ที่ฟินแลนด์ไม่ได้มีดีแค่แสงเหนือ แต่ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวตื่นตาและหลากหลายกิจกรรมที่สร้างความตื่นใจ นอกจากนี้ ยังมีโปรแกรมที่สร้างประสบการณ์สุดเอ็กซ์คลูซีฟที่น้อยคนเคยสัมผัส อย่างการซิ่งรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยูบนพื้นหิมะที่ล้อมรอบด้วยป่าสนขาวโพลน ท่ามกลางอุณหภูมิเกือบ -10 องศา!
ทริป JOY GO ICE DRIVING EXPERIENCE - Rovaniemi พาเจ้าของรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยูไปมันส์ถึงฟินแลนด์กับโปรแกรม BMW Winter Driving Experience ณ Arctic Driving Center, Rovaniemi ที่เมืองโรวาเนียมิ (Rovaniemi) ทางตอนเหนือของประเทศฟินแลนด์ ซึ่งมีรูปแบบการอบรมการขับขี่ที่ไม่เหมือนใครในโลก
เริ่มจากช่วงแรกของโปรแกรมนี้ที่เหล่าอินสตรัคเตอร์จากบีเอ็มดับเบิลยู ฟินแลนด์ นำฝูงรถ BMW ซีรีส์ 5 และ ซีรีส์ 3 อย่าง 320d GT มารอรับหน้าโรงแรม เพื่อให้ทุกคนได้สัมผัสประสบการณ์บนรถบีเอ็มดับเบิลยูตั้งแต่ก้าวแรก และสมาชิกทริป JOY GO ICE EXPERIENCE - Rovaniemi ถือเป็นนักเรียนกลุ่มแรกประจำปี 2020 ของสนามแห่งนี้ เหล่าอินสตรัคเตอร์จึงเต็มด้วยพลังพร้อมประกบสอนแบบตัวต่อตัวในทุกด่านทดสอบตลอดทั้งวัน
สเตชั่นฝึกขับขี่ของโปรแกรม BMW Winter Driving Experience ที่ฟินแลนด์ เริ่มตั้งแต่เบสิคการขับรถ เพื่อให้ทุกคนสามารถนำมาปรับใช้ได้จริงบนถนนทุกรูปแบบ แม้แต่ถนนคอนกรีตในเมืองไทย โดยเน้นสอนการแก้อาการรถเมื่อสูญเสียการควบคุมทุกรูปแบบ รวมทั้งการจับพวงมาลัยให้ถูกต้อง การเหยียบเบรกบนพื้นหิมะที่มีระยะแตกต่างจากถนนทั่วไป จังหวะการเหยียบคันเร่ง การฝึกขับแบบสลาลมและเลขแปดแบบสามวงติดต่อกัน ฝึกให้เรียนรู้การดริฟต์เป็นวงกลมวงเล็กและวงใหญ่ ฝึกทักษะในการขับขี่หลายอย่างรวมกันในแทร็กสุดคดเคี้ยว พร้อมแข่งขันจับเวลา โดยถือเป็นการฝึกใช้ทุกทักษะที่ได้เรียนมาตลอดทั้งวัน และปิดท้ายโปรแกรมด้วยการจัดให้อินสตรัคเตอร์มืออาชีพ ผู้มีดีกรีนักแข่งและประสบการณ์การขับรถแข่งมากกว่า 20 ปี มาซิ่งรถบีเอ็มดับเบิลยูบนพื้นหิมะสุดลื่นให้ทุกคนได้ลองสัมผัสความตื่นเต้นแบบสุดๆ
ส่วนตัวรถบีเอ็มดับเบิลยูที่ใช้ในโปรแกรมนี้ ถือว่ามีความหลากหลายมาก เพราะมีทั้ง BMW ซีรีส์ 3 อย่าง M340i xDrive และ 330d xDrive รวมทั้ง BMW ซีรีส์ 1 อย่าง M135i xDrive และ 120d xDrive ซึ่งทุกคันมีทั้งระบบขับเคลื่อน 2 ล้อหลังและระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ สมาชิกทริปนี้ถือว่าเอ็กซ์คลูซีฟสุดๆ เพราะได้ลองสัมผัส BMW M340i xDrive และ BMW M135i xDrive เป็นกลุ่มแรกของเมืองไทย ซึ่งทุกคนคอนเฟิร์มสมรรถนะของเครื่องยนต์สไตล์ M Performance ว่าเอาอยู่ทุกจังหวะความลื่น!
นอกจากโปรแกรมขับขี่สุดมันส์ สมาชิกทริปนี้ยังได้ไปสร้างโมเมนต์พิเศษที่หมู่บ้านซานตาคลอส ซึ่งตั้งอยู่บนเส้นอาร์กติกเซอร์เคิลพอดิบพอดี โดยได้ถ่ายภาพคู่กับซานตาคลอสผู้ลึกลับตัวจริงที่น้อยคนมีโอกาสได้พูดคุยและพบเจอ พร้อมไม่พลาดกิจกรรมไฮไลต์ที่ควรทำเมื่อมาเยือนหมู่บ้านในตำนานแห่งนี้ นั่นคือ วิ่งหรือกระโดดข้ามเส้นอาร์กติกเซอร์เคิลครั้งหนึ่งในชีวิต
อีกหนึ่งกิจกรรมสุดพิเศษที่ทริปนี้พาไปสัมผัส คือแวะไปฟาร์มเรนเดียร์ เพื่อถ่ายรูปคู่กับเรนเดียร์ตัวจริงตบท้ายด้วยการนั่งเรนเดียร์ลากเลื่อนรอบฟาร์ม โดยทุกคนได้ลองบังคับเรนเดียร์ด้วยตัวเอง ท่ามกลางป่าสนที่ปกคลุมด้วยหิมะขาวโพลนเหมือนในเทพนิยาย นอกจากนี้ ทางฟาร์มยังจัดเตรียมมื้อกลางวันไว้ให้ โดยมีเมนูพิเศษคือ ‘เนื้อเรนเดียร์กับมันฝรั่งบด’ ทานคู่กับซอสบลูเบอรี่ ซึ่งเป็นอาหารท้องถิ่นจานเด็ดที่หากินที่อื่นได้ยากและไม่ควรพลาดลองชิมเมื่อไปเยือนเมืองนี้
หลังจากดื่มด่ำกับเมืองซานตาคลอสอย่างโรวาเนียมิอย่างเต็มอิ่มแล้ว เมืองปอร์โว (Porvoo) เป็นจุดหมายต่อไป ซึ่งเป็นเมืองเล็กๆ ตั้งอยู่บนชายฝั่งทางตอนใต้ของประเทศฟินแลนด์ ห่างจากกรุงเฮลซิงกิประมาณ 1 ชั่วโมง ที่นี่ได้ชื่อว่าเมืองเก่าสุดคลาสสิกและโรแมนติกด้วยบ้านไม้หลากสี บ้านเรือนที่ปลูกเรียงรายริมแม่น้ำที่ยังคงได้รับการอนุรักษ์ดูแลไว้เป็นอย่างดีตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 13
เมื่อมาถึงฟินแลนด์ต้องแวะเที่ยวเฮลซิงกิ เมืองหลวงที่ได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในเมืองแห่งดีไซน์ระดับโลก และเต็มไปด้วยแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจ อย่าง อนุสาวรีย์ฌอง ซิเบลุส (Jean Sibelius Monument) ที่ตั้งอยู่ในสวนสาธารณะซิเบลุส (Sibelius Park) ซึ่งเป็นบุคคลสำคัญของประเทศ ผู้ประพันธ์เพลงปลุกใจรักชาติของฟินแลนด์ ประติมากรรมนี้สร้างจากเหล็กขนาดยักษ์ ได้รับแรงบันดาลใจจากเครื่องดนตรีสุดคลาสสิกอย่างออร์แกน เพื่อเป็นการระลึกถึงพรสวรรค์ทางด้านดนตรีของซิเบลุส
อีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังของเฮลซิงกิที่มีผู้คนจากทั่วโลกมาเยือนเพื่อขอโชคเรื่องความรัก คือ โบสถ์หินเทมเปลิโอคิโอ (Temppeliaukio) หรือที่เรียกกันว่า Rock Church เพราะเป็นโบสถ์ที่สร้างโดยการระเบิดเนินหินตรงกลาง โบสถ์แห่งนี้มีชื่อเสียงเรื่องความรัก เพราะสร้างขึ้นเมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ ปี 1968 และสร้างเสร็จเมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ของปีถัดไป
แลนด์มาร์กสำคัญของเฮลซิงกิที่สมาชิกทริป JOY GO ICE DRIVING EXPERIENCE - Rovaniemi ได้ไปเยี่ยมชม คือ จตุรัสเซเนท (Senate Square) จัตุรัสขนาดใหญ่ในกลางเมือง ซึ่งมี อาสนวิหารเฮลซิงกิ (Helsinki Cathedral) สีขาวขนาดใหญ่ตั้งอยู่โดดเด่นเป็นสง่า และมีรูปปั้นพระเจ้าอเล็กซานเดอร์ที่ 2 ผู้ปกครองดินแดนแถบนี้ในอดีต อยู่ใจกลางจตุรัส
ปิดท้ายทริปด้วยการแวะไปแหล่งรวมผลงานศิลปะสตรีทอาร์ตหลากหลายแนวที่สวยงามและอลังการที่สุดในฟินแลนด์ ณ สถานีรถไฟไมเรอมากิ (Myyrmaki) ซึ่งอยู่ที่เมืองแวนต้า (Vantaa) ทางตอนใต้ของกรุงเฮลซิกิ งานศิลปะขนาดยักษ์ใหญ่กว่า 600 ตารางฟุตนี้ สร้างสรรค์โดยเหล่าศิลปินชาวฟินนิชรุ่นใหม่ 10 คน
ประสบการณ์สุด JOY ตลอดทริปที่มีดริฟต์รถบนพื้นหิมะแถวแลปแลนด์ ดื่มด่ำหลากหลายกิจกรรมในเมืองซานตาคลอส และเที่ยวเมืองสุดคูลอย่างเฮลซิงกิแบบนี้ บีเอ็มดับเบิลยูเท่านั้นที่จัดให้ได้
