เกรท วอลมอเตอร์ส แจงซื้อศูนย์ผลิตจีเอ็ม เตรียมตั้งไทยเป็นศูนย์กลางผลิต-ส่งออก

เกรท วอล มอเตอร์ส มั่นใจการเข้าซื้อศูนย์การผลิตจีเอ็มในไทย จะช่วยพัฒนาธุรกิจทั้งในตลาดไทยและอาเซียน รวมทั้งมีแผนจะใช้ไทยเป็นศูนย์กลางการผลิตและส่งออกผลิตภัณฑ์ไปยังประเทศต่างๆ ในภูมิภาคอาเซียน รวมถึงออสเตรเลีย

ข่าวเชฟโรเลตที่เตรียมยุติการทำตลาดในไทยสิ้นปีนี้ มีผลต่ออุตสาหกรรมรถยนต์ของไทยอย่างมาก แม้วันนี้จะเดาอนาคตของเชฟโรเลตในไทยยังไม่ได้ แต่ตัวแปรที่น่าจับตามองคือ เกรท วอล มอเตอร์ส เพราะเป็นผู้ซื้อศูนย์การผลิตรถยนต์และเครื่องยนต์ในจังหวัดระยองของจีเอ็ม ประเทศไทย ที่สำคัญค่ายรถจากจีนรายนี้มีรถหลายยี่ห้ออยู่ในมือไม่ว่าจะเป็นกระบะหรือเก๋ง อาทิ Haval , Wey และ Ora







นาย หลิว เซียงชาง รองประธานฝ่ายกลยุทธ์ระดับโลกของ เกรท วอล มอเตอร์ส กล่าวว่า“ โครงการระดับโลกของเกรท วอล มอเตอร์ส เริ่มเป็นรูปธรรมหลังจากการเริ่มพัฒนามากว่า 10 ปี ในช่วงสองปีที่ผ่านมาการเปลี่ยนแปลงและการอัพเกรดรูปแบบการส่งออกของ เกรท วอล มอเตอร์ส ส่งผลให้แผนกลยุทธ์ระดับโลกก้าวหน้าไปอย่างรวดเร็วในปี 2562 โรงงาน ของเกรท วอล มอเตอร์ส ในเมืองตูลา(Tula) ประเทศรัสเซีย ประสบความสำเร็จในการเริ่มต้นสายการผลิตและเมื่อต้นปี 2563 บริษัทยังบรรลุข้อตกลงกับจีเอ็มในการซื้อโรงงานทาเลกอน(Talegaon)ประเทศอินเดีย




“การเข้าซื้อศูนย์การผลิตของจีเอ็ม ประเทศไทยในจังหวัดระยองจะช่วยพัฒนาธุรกิจของเกรท วอล มอเตอร์ส ในตลาดประเทศไทยและอาเซียน เกรท วอล มอเตอร์ส จะขยายธุรกิจไปทั่วภูมิภาคอาเซียนโดยมีประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการผลิตและส่งออกผลิตภัณฑ์ไปยังประเทศต่างๆในภูมิอาเซียนรวมถึงประเทศออสเตรเลียด้วย

“ตลาดรถยนต์ในภูมิภาคอาเซียนเป็นตลาดที่กำลังพัฒนามีโอกาสและศักยภาพสูงมาก การเข้าสู่ตลาดประเทศไทยเป็นก้าวแรกของ เกรท วอล มอเตอร์ส ในการเข้าสู่ตลาดอาเซียนและเป็นก้าวสำคัญในกลยุทธ์ระดับโลกของเรา การลงทุนของเกรท วอล มอเตอร์ส จะสร้างงานในท้องถิ่นรวมถึงการจ้างงานทั้งทางตรงและทางอ้อมอีกทั้งยังเป็นการส่งเสริมการพัฒนาทักษะในอุตสาหกรรมรถยนต์ นอกจากนี้เรายังจะส่งเสริมการพัฒนาระบบซัพพลายเชน การวิจัยและพัฒนาและอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องในท้องถิ่นตลอดจนส่งเสริมรายได้ทางการคลังให้กับหน่วยงานราชการท้องถิ่นในจังหวัดระยองและในประเทศไทย” นายหลิว เซียงชาง กล่าว


แต่อย่างไรก็ตาม เกรทวอลมอเตอร์สและเจนเนอรัลมอเตอร์ส (จีเอ็ม) ประกาศว่า ข้อตกลงการซื้อขายศูนย์การผลิตจีเอ็มประเทศไทยในจังหวัดระยองจะสำเร็จลุล่วงหลังจากได้รับการอนุมัติจากหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง และคาดว่าการซื้อขายและส่งมอบศูนย์การผลิตทั้งสองจะเสร็จสิ้นในปลายปี 2563

นับตั้งแต่เริ่มสายการผลิตในปี 2543 ศูนย์การผลิตจีเอ็ม ประเทศไทยในจังหวัดระยองได้ผลิตรถกระบะและรถอเนกประสงค์กว่า 1.4 ล้านคันสำหรับตลาดประเทศไทยและตลาดส่งออกในฐานะศูนย์กลางการผลิตระดับภูมิภาคสำหรับรถกระบะขนาดกลาง รถอเนกประสงค์และเครื่องยนต์ดีเซล

จูเลียน บลิสเซตต์ รองประธานกรรมการอาวุโส จีเอ็มไอโอ กล่าวว่า มันเป็นการตัดสินใจที่ยากลำบากของบริษัทที่ต้องยุติการผลิตในประเทศไทย หลังจากที่บริษัทได้ทำการวิเคราะห์โดยละเอียดถึงแผนธุรกิจที่จะจัดสรรโครงการรถยนต์ใหม่ในอนาคตให้แก่ศูนย์การผลิตในจังหวัดระยอง



ด้วยประสิทธิภาพที่ได้รับการยอมรับจากทั่วโลกและได้รับการรับรองมาตรฐานคุณภาพมากมาย ทีมงานในศูนย์การผลิตแห่งนี้ได้ผลิตและส่งมอบรถยนต์ระดับโลกให้กับตลาดประเทศไทยและตลาดส่งออกเป็นเวลากว่าสองทศวรรษ







“ในนามของจีเอ็ม ผมขอขอบคุณพนักงานในประเทศไทยที่ได้ทุ่มเทและอุทิศตนทำงานให้กับบริษัทของเรามาโดยตลอด และผมต้องขอบคุณรัฐบาลไทยที่ให้การสนับสนุนการดำเนินธุรกิจของเรามาอย่างยาวนานในตลาดรถยนต์ที่มีการแข่งขันทางธุรกิจสูงมากในประเทศไทย”

การตัดสินใจที่จะยุติการผลิตที่ศูนย์การผลิตจีเอ็มประเทศไทยในจังหวัดระยองนั้นขึ้นอยู่กับกลยุทธ์ระดับโลกของจีเอ็มและเพื่อประสิทธิภาพสูงสุดในการผลิตทั่วโลกของเราด้วยเหตุผลที่กล่าวมา การขายศูนย์การผลิตจีเอ็ม ประเทศไทยให้กับเกรท วอล มอเตอร์ส จึงเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดเพื่อรองรับการผลิตรถยนต์รุ่นใหม่ในอนาคตที่ศูนย์การผลิตแห่งนี้ นายจูเลียน กล่าว

จีเอ็มให้คำมั่นที่จะดูแลช่วยเหลือและมอบแพ็คเกจเงินชดเชยให้กับพนักงานที่ได้รับผลกระทบทั้งหมดในจำนวนที่มากกว่ากฎหมายแรงงานไทยกำหนด และช่วยเตรียมความพร้อมสำหรับการเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้