เปิดบทสัมภาษณ์พิเศษ “ณัฏฐวุฒิ ตั้งคารวคุณ” ประธานทีโอเอ เวนเจอร์ โฮลดิ้ง (TOAVH) ถึงแนวคิดในการก้าวเข้ามาเป็นดีลเลอร์รถยนต์ จากฐานธุรกิจดั้งเดิมที่คนไทยทุกคนรู้จักกันเป็นอย่างดี ในฐานะผู้ผลิตและจำหน่ายสีรายใหญ่ของประเทศภายใต้แบรนด์ TOA
ใครจะทราบบ้างว่า แท้จริงแล้วกลุ่ม TOA นั้นก้าวเข้ามาสู่ธุรกิจใหม่นี้นานนับ 10 ปีแล้ว โดยเป็นดีลเลอร์ของรถยนต์ 3 แบรนด์ได้แก่ ซูซูกิ , เอ็มจี และล่าสุดคือ เมอร์เซเดส-เบนซ์ ภายใต้ชื่อของ ไพรม์มัส ออโต้เฮาส์ มาดูที่มาที่ไปและแนวคิดในการดำเนินธุรกิจที่พร้อมเปิดเผยว่า ทำอย่างไรจึงประสบความสำเร็จเช่นนี้ได้
จุดเริ่มต้น
จากพื้นฐานธุรกิจเดิมที่เราทำอยู่คือ ผลิตสี ภายใต้แบรนด์ TOA ซึ่งมีคู่ค้าเป็นบริษัทผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ของไทยหลากหลายแบรนด์ ซึ่งเลือกใช้สีของ TOA โดยเฉพาะโครงสร้างตัวถังรถปิกอัพทุกคันที่ผลิตในประเทศไทยจะเลือกใช้สีรองพื้นและสีพ่นกันสนิมของเรา
เราเห็นการเติบโตของอุตสาหกรรมยานยนต์ในประเทศไทยที่มีทิศทางสดใสมาโดยตลอดดังนั้นในช่วงราวปี 2552 เราจึงก้าวเข้ามาทำธุรกิจรถยนต์โดยเริ่มต้นด้วยแบรนด์ ซูซูกิ เป็นรายแรก ภายใต้ชื่อบริษัท ไอทีโอเอ ออโต้เซลส์ จำกัด หลังจากนั้น ช่วงปี 2557ขยายมาเป็นดีลเลอร์ของแบรนด์ MG เพิ่มในชื่อบริษัท เบสท์ ออโต้ เซลส์ จำกัด ซึ่งเรามีสัดส่วนยอดขายเป็นอันดับ 1 ของทั้งสองแบรนด์ ล่าสุดได้เป็นตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ เมอร์เซเดส-เบนซ์ ภายใต้ชื่อ ไพรม์มัส ออโต้เฮาส์ (Primus Autohuas)
หลักในการเลือกแบรนด์
หลังจากประสบความสำเร็จในการทำตลาดรถยนต์ซูซูกิ และเอ็มจีแล้ว เราต้องการขยายธุรกิจให้คลอบคลุมตลาดมากขึ้น เรามองเห็นว่าตลาดรถยนต์หรูยังคงเติบโตได้ดีเช่นเดียวกัน ดังนั้นเพื่อให้เรามีสินค้าครบทุกระดับราคาเราจึงยื่นขอเป็นตัวแทนจำหน่ายรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์อีกหนึ่งแบรนด์ ทำให้พอร์ตโฟลิโอในการขายของเรามีครบทุกเซกเมนต์
แนวคิดในการบริหาร
หัวใจสำคัญของการบริหารคือ บุคลากร เราต้องดูแลคนของเราให้ดี โดยเน้นที่การบริการหลังการขายเป็นสำคัญ ทุกคนจะมีจิตที่ให้บริการ เพราะ รถคันแรกขายได้ด้วยพนักงานขาย แต่รถคันต่อมาจะขายได้ด้วยช่าง หรือการบริการหลังการขาย ด้วยเหตุนี้เองทำให้เราทุ่มลงทุนในส่วนของเครื่องมือและทีมช่างอย่างเต็มที่ ยกตัวอย่างเช่นที่ เบนซ์ ไพรมัส นั้นเรามีพื้นที่รองรับการบริการสูงสุดถึง 40 ช่องซ่อม พร้อมทีมช่างที่ได้รับการฝึกอบรมผ่านมาตรฐานของเมอร์เซเดส-เบนซ์ ประเทศไทย จึงมั่นใจได้ในการเข้ารับบริการ
จุดเด่นของเบนซ์ ไพรม์มัส
โชว์รูมของเบนซ์ ไพรม์มัส นั้นก่อสร้างขึ้นตามมาตรฐานใหม่ล่าสุด (Corporate Identity: CI) ของ เมอร์เซเดส-เบนซ์ เอจี โดยได้รับเลือกให้อยู่ภายใต้โครงการ Choice of Overseas ที่จะมีเพียง 15 แห่งทั่วโลกเท่านั้น ซึ่งออกแบบโดยใช้แนวคิดให้ลูกค้าเป็นศูนย์กลาง ไม่มีการแยกส่วนขายหรือเซอร์วิส แต่จะมีพนักงานเข้ามาต้อนรับเพื่อสอบถามและดำเนินการตามที่ลูกค้าต้องการ
ทั้งนี้ การออกแบบโครงสร้างนั้นจะคล้ายกับโรงแรม ให้ลูกค้าสามารถวนรถเข้ามาจอดได้อย่างสะดวก รวมถึงการเน้นพื้นที่เปิดโล่งเพื่อให้ความรู้สึกสบายและผ่อนคลาย พร้อมกับมีจอขนาดใหญ่ช่วยเปิดประสบการณ์ใหม่ๆ ให้กับลูกค้าที่เข้ามาเยี่ยมชม
เหนืออื่นใดหากออกรถกับไพรมัส เราจะมีการสร้างธีมในการส่งมอบรถให้กับเจ้าของเช่น หากลูกค้าเป็นแฟนบอลลิเวอร์พูล เราจะมีการมอบเสื้อทีมหงส์แดงและจัดพื้นที่ส่งมอบให้กลายเป็นสนามบอลแอนฟิลด์จำลองได้ ถือเป็นการสร้างประสบการณ์ส่งมอบรถรูปแบบใหม่ที่ยังไม่เคยมีใครทำมาก่อน
เป้าหมาย
ความพึงพอใจสูงสุดของลูกค้า คือสิ่งที่เรามุ่งมั่นตั้งใจทำไม่ว่าจะเป็นธุรกิจสีหรือธุรกิจรถยนต์ ลูกค้าที่ซื้อรถยนต์ทุกคนต้องการใช้งานรถยนต์ดังนั้นการซ่อมที่รวดเร็ว รวมกับการบริการที่ประทับใจจะทำให้ลูกค้ากลับมาซื้ออีกครั้ง ในส่วนของยอดขายของเมอร์เซเดส-เบนซ์นั้นล่าสุด 6 เดือนแรกเราสามารถทำยอดได้ทะลุเป้าหมายโดย AMG สามารถทำได้ 155% และรถปกติทำได้ 133% ท่ามกลางภาวะวิกฤตไวรัสโควิด-19เช่นนี้ถือว่าประสบความสำเร็จเป็นที่น่าพอใจ แต่จะไม่ลดระดับการดูแลลงไปอย่างแน่นอน
ใครจะทราบบ้างว่า แท้จริงแล้วกลุ่ม TOA นั้นก้าวเข้ามาสู่ธุรกิจใหม่นี้นานนับ 10 ปีแล้ว โดยเป็นดีลเลอร์ของรถยนต์ 3 แบรนด์ได้แก่ ซูซูกิ , เอ็มจี และล่าสุดคือ เมอร์เซเดส-เบนซ์ ภายใต้ชื่อของ ไพรม์มัส ออโต้เฮาส์ มาดูที่มาที่ไปและแนวคิดในการดำเนินธุรกิจที่พร้อมเปิดเผยว่า ทำอย่างไรจึงประสบความสำเร็จเช่นนี้ได้
จุดเริ่มต้น
จากพื้นฐานธุรกิจเดิมที่เราทำอยู่คือ ผลิตสี ภายใต้แบรนด์ TOA ซึ่งมีคู่ค้าเป็นบริษัทผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ของไทยหลากหลายแบรนด์ ซึ่งเลือกใช้สีของ TOA โดยเฉพาะโครงสร้างตัวถังรถปิกอัพทุกคันที่ผลิตในประเทศไทยจะเลือกใช้สีรองพื้นและสีพ่นกันสนิมของเรา
เราเห็นการเติบโตของอุตสาหกรรมยานยนต์ในประเทศไทยที่มีทิศทางสดใสมาโดยตลอดดังนั้นในช่วงราวปี 2552 เราจึงก้าวเข้ามาทำธุรกิจรถยนต์โดยเริ่มต้นด้วยแบรนด์ ซูซูกิ เป็นรายแรก ภายใต้ชื่อบริษัท ไอทีโอเอ ออโต้เซลส์ จำกัด หลังจากนั้น ช่วงปี 2557ขยายมาเป็นดีลเลอร์ของแบรนด์ MG เพิ่มในชื่อบริษัท เบสท์ ออโต้ เซลส์ จำกัด ซึ่งเรามีสัดส่วนยอดขายเป็นอันดับ 1 ของทั้งสองแบรนด์ ล่าสุดได้เป็นตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ เมอร์เซเดส-เบนซ์ ภายใต้ชื่อ ไพรม์มัส ออโต้เฮาส์ (Primus Autohuas)
หลักในการเลือกแบรนด์
หลังจากประสบความสำเร็จในการทำตลาดรถยนต์ซูซูกิ และเอ็มจีแล้ว เราต้องการขยายธุรกิจให้คลอบคลุมตลาดมากขึ้น เรามองเห็นว่าตลาดรถยนต์หรูยังคงเติบโตได้ดีเช่นเดียวกัน ดังนั้นเพื่อให้เรามีสินค้าครบทุกระดับราคาเราจึงยื่นขอเป็นตัวแทนจำหน่ายรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์อีกหนึ่งแบรนด์ ทำให้พอร์ตโฟลิโอในการขายของเรามีครบทุกเซกเมนต์
แนวคิดในการบริหาร
หัวใจสำคัญของการบริหารคือ บุคลากร เราต้องดูแลคนของเราให้ดี โดยเน้นที่การบริการหลังการขายเป็นสำคัญ ทุกคนจะมีจิตที่ให้บริการ เพราะ รถคันแรกขายได้ด้วยพนักงานขาย แต่รถคันต่อมาจะขายได้ด้วยช่าง หรือการบริการหลังการขาย ด้วยเหตุนี้เองทำให้เราทุ่มลงทุนในส่วนของเครื่องมือและทีมช่างอย่างเต็มที่ ยกตัวอย่างเช่นที่ เบนซ์ ไพรมัส นั้นเรามีพื้นที่รองรับการบริการสูงสุดถึง 40 ช่องซ่อม พร้อมทีมช่างที่ได้รับการฝึกอบรมผ่านมาตรฐานของเมอร์เซเดส-เบนซ์ ประเทศไทย จึงมั่นใจได้ในการเข้ารับบริการ
จุดเด่นของเบนซ์ ไพรม์มัส
โชว์รูมของเบนซ์ ไพรม์มัส นั้นก่อสร้างขึ้นตามมาตรฐานใหม่ล่าสุด (Corporate Identity: CI) ของ เมอร์เซเดส-เบนซ์ เอจี โดยได้รับเลือกให้อยู่ภายใต้โครงการ Choice of Overseas ที่จะมีเพียง 15 แห่งทั่วโลกเท่านั้น ซึ่งออกแบบโดยใช้แนวคิดให้ลูกค้าเป็นศูนย์กลาง ไม่มีการแยกส่วนขายหรือเซอร์วิส แต่จะมีพนักงานเข้ามาต้อนรับเพื่อสอบถามและดำเนินการตามที่ลูกค้าต้องการ
ทั้งนี้ การออกแบบโครงสร้างนั้นจะคล้ายกับโรงแรม ให้ลูกค้าสามารถวนรถเข้ามาจอดได้อย่างสะดวก รวมถึงการเน้นพื้นที่เปิดโล่งเพื่อให้ความรู้สึกสบายและผ่อนคลาย พร้อมกับมีจอขนาดใหญ่ช่วยเปิดประสบการณ์ใหม่ๆ ให้กับลูกค้าที่เข้ามาเยี่ยมชม
เหนืออื่นใดหากออกรถกับไพรมัส เราจะมีการสร้างธีมในการส่งมอบรถให้กับเจ้าของเช่น หากลูกค้าเป็นแฟนบอลลิเวอร์พูล เราจะมีการมอบเสื้อทีมหงส์แดงและจัดพื้นที่ส่งมอบให้กลายเป็นสนามบอลแอนฟิลด์จำลองได้ ถือเป็นการสร้างประสบการณ์ส่งมอบรถรูปแบบใหม่ที่ยังไม่เคยมีใครทำมาก่อน
เป้าหมาย
ความพึงพอใจสูงสุดของลูกค้า คือสิ่งที่เรามุ่งมั่นตั้งใจทำไม่ว่าจะเป็นธุรกิจสีหรือธุรกิจรถยนต์ ลูกค้าที่ซื้อรถยนต์ทุกคนต้องการใช้งานรถยนต์ดังนั้นการซ่อมที่รวดเร็ว รวมกับการบริการที่ประทับใจจะทำให้ลูกค้ากลับมาซื้ออีกครั้ง ในส่วนของยอดขายของเมอร์เซเดส-เบนซ์นั้นล่าสุด 6 เดือนแรกเราสามารถทำยอดได้ทะลุเป้าหมายโดย AMG สามารถทำได้ 155% และรถปกติทำได้ 133% ท่ามกลางภาวะวิกฤตไวรัสโควิด-19เช่นนี้ถือว่าประสบความสำเร็จเป็นที่น่าพอใจ แต่จะไม่ลดระดับการดูแลลงไปอย่างแน่นอน
