วันนี้ (7 มิ.ย.) คาวาลลิโน มอเตอร์ ตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ “เฟอร์รารี” อย่างเป็นทางการในประเทศไทย จัดงานเปิดตัวรถสปอร์ตโมเดลใหม่ “พอร์โตฟิโน” ขุมพลัง 600 แรงม้า ชูความโดดเด่นของการรวมความสปอร์ต หรูหรา และความสะดวกสบายเข้าไว้ด้วยกัน เคาะราคาเริ่มต้น 20.9 ล้านบาท
เฟอร์รารี พอร์โตฟิโน (Ferrari Portofino) คือ รถ V8 GT รุ่นใหม่ของค่ายม้าลำพองที่เข้ามาทำตลาดแทนที่รุ่น California T ซึ่งมุ่งจะเป็นผู้นำในเซกเมนต์ด้วยแพกเกจที่รวบรวมความสปอร์ต หรูหรา และสะดวกสบายเข้าไว้ด้วยกันอย่างลงตัว
โดยการออกแบบจากทีมเฟอร์รารี Design Centre ใช้ตัวถังแบบ two-box fastback ซึ่งไม่เคยมีมาก่อนในกลุ่ม coupe-convertible ที่มีหลังคา retractable hardtop มอบความโฉบเฉี่ยวให้กับรูปร่างโดยรวมมีลักษณะที่สปอร์ตมากขึ้นโดยที่ไม่กระทบกับความหรูหราและความคล่องตัว
การทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดระหว่างทีม Aerodynamics และทีมออกแบบ ทำให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุดในเรื่องของการจัดการกับพื้นผิวของตัวถังรถ เริ่มจากด้านหน้าที่มีกระจังหม้อน้ำขนาดใหญ่ที่กินพื้นที่จากด้านหนึ่งไปสู่อีกด้านหนึ่งของหน้ารถที่ได้ออกแบบมาอย่างประณีต มีชุดไฟหน้าแบบ full-LED ที่ดูเป็นแนวนอนมากขึ้น ด้านมุมนอกของไฟหน้านั้นมีการซ่อนช่องอากาศที่ผ่านเข้ามาทางซุ้มล้อหน้าและออกไปทางด้านข้าง เพื่อลดแรงเสียดทานอากาศ
การออกแบบด้านท้ายช่วยเสริมลักษณะอันดูสปอร์ตของรถ โดยเฉพาะการวางตำแหน่งของไฟท้ายที่ห่างกันมากขึ้น การออกแบบอันชาญฉลาดนี้ช่วยเก็บซ่อนพื้นที่สำหรับระบบ RHT (Retractable Hard Top) ใหม่ ที่มาพร้อมกับน้ำหนักที่ลดลงและสามารถยกขึ้นหรือลงได้ที่ความเร็วต่ำ
ด้านความสะดวกสบายของห้องโดยสาร มาพร้อมกับอุปกรณ์ใหม่ๆ มากมาย ได้แก่ ระบบinfotainment พร้อมจอ touchscreen ขนาด 10.2 นิ้ว ระบบปรับอากาศใหม่ที่มีประสิทธิภาพมากขึ้นไม่ว่าจะเปิดหรือปิดหลังคา พวงมาลัย multi-function ใหม่ เบาะคู่หน้าปรับไฟฟ้าได้ 18 ทิศทาง มีพนักพิงดีไซน์ใหม่ที่ช่วยเพิ่มพื้นที่วางขาของผู้โดยสารหลัง และระบบจอ Passenger Display สำหรับให้ข้อมูลการขับขี่ผู้โดยสารด้านหน้า ผู้โดยสารทั้งหมดจะได้รับความสะดวกจากระบบ Wind Deflector ใหม่ที่สามารถลดแรงลมในห้องโดยสารได้ถึง 30% รวมทั้งช่วยลดเสียงรบกวน
ขุมพลัง V8 turbo อันเลื่องชื่อ ซึ่งเป็นสมาชิกของครอบครัวเครื่องยนต์ที่ได้รับการเสนอชื่อสำหรับรางวัล International Engine of the Year ในปี 2016 และ 2017 นั้นผลิตกำลังได้สูงสุด 600 แรงม้า (มากกว่าในรุ่น California T ถึง 40 แรงม้า) และอัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม.ใน 3.5 วินาที ทำให้ม้าลำพองรุ่นนี้เป็นรถเปิดประทุนที่มีกำลังมากที่สุด ซึ่งรวบรวมข้อดีของหลังคาแข็งแบบ retractable ห้องเก็บสัมภาระและห้องโดยสารที่กว้างขวาง บวกกับที่นั่งเสริมด้านหลังอีกสองที่เหมาะสำหรับการเดินทางระยะสั้น
ระบบช่วงล่างที่ใหม่หมดของพอร์โตฟิโน ได้รับการลดน้ำหนักเมื่อเทียบกับในรุ่นที่เข้ามาทดแทน ด้วยการใช้เทคโนโลยีการผลิตที่ทันสมัยมากมาย ชิ้นส่วนต่างๆ ของช่วงล่างและชิ้นส่วน body-in-white ได้รับการออกแบบใหม่ให้มีน้ำหนักเบาลงถึงแม้ว่าตัวถังจะมีความแข็งแกร่งยิ่งขึ้น พร้อมการนำระบบ electronic rear differential (E-Diff3) มาใช้โดยทำงานร่วมกับระบบ F1-Trac ซึ่งช่วยเพิ่มการยึดเกาะถนนและการควบคุม
พอร์โตฟิโนเป็นรถประเภท GT คันแรกในอนุกรมที่ได้รับการติดตั้งระบบพวงมาลัย EPS (Electric Power Steering) ทำให้วิศวกรนั้นสามารถลดอัตราทดพวงมาลัยได้ถึง 7% ผลดีก็คือการตอบสนองของพวงมาลัยที่ดีขึ้น โดยไม่กระทบกับความเสถียรเมื่อร่วมทำงานกับระบบ E-Diff3 ระบบกันสะเทือนแบบ magnetorheological damping system (SCM-E) นั้นได้ถูกเพิ่มประสิทธิภาพด้วยเทคโนโลยี dual-coil ที่ช่วยลดอาการโคลงในขณะที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการซึมซับแรงสะเทือนจากความไม่ราบเรียบของถนน ผลที่ได้ก็คือรถยนต์ที่มีความว่องไวปราดเปรียวและตอบสนองดีขึ้น แต่ในขณะเดียวกันก็มอบสัมผัสแห่งความสบายไปพร้อมๆ กัน
รถสปอร์ตเปิดประทุนรุ่นล่าสุดจากค่ายม้าป่า ที่เลือกตั้งชื่อรุ่นตามชื่อเมืองที่สวยที่สุดเมืองหนึ่งในประเทศอิตาลี นั่นคือเมือง Portofino เปิดตัวพร้อมทำตลาดในเมืองไทย ด้วยราคาเริ่มต้น 20.9 ล้านบาท
สำหรับเศรษฐีนักขับชาวไทยที่สนใจ สามารถคลิกอ่านข้อมูลเพิ่มเติม เกี่ยวกับการทดลองขับรถยนต์รุ่นนี้ถึงถิ่นกำเนิดได้ที่ ลองขับ เฟอร์รารี พอร์โตฟิโน่ ดุลภาพแห่งความแรงและสบาย
เฟอร์รารี พอร์โตฟิโน (Ferrari Portofino) คือ รถ V8 GT รุ่นใหม่ของค่ายม้าลำพองที่เข้ามาทำตลาดแทนที่รุ่น California T ซึ่งมุ่งจะเป็นผู้นำในเซกเมนต์ด้วยแพกเกจที่รวบรวมความสปอร์ต หรูหรา และสะดวกสบายเข้าไว้ด้วยกันอย่างลงตัว
โดยการออกแบบจากทีมเฟอร์รารี Design Centre ใช้ตัวถังแบบ two-box fastback ซึ่งไม่เคยมีมาก่อนในกลุ่ม coupe-convertible ที่มีหลังคา retractable hardtop มอบความโฉบเฉี่ยวให้กับรูปร่างโดยรวมมีลักษณะที่สปอร์ตมากขึ้นโดยที่ไม่กระทบกับความหรูหราและความคล่องตัว
การทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดระหว่างทีม Aerodynamics และทีมออกแบบ ทำให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุดในเรื่องของการจัดการกับพื้นผิวของตัวถังรถ เริ่มจากด้านหน้าที่มีกระจังหม้อน้ำขนาดใหญ่ที่กินพื้นที่จากด้านหนึ่งไปสู่อีกด้านหนึ่งของหน้ารถที่ได้ออกแบบมาอย่างประณีต มีชุดไฟหน้าแบบ full-LED ที่ดูเป็นแนวนอนมากขึ้น ด้านมุมนอกของไฟหน้านั้นมีการซ่อนช่องอากาศที่ผ่านเข้ามาทางซุ้มล้อหน้าและออกไปทางด้านข้าง เพื่อลดแรงเสียดทานอากาศ
การออกแบบด้านท้ายช่วยเสริมลักษณะอันดูสปอร์ตของรถ โดยเฉพาะการวางตำแหน่งของไฟท้ายที่ห่างกันมากขึ้น การออกแบบอันชาญฉลาดนี้ช่วยเก็บซ่อนพื้นที่สำหรับระบบ RHT (Retractable Hard Top) ใหม่ ที่มาพร้อมกับน้ำหนักที่ลดลงและสามารถยกขึ้นหรือลงได้ที่ความเร็วต่ำ
ด้านความสะดวกสบายของห้องโดยสาร มาพร้อมกับอุปกรณ์ใหม่ๆ มากมาย ได้แก่ ระบบinfotainment พร้อมจอ touchscreen ขนาด 10.2 นิ้ว ระบบปรับอากาศใหม่ที่มีประสิทธิภาพมากขึ้นไม่ว่าจะเปิดหรือปิดหลังคา พวงมาลัย multi-function ใหม่ เบาะคู่หน้าปรับไฟฟ้าได้ 18 ทิศทาง มีพนักพิงดีไซน์ใหม่ที่ช่วยเพิ่มพื้นที่วางขาของผู้โดยสารหลัง และระบบจอ Passenger Display สำหรับให้ข้อมูลการขับขี่ผู้โดยสารด้านหน้า ผู้โดยสารทั้งหมดจะได้รับความสะดวกจากระบบ Wind Deflector ใหม่ที่สามารถลดแรงลมในห้องโดยสารได้ถึง 30% รวมทั้งช่วยลดเสียงรบกวน
ขุมพลัง V8 turbo อันเลื่องชื่อ ซึ่งเป็นสมาชิกของครอบครัวเครื่องยนต์ที่ได้รับการเสนอชื่อสำหรับรางวัล International Engine of the Year ในปี 2016 และ 2017 นั้นผลิตกำลังได้สูงสุด 600 แรงม้า (มากกว่าในรุ่น California T ถึง 40 แรงม้า) และอัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม.ใน 3.5 วินาที ทำให้ม้าลำพองรุ่นนี้เป็นรถเปิดประทุนที่มีกำลังมากที่สุด ซึ่งรวบรวมข้อดีของหลังคาแข็งแบบ retractable ห้องเก็บสัมภาระและห้องโดยสารที่กว้างขวาง บวกกับที่นั่งเสริมด้านหลังอีกสองที่เหมาะสำหรับการเดินทางระยะสั้น
ระบบช่วงล่างที่ใหม่หมดของพอร์โตฟิโน ได้รับการลดน้ำหนักเมื่อเทียบกับในรุ่นที่เข้ามาทดแทน ด้วยการใช้เทคโนโลยีการผลิตที่ทันสมัยมากมาย ชิ้นส่วนต่างๆ ของช่วงล่างและชิ้นส่วน body-in-white ได้รับการออกแบบใหม่ให้มีน้ำหนักเบาลงถึงแม้ว่าตัวถังจะมีความแข็งแกร่งยิ่งขึ้น พร้อมการนำระบบ electronic rear differential (E-Diff3) มาใช้โดยทำงานร่วมกับระบบ F1-Trac ซึ่งช่วยเพิ่มการยึดเกาะถนนและการควบคุม
พอร์โตฟิโนเป็นรถประเภท GT คันแรกในอนุกรมที่ได้รับการติดตั้งระบบพวงมาลัย EPS (Electric Power Steering) ทำให้วิศวกรนั้นสามารถลดอัตราทดพวงมาลัยได้ถึง 7% ผลดีก็คือการตอบสนองของพวงมาลัยที่ดีขึ้น โดยไม่กระทบกับความเสถียรเมื่อร่วมทำงานกับระบบ E-Diff3 ระบบกันสะเทือนแบบ magnetorheological damping system (SCM-E) นั้นได้ถูกเพิ่มประสิทธิภาพด้วยเทคโนโลยี dual-coil ที่ช่วยลดอาการโคลงในขณะที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการซึมซับแรงสะเทือนจากความไม่ราบเรียบของถนน ผลที่ได้ก็คือรถยนต์ที่มีความว่องไวปราดเปรียวและตอบสนองดีขึ้น แต่ในขณะเดียวกันก็มอบสัมผัสแห่งความสบายไปพร้อมๆ กัน
รถสปอร์ตเปิดประทุนรุ่นล่าสุดจากค่ายม้าป่า ที่เลือกตั้งชื่อรุ่นตามชื่อเมืองที่สวยที่สุดเมืองหนึ่งในประเทศอิตาลี นั่นคือเมือง Portofino เปิดตัวพร้อมทำตลาดในเมืองไทย ด้วยราคาเริ่มต้น 20.9 ล้านบาท
สำหรับเศรษฐีนักขับชาวไทยที่สนใจ สามารถคลิกอ่านข้อมูลเพิ่มเติม เกี่ยวกับการทดลองขับรถยนต์รุ่นนี้ถึงถิ่นกำเนิดได้ที่ ลองขับ เฟอร์รารี พอร์โตฟิโน่ ดุลภาพแห่งความแรงและสบาย