xs
xsm
sm
md
lg

ทำความรู้จัก เทคโนโลยีอัจฉริยะ ในรถยนต์

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ระบบการเชื่อมต่อในรถยนต์กลายเป็นออปชันใหม่ที่ขาดไม่ได้แล้วสำหรับยุคนี้ โดยเฉพาะเมื่อคนรุ่นใหม่ต่างโหยหาเทคโนโลยีดิจิทัลที่จะทำให้พวกเขามีชีวิตที่สะดวกสบายทุกที่ทุกเวลา ไม่เว้นแม้แต่บนท้องถนน หรือแม้แต่คนรุ่นพ่อรุ่นแม่เองก็มีความต้องการความช่วยเหลือจากเทคโนโลยีเหล่านี้เช่นกัน ดังนั้นในบรรดารถรุ่นใหม่ที่ค่ายรถยนต์นำมาเสนอกันในวันนี้ จึงขาดไม่ได้เลยที่จะใส่เทคโนโลยีใหม่เหล่านี้ ซึ่งแต่ละแบรนด์ก็จะเน้นให้ความสำคัญในรูปแบบที่แตกต่างกัน








SYNC™ 3 อ่านข้อความผ่านลำโพงรถยนต์

SYNC™ จากฟอร์ด นับเป็นแบรนด์แรกๆ ที่นำเสนอเทคโนโลยีสุดล้ำให้ได้สัมผัสกันแบบไม่ต้องจ่ายแพงตั้งแต่ประมาณ 10 ปีที่แล้ว SYNC™ เจนเนอเรชันล่าสุดนี้ ไม่เพียงแต่ช่วยในการโทรออก ฟังเพลง ผ่านการสั่งงานด้วยเสียง เพื่อที่จะไม่ต้องละสายตาจากถนนเท่านั้น แต่ยังรองรับ Apple CarPlay ทำให้สาวกแอปเปิลสามารถใช้ Siri® เพื่อโต้ตอบกับ iPhone® ทั้งโทรศัพท์และฟังข้อความเสียง รวมถึง Android Auto เพื่อใช้งานฟังก์ชันแอนดรอยด์ต่างๆ ร่วมกับสมาร์ทโฟนในระบบแอนดรอยด์


นอกจากนี้ SYNC™ 3 สามารถอัปเดตซอฟต์แวร์ใหม่ได้อัตโนมัติผ่านการเชื่อมต่อ Wi-Fi และสามารถอ่านข้อความผ่านลำโพงรถยนต์ เพื่อผู้ขับขี่จะได้ไม่ต้องละสายตาไปจากถนน แถมยังสามารถอ่านอิโมติคอนและคำย่อต่างๆ ที่ใช้กันบ่อยๆ ได้อีกด้วย นอกจากนี้ด้วยการใช้งานผ่าน Ford AppLink™ ผู้ใช้ก็จะสามารถเปิดใช้งานแอปพลิเคชันที่อยู่ในมือถือ ผ่านการควบคุมด้วยเสียง


เด็ดสุดของ SYNC™ 3 คือระบบช่วยโทรฉุกเฉิน เมื่อเกิดอุบัติเหตุจนถุงลมนิรภัยทำงานหรือหัวจ่ายน้ำมันตัดการทำงาน ระบบนี้จะโทรไปที่เบอร์ 1669 (หน่วยแพทย์ฉุกเฉิน) ทั่วประเทศโดยอัตโนมัติ พร้อมแจ้งพิกัดของรถ และเปิดสายให้หน่วยแพทย์ฉุกเฉินได้คุยกัยผู้ประสบเหตุ








i – SMART ระบบเชื่อมต่อไฮเทคมาทีหลังแต่จัดเต็มกว่า



เอ็มจีไม่เพียงแต่นำเสนอรถยนต์ราคาไม่แพง แต่ยังใส่ฟีเจอร์เด่นอย่าง i – SMART มาเพิ่มความคุ้มค่าให้กับตัวรถอีกด้วย ซึ่งฟีเจอร์ที่ว่านี้เพียงแค่พูด “ฮัลโหล เอ็มจี” (Hello MG) เพื่อเริ่มต้นใช้งานก็สามารถสั่งการฟังก์ชันต่างๆ ในตัวรถ ทั้งระบบเอ็นเตอร์เทนเมนต์และระบบช่วยนำทาง แถมยังมี i – CALL ที่ใช้ในการติดต่อคอลเซ็นเตอร์เพื่อสอบถามข้อมูล และช่วยให้ผู้ใช้สามารถวางแผนการเดินทางจากสมาร์ตโฟน แล้วส่งเข้าหน้าจอทัชสกรีนของรถได้ทันที



SMART CHECK ฟีเจอร์ที่ช่วยให้สามารถตรวจสอบรถเองได้ง่ายๆ ด้วยระบบสั่งการรถผ่านสมาร์ตโฟน เพื่อตรวจสอบระบบตรวจสอบความผิดปกติและแจ้งสถานะการทำงานของรถ เช่น เครื่องยนต์ ลมยาง ระบบเบรก ถุงลมนิรภัยและการล็อกประตู และสามารถหารถได้อย่างง่ายดายด้วย FIND MY CAR ที่กำหนดได้ว่าจะให้รถเปิดไฟหน้า ไฟท้าย หรือใช้เสียงแตร เพื่อตรวจสอบตำแหน่งของรถพร้อมบอกเส้นทางเดินไปหารถยนต์ นอกจากนี้ ยังมีระบบแจ้งเตือนเมื่อความผิดปกติเกิดขึ้นกับระบบการทำงาน หรืออุปกรณ์ของรถ พร้อมด้วย ELECTRONIC FENCE กำหนดขอบเขตการใช้รถได้ตั้งแต่ 500 เมตร ถึง 10 กิโลเมตร โดยระบบจะแจ้งเตือน เมื่อรถเข้าออกในขอบเขตที่กำหนดไว้





MBUX แพรวพราวหรูหราสมราคาเมอร์เซเดส-เบนซ์



เมอร์เซเดส-เบนซ์ นำเสนอ Mercedes-Benz User Experience หรือ MBUX พัฒนาขึ้นเพื่อให้ใช้งานได้ง่ายสามารถจดจำลักษณะการใช้งานของผู้เป็นเจ้าของได้ ทำงานผ่านการสั่งการด้วยเสียงที่สามารถตรวจจับการสั่งการด้วยภาษาพูดอย่างเป็นธรรมชาติ ทำให้ระบบเข้าใจภาษาอังกฤษในหลายสำเนียงได้ เพียงแค่พูดคำว่า ‘Hey, Mercedes’


MBUX มาพร้อมระบบนำทางแบบใหม่ที่มี GPS แม่นยำยิ่งขึ้น แผนที่แสดงผลแบบสามมิติด้วยกราฟิกความละเอียดสูง ทำงานร่วมกับระบบ AR ในการนำทางโดยผู้ใช้สามารถหาจุดหมายที่ต้องการได้ นอกจากนั้นยังสามารถรายงานสภาพถนนและสถานะของร้านค้าต่างๆ ได้แบบเรียลไทม์ รวมถึงฟังก์ชันที่สามารถเปิดเครื่องปรับอากาศทำความเย็นล่วงหน้า หรือการสั่งเปิดสั่งล็อกประตูรถจากระยะไกล ผ่านโทรศัพท์มือถือ



Personal profiles ตัวช่วยการจดจำข้อมูลของผู้ขับขี่แต่ละคนไว้ ทั้งลักษณะของการปรับเบาะ ที่นั่ง สีไฟในห้องโดยสารที่ชอบ สถานที่ที่ไปเป็นประจำ โดยระบบนี้สามารถจดจำข้อมูลของผู้ขับขี่ได้ถึง 22 โปรไฟล์ โดย MBUX จะทำงานร่วมกับบริการ Mercedes me connect ทำให้การเชื่อมต่อระหว่าง ลูกค้า รถยนต์และผู้จำหน่ายอย่างเป็นทางการ รวมถึงการบริการอื่นๆ ของเมอร์เซเดส-เบนซ์เป็นไปอย่างสะดวกและง่ายดายมากขึ้น รวมถึงในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุรถชนระบบจะทำงานโดยอัตโนมัติด้วยการส่งตำแหน่งของรถยนต์ให้กับศูนย์ช่วยเหลือทันที





MZD Connect ฟีเจอร์ใหม่เพิ่มสุนทรีย์ในการขับขี่



MZD Connect จากมาสด้า ระบบที่จะทำให้ผู้ใช้สามารถรวบรวมความบันเทิงและการสื่อสารไว้ที่เดียว เพื่อความสะดวกง่ายดาย สามารถเชื่อมต่อบนโลกออนไลน์ และเพลิดเพลินไปกับไลฟ์สไตล์ดิจิตอลได้ตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็น Facebook หรือ Twitter รองรับการใช้โทรศัพท์แบบไร้สายและ Internet Radio ระบบนี้จะช่วยทำให้ผู้ขับขี่เพลิดเพลินกับข้อมูลและความบันเทิง และระบบนำทางที่จะ update อยู่เสมอ นอกจากนี้ยังสามารถใช้งานในหลายฟังก์ชันด้วยการสั่งงานด้วยเสียง แต่จะสื่อสารได้ด้วยการใช้ภาษาอังกฤษเท่านั้น


สำหรับการเข้าใช้งานแผนที่ข้อมูลการจราจรจะมีการอัปเดตทุก 1 ปี และยังเลือกได้ว่าจะให้แสดงในมุมมองแบบ 2 มิติ และ 3 มิติ มีการแสดงผลอัตราความเร็วของรถยนต์ การแจ้งเตือนช่องทางออกที่ใกล้ถึงและการแนะนำช่องทางเดินรถที่เหมาะสม นอกจากนี้ยังค้นหาสถานีน้ำมันเชื้อเพลิง การเตือนของการจราจรติดขัดที่กำลังจะเกิดขึ้น การสรุปพยากรณ์อากาศ และค้นหาข้อมูลของสถานที่จากจุดสนใจจากในตำแหน่งที่อยู่และที่กำลังจะไป




Nissan Connect ฟีเจอร์เสริมความไฮเทคของรถ

Nissan Connect ระบบที่รวมทั้งการสื่อสาร ระบบนำทางและระบบเสียงเข้าไว้ด้วยกัน ผ่านการเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพให้กับประสบการณ์การขับขี่ของผู้ใช้งาน ลดสิ่งรบกวนสมาธิ รองรับการใช้งานโซเชียลเน็ตเวิร์กอย่าง Facebook เพื่อแชร์สถานะความรู้สึก รวมไปถึงยังสามารถค้นหาสถานที่ต้องการต่างๆ แบบเรียลไทม์ผ่านทาง Google Search รวมถึงช่วยเพิ่มความสามารถให้กับระบบนำทางอัจฉริยะที่พร้อมแสดงเส้นทางสำคัญและจุดหมายปลายทางได้อย่างแม่นยำ ด้วยการประมวลผลผ่านระบบ GPS

ด้วยหน้าจออัจฉริยะแบบสามมิติขนาดใหญ่ที่มีอยู่บนรถนิสสัน เมื่อได้เชื่อมต่อกับ Nissan Connect แล้วจะทำให้เกิดฟีเจอร์ด้านการแสดงผลที่หลากหลายตั้งแต่ ระบบนำทางที่จะคอยแจ้งเตือนสถานะและเส้นทางต่างๆ แบบเรียลไทม์





T-Connect ระบบเพิ่มความปลอดภัยให้ผู้ใช้อุ่นใจไร้กังวล




โตโยต้านำเสนอแอปพลิเคชันที่ช่วยยกระดับความปลอดภัยให้กับลูกค้า ด้วยเทคโนโลยีที่เช็คพิกัดรถได้ทุกเมื่อ เพิ่มความอุ่นใจด้วยระบบแจ้งเตือนอัตโนมัติ พร้อมประสานงานส่งความช่วยเหลือฉุกเฉินไปถึงที่ โดยสามารถเช็คตำแหน่งรถแบบเรียลไทม์ได้ทุกเวลา หมดปัญหาจำที่จอดไม่ได้หรือหารถไม่เจอ รวมทั้งยังตรวจสอบตำแหน่งรถยนต์เมื่อถูกโจรกรรม พร้อมประสานงานความช่วยเหลือตลอด 24 ชั่วโมง รวมไปถึงฟีเจอร์อย่าง Geo-Fencing ที่จะแจ้งเตือนเมื่อรถเคลื่อนออกจากจุดจอดหรือขอบเขตที่ผู้ใช้กำหนดไว้

นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์ช่วยดูแลรถได้ง่ายๆ รู้ได้ทั้งสถานะรถ ข้อมูลการใช้รถและประกันภัย รวมถึงความเสื่อมของอะไหล่ล่วงหน้า พร้อมนัดหมายและแจ้งเตือนเมื่อถึงเวลาเข้ารับบริการ ให้เจ้าของรถสามารถจัดการค่าใช้จ่ายได้อย่างมีประสิทธิภาพ แจ้งเตือนเมื่อถึงเวลาเข้าศูนย์บริการ หรือครบกำหนดเปลี่ยนอะไหล่พร้อมประสานงานนัดหมาย นอกจากนี้ยังมี VEHICLE INFORMATION ที่ช่วยแสดงสถานะรถยนต์ ข้อมูลการขับขี่ สรุปทริปการเดินทางที่แชร์ลงในโซเชียลมีเดียได้ พร้อมแจ้งเตือนล่วงหน้าเมื่อใกล้ถึงเวลาต่อทะเบียน





Honda CONNECT มีหลายสิ่งที่ดีแต่ต้องติดเพิ่ม


Honda CONNECT ช่วยให้ผู้ใช้และรถยนต์สามารถเชื่อมต่อกันได้ผ่านปลายนิ้วสัมผัส มั่นใจมากขึ้นตลอดทุกการเดินทางผ่านการทำงานของแอปพลิเคชันบนมือถือสมาร์ตโฟน สามารถตรวจสอบสถานะความพร้อมของรถยนต์ ตำแหน่งรถยนต์ ข้อมูลลักษณะการขับขี่ได้แบบเรียลไทม์ และยังเป็นผู้ช่วยคนสำคัญ ในกรณีเหตุฉุกเฉินต่างๆ แต่ทั้งนี้หากจะใช้งานเจ้าของรถจะต้องเข้าไปติดติดตั้งกล่อง TCU (Telematics Control Unit) เข้ากับตัวรถที่ศูนย์บริการฮอนด้าก่อนที่จะนำมาเชื่อมต่อข้อมูลรถและการขับขี่ผ่านแอปพลิเคชัน

Telematic จะช่วยให้ผู้ขับรถยนต์เรียนรู้พฤติกรรมและปรับปรุงพฤติกรรมการขับรถให้ดีขึ้น ใช้รถได้ปลอดภัยมากยิ่งขึ้นด้วยเทคโนโลยีที่เกิดจากการสื่อสารผ่านอินเตอร์เน็ต ระหว่างรถยนต์และศูนย์บริการข้อมูล สามารถบอกตำแหน่งของรถยนต์ได้ แม้รถจะถูกโจรกรรมหรือมีการขับขี่ออกนอกเส้นทาง พร้อมทั้งยังเก็บข้อมูลการใช้เดินทางและพฤติกรรมการขับขี่ เช่น ความเร็วที่ใช้ ระยะทางที่เดินทาง หรือลักษณะการขับขี่ แล้วนำมาวิเคราะห์ เพื่อเสนอแนวทางในการการขับขี่ที่ดีขึ้นและปลอดภัยมากขึ้น



IPA จากบีเอ็มดับเบิลยูความพร้อมครั้งใหม่ที่พัฒนาให้ดีขึ้น

บีเอ็มดับเบิลยูนำเสนอ BMW Intelligent Personal Assistant (IPA) ที่ผู้ใช้รถ สามารถสั่งงานผ่านคำสั่งเสียง โดยการเรียก ‘Hey BMW’ การทำงานของระบบนี้สามารถเรียกใช้งานเมื่อไหร่ก็ได้ ผ่านการเรียก ‘Hey BMW’ โดยไม่ต้องกดปุ่มใดๆ ทั้งสิ้น ผู้ใช้งานยังสามารถตั้งชื่อและสามารถเรียกชื่อรถยนต์ BMW ตามที่ตั้ง ซึ่ง BMW IPA ยังจะเรียนรู้พฤติกรรมของเราไปด้วยในตัว

ระบบ IPA นี้จะควบคู่ไปกับ My BMW ConnectedDrive ซึ่งหลังจากที่เจ้าของรถลงทะเบียน และเพิ่มรถบีเอ็มดับเบิลยูเข้าไปในระบบเรียบร้อยแล้ว ทุกครั้งที่ล็อกอินจะสามารถใช้บริการฟังก์ชันต่างๆ รวมถึงการจัดการข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับตัวเจ้าของรถและรถได้ เช่น การ Activate เพื่อเปิดใช้บริการ Remote Services ซึ่งจะทำให้สามารถควบคุมรถได้จากระยะไกล

เมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน BMW ConnectedDrive ยังมาพร้อมระบบโทรฉุกเฉินอัจฉริยะ และในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุจนทำให้ถุงลมนิรภัยหรือตัวปรับความตึงเข็มขัดนิรภัยทำงาน ระบบโทรฉุกเฉินอัจฉริยะโดยอัตโนมัติทันที โดยไม่จำเป็นต้องมีโทรศัพท์มือถือ ข้อมูลสำคัญทั้งหมด เช่น ตำแหน่งของรถยนต์และความเสี่ยงต่อการบาดเจ็บของผู้โดยสารจะถูกส่งไปยัง BMW Call Center และส่งต่อไปยังหน่วยกู้ภัยฉุกเฉินที่อยู่ใกล้ที่สุดในเวลาเดียวกัน นอกจากนี้ยังมีเลขาส่วนตัวอยู่ข้างกายตลอด 24 ชั่วโมง ทำให้ไม่ต้องวุ่นวายในการหาข้อมูล บริการ Concierge Services

ถึงบรรทัดนี้ ต้องบอกว่า ระบบไฮเทคที่ใส่เสริมเพื่ออำนวยความสะดวกสบายให้กับเจ้าของรถเพิ่มเติมนี้ แม้บางรายจะใส่มาให้ใช้กันนานแล้ว หรือบางรายอาจจะเพิ่งรู้ เพิ่งตื่น เพิ่งเบิกบาน แล้วนำมาใส่ให้ เพราะเริ่มมองเห็นว่าการแข่งขันในตลาดรถยนต์ในปัจจุบัน ลูกค้าไม่ได้ซื้อรถเพียงแค่เป็นยานพาหนะที่จะพาเคลื่อนที่ไปยังจุดหมายเท่านั้น แต่ยังต้องการความสุนทรีย์ การเชื่อมต่อกับสังคม หรืออาจจะตอบสนองในเรื่องของหน้าที่การงาน ที่จำเป็นต้องใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามาเป็นส่วนสำคัญของชีวิต แต่ไม่ว่าใครจะใส่อะไรมาแค่ไหน ทุกสิ่งก็ล้วนแต่เกิดประโยชน์แก่ผู้บริโภคทั้งสิ้น แม้จะต้องจ่ายแพงกว่า แต่ก็นับว่าคุ้มค่ากับการก้าวเข้าสู่โลกดิจิทัลอย่างสมบูรณ์แบบ




กำลังโหลดความคิดเห็น