังจากที่รัฐบาลได้ทยอยออกมาตรการผ่อนคลายต่าง ๆ  ส่งผลให้ผู้บริโภคเริ่มกลับมามีความเชื่อมั่นมากยิ่งขึ้น

โตโยต้า ได้ติดตั้งแอพพลิเคชั่น T-Connect ในรถยนต์รุ่นใหม่



กำลังโหลดความคิดเห็น