xs
xsm
sm
md
lg

จะกี่โค้งก็ไม่หวั่น หากเดิน “ตามรอยเท้าพ่อ”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ช่วงที่คนไทยยังคงไว้ทุกข์ โศกเศร้ากับการเสด็จสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 อยู่นั้นเราจะเห็นกิจกรรมต่างๆของพสกนิกรชาวไทยที่แสดงความจงรักภักดีต่อในหลวงรัชกาลที่ 9 ผ่านการเผยแพร่โครงการพระราชดำริต่างๆ ที่ท่านทรงทำไว้ ...ล่าสุด “ฟอร์ด” เป็นอีกหนึ่งค่ายในการจัดกิจกรรม “ตามรอยเท้าพ่อ” เพื่อเทิดพระเกียรติและแสดงความจงรักภักดีต่อในหลวง รัชกาลที่ 9
ศุภรางศุ์ อนุชปรีดา  กล่าวเปิดงาน
นางสาวศุภรางศุ์ อนุชปรีดา ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารองค์กร ฟอร์ด ประเทศไทย เผยว่า ตลอดระยะเวลา 70 ปี ที่พสกนิกรชาวไทยได้อยู่ใต้ร่มพระบารมีของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ในหลวงรัชกาลที่ 9 ท่านได้เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเยี่ยมเยียนราษฎรในพื้นที่ห่างไกลด้วยน้ำพระทัยที่ทรงห่วงใยประชาชน ทั้งยังทรงคิดค้นนวัตกรรมใหม่ๆ เพื่อช่วยเหลือและยกระดับคุณภาพชีวิตประชากรของพระองค์ให้ดียิ่งขึ้น และจังหวัด “น่าน” พระองค์ทรงเลือกเป็นจังหวัดนำร่องสำหรับสืบสานโครงการในพระราชดำริ นำมาซึ่งความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นของคนในพื้นที่ ฟอร์ดจึงจัดทริป “ตามรอยเท้าพ่อ” เพื่อแสดงความจงรักภักดีและร่วมเผยแพร่พระราชกรณียกิจผ่านการเยี่ยมชมโครงการในพระราชดำริ เพื่อสานต่อพระราชปณิธานของพระองค์
กิจกรรม ตามรอยเท้าพ่อ กับฟอร์ด
รถที่ใช้ขับ ตามรอยเท้าพ่อ ขับกันเป็นคาราวาน
รถที่ใช้ในการเดินทาง “ตามรอยเท้าพ่อ” นั้นมีด้วยกัน 2 รุ่น คือ ฟอร์ด เรนเจอร์ ไวล์ดแทรค และฟอร์ด เอเวอเรสต์ รวมทั้งหมด 25 คัน สำหรับรุ่นที่สื่อมวลชนขับมากับเครื่องยนต์ 3.2 ลิตร ดีเซล ดูราทอร์ค ทีดีซีไอ วีจี เทอร์โบ ให้กำลังสูงสุด 200 แรงม้า แรงบิดสูงสุดถึง 470 นิวตันเมตร ระบบเกียร์อัตโนมัติแบบ 6 สปีด พร้อมระบบการขับเคลื่อน 4 ล้อแบบอัตโนมัติ รวมไปถึงระบบพวงมาลัยไฟฟ้า ทำให้ขับได้อย่างมั่นใจในทุกสภาพถนน ถือเป็นจุดเด่นที่ชอบมาก

สำหรับผู้เขียนวันแรกพาหนะคู่ใจเป็น ฟอร์ด เรนเจอร์ พร้อมสมาชิกอีก 2 ท่าน มุ่งหน้ายังอำเภอทุ่งช้างเยี่ยมชมอนุสาวรีย์วีรกรรม พลเรือน ตำรวจ ทหาร ณ พิพิธภัณฑ์ทหาร เพื่อสดุดีวีรกรรมของวีรชนไทย รวมไปถึงสักการะพระบรมรูปของสมเด็จพระนเรศวรมหาราชที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชได้พระราชทานเพื่อเป็นมิ่งขวัญและกำลังใจในการต่อสู้กับผู้ก่อการร้ายกับชาวบ้านในท้องถิ่นเมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2519 ซึ่งช่วงเวลาที่พระองค์ได้เสด็จฯไปนั้น จังหวัดน่านยังเป็นพื้นที่สีแดงที่เต็มไปด้วยภัยอันตราย แต่พระองค์ทรงห่วงใยพสกนิกรของพระองค์เหนือสิ่งอื่นใด นำมาซึ่งความปลื้มปีติและเป็นที่เล่าขานจากรุ่นสู่รุ่นของชาวเมืองน่านถึงน้ำพระราชหฤทัยที่เปี่ยมไปด้วยพระมหากรุณาธิคุณอันใหญ่หลวง
อนุสาวรีย์ วีรกรรมพลเรือน ตำรวจ ทหาร ที่ปฎิบัติภารกิจในพื้นที่ อำเภอ ทุ่งช้าง และได้เสียสละ เลือด เนื้อ ชีวิต ปกป้องผืนแผ่นดินไทย รวม 682 คน
ศาลสมเด็จพระนเรศวรมหาราช
ภายในพิพิธภัณฑ์
มีภาพพระราชกรณียกิจของทั้ง 2 พระองค์ หลายภาพ ติดอยู่บนกำแพง
ภาพถ่ายที่ทหารฝ่ายไทยและฝ่ายตรงข้ามใช้ต่อสู้กัน
อาวุธ ยุทธโธปากรณ์ แสดงโชว์ในอาคาร
อาวุธ ยุทธโธปากรณ์ แสดงโชว์ในอาคาร
เส้นทางคดเคี้่ยวตลอด
จากนั้นสื่อมวลชนเดินทางต่อไปยังอุทยานแห่งชาติดอยภูคาโดยเส้นทางขึ้นดอยคดเคี้ยวและลาดชันตลอด แต่ฟอร์ด เรนเจอร์ สามารถตอบสนองได้อย่างทันใจ ขับเพลิน แม้รูปร่างจะค่อนข้างใหญ่แต่เมื่อกะระยะได้ก็สามารถให้ความคล่องตัว บวกกับพวงมาลัยเพาเวอร์ไฟฟ้าที่นำมาติดตั้งใน ฟอร์ด เรนเจอร์ ถือว่าให้ความสะดวกสบายในการขับขี่ แม่นยำ -การควบคุมรถง่าย มั่นใจทุกช่วงโค้ง

แสงสุดท้ายบนยอดดอยภูคา
บ้านพักบนยอดดอยภูคา
ใครจะเลือกนอนเต็นท์ ฟอร์ดก็มีเตรียมไว้ให้
วันที่สองพวกเราเปลี่ยนมาขับ ฟอร์ด เอเวอเรสต์ รถเอสยูวี 7 ที่นั่ง เริ่มออกเดินทางไปยังโครงการปิดทองหลังพระ บ้านเปียงก่อ ตำบลขุ่นน่าน ซึ่งเป็นโครงการในพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชที่จัดทำขึ้นเพื่อให้ความรู้และฝึกอบรมด้านการพัฒนาพื้นที่ทำกินตามหลักเศรษฐกิจพอเพียง สื่อมวลชนได้เข้าเยี่ยมชมโครงการและร่วมทำกิจกรรมการปรับเปลี่ยนที่ดินจากการถางป่าเพื่อทำไร่ข้าวโพดมาเป็นการทำการเกษตรแบบยั่งยืน
ขับกันสนุกเลย

โครงการปิดท้องหลังพระ ที่บ้านเปียงก่อ ตำบลขุ่นน่าน
โดยมีแนวทางในการปฏิบัติ 3 ขั้นตอน คือ

1.แนวปฏิบัติในการประยุกต์เรื่องการบริหารต้นน้ำ กลางน้ำ ปลายน้ำ

ต้นน้ำ เป็นแหล่งองค์ความรู้ตามแนวพระราชดำริจะประกอบด้วยความรู้จากศูนย์ศึกษาการพัฒนาโครงการส่วนพระองค์ โครงการตามพระราชประสงค์ โครงการหลวง โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ โครงการในพระบรมราชานุเคราะห์

กลางน้ำ จะเป็นส่วนที่ปิดทองหลังพระ มีบทบาทเป็นสะพานเชื่อมระหว่างต้นน้ำกับปลายน้ำ โดยมุ่งเน้นด้านการจัดการความรู้ การส่งเสริมการพัฒนา และการสร้างภาคีเครือข่ายความร่วมมือ

ปลายน้ำ จะเป็นการบูรณาการระดับพื้นที่ ชุมชน ท้องถิ่น และจังหวัด เพื่อนำองค์ความรู้จากโครงการพระราชดำริเชื่อมโยง และปรับใช้ในแต่ละพื้นที่อย่างเหมาะสมกับภูมิสังคม และภูมิปัญญาชุมชนท้องถิ่น โดยมุ่งเป้าหมายให้ประชาชนอยู่ดีมีสุข
โครงการพระราชดำริของรัชกาลที่ 9  จัดทำเพื่อให้ความรู้ ฝึกอบรมด้านการพัฒนาพื้นที่ทำกินตามหลักเศรษฐกิจพอเพียง
2.แนวทางการขับเคลื่อนการพัฒนาตามแนวพระราชดำริ 7 ขั้นตอน
ประยุกต์จากหลักการ เข้าใจ เข้าถึง และพัฒนา คือ

1.การสร้างความเข้าใจกับประชาชน ชุมชน ท้องถิ่น จังหวัด องค์การปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) และ ภาคีความ ร่วมมือ

2.การกำหนดพื้นที่ โดยพิจารณาจากภูมิสังคม และสภาพปัญหาแต่ละพื้นที่ที่เป็นเป้าหมายปฏิบัติการพัฒนา

3.การถ่ายทอดองค์ความรู้และพัฒนาศักยภาพของชุมชน โดยจัดกระบวนการเรียนรู้ ถ่ายทอดความรู้ที่สอดคล้องกับภูมิ สังคมของกลุ่มเป้าหมาย เพื่อเตรียมความพร้อมกลุ่มเป้าหมายก่อนกระบวนการ พัฒนา

4.การลงมือปฏิบัติ คือ การที่ชุมชนและภาคีทุกภาคส่วนร่วมกันดำเนินการแก้ไขปัญหา และพัฒนาโดยเรียนรู้จากโครง การพระราชดำริ และนำมาปรับใช้ให้สอดคล้องกับภูมิสังคม ศักยภาพชุมชน ภูมิปัญญาท้องถิ่น ฯลฯ

5.การแลกเปลี่ยนเรียนรู้และการพัฒนาต่อเนื่อง เป็นขั้นตอนที่เน้นการสื่อสารและการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ที่เกิดขึ้น จากการลงมือปฏิบัติ เพื่อสรุปบทเรียน ข้อค้นพบและการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง

6.การให้คำปรึกษาและติดตามอย่างใกล้ชิด เป็นการจัดทีมสนับสนุน ให้คำปรึกษาแก่พื้นที่ที่มูลนิธิปิดทองหลังพระฯ ส่ง เสริมการพัฒนา

7.การวัดผล เป็นขั้นตอนสุดท้ายเพื่อประเมินผลการดำเนินงานว่า มีผลสำเร็จ หรือมีสิ่งที่ต้องปรับปรุงแก้ไขหรือไม่ อย่าง ไรเพื่อใช้เป็นแนวทางการพัฒนาพื้นที่อื่น ๆ ต่อไป
สื่อมวลชน ช่วยกันปลูกต้นกล้ากาแฟกัน
ต้นเล็กนิดเดียว
3. แนวทางการบูรณาการเชิงพื้นที่

เป็นการเน้นการบริหารจัดการเพื่อนำศักยภาพของพื้นที่และภูมิปัญญาท้องถิ่น เป็นพลังสำคัญในการขับเคลื่อนการพัฒนา และให้ความสำคัญต่อการบูรณาการทุนการพัฒนาด้านต่างๆ ในจังหวัด ทั้งความรู้จากศูนย์ศึกษาการพัฒนา งบประมาณ และโครงการพระราชดำริ เพื่อนำไปสู่การแก้ไขปัญหาและพัฒนาอย่างสอดคล้องกับศักยภาพของพื้นที่ และตรงกับความต้องการของประชาชน
สวนผักปลอดสารพิษ
หลังจากนั้นก็ขับกันอีกยาว
เส้นทางไปยัง โครงการปิดทองหลังพระ บ้านเปียงก่อ ต.ขุ่นน่าน และกลับมายังตัวเมืองน่าน ถือเป็นเส้นทางที่ไม่ธรรมดาเลย มีทั้งทางลาดชัน -คดเคี้ยว ขึ้นเขา-ลงเขา ผ่านเป็นร้อยโค้งงานนี้ แต่เอเวอร์เรสต์ ก็ไม่ทำให้ผิดหวัง เครื่องแรง ช่วงล่างดี ช่วยให้การขับขี่ไต่ขึ้น-ลงเขา ได้อย่างมั่นใจ บวกกับระบบพวงมาลัยไฟฟ้า ช่วยลดความวิตกกังวลในบังคับพวงมาลัยในช่วงเจอโค้งหักศอก ขับผ่านแบบสบาย ๆ

ระยะทางยังอีกยาวไกล
พิพิธภัณฑ์ท้องถิ่นเทศบาลตำบลเวียงสา อำเภอเวียงสา
วันที่สามซึ่งเป็นวันสุดท้ายของการเดินทางขบวนคาราวานเดินทางมายังพิพิธภัณฑ์ท้องถิ่นเทศบาลตำบลเวียงสา อำเภอเวียงสา เพื่อน้อมรำลึกถึงองค์พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ในคราวเสด็จเยือนจังหวัดน่านครั้งแรก และไฮไลท์สำคัญอยู่ที่ “ม้านั่งไม้ที่ประทับ” ที่ทั้งสองพระองค์ประทับม้านั่งไม้ เพื่อโปรดเกล้าให้ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ที่มาเฝ้ารับเสด็จได้กราบบังคมทูลถวายรายงานที่ว่าการอำเภอเวียงสา ก่อนจะเสด็จฯออกให้ราษฎรเข้าเฝ้าฯ พร้อมชมของใช้ในสมัย ศิลปวัฒนธรรม และภูมิปัญญาท้องถิ่น
“ม้านั่งไม้ที่ประทับ”
ภายในพิพิธภัณฑ์
ของเก่าในยุคบราณ
หมวกในสมัยโบราณ
โรงเรียนริมฝั่งว้าวิทยา
หลังจากนั้นขบวนคาราวาน มุ่งหน้าโรงเรียนริมฝั่งว้าวิทยา เพื่อส่งมอบหนังสือเกี่ยวกับพระราชกรณียกิจ นิทาน และวิดีทัศน์เกี่ยวกับคำสอนของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชและอุปกรณ์การเรียนการสอนต่างๆ ให้กับทางโรงเรียนและร่วมสมทบทุนในการสร้างห้องสมุดให้กับโรงเรียนริมฝั่งว้าวิทยา ถือเป็นการปิดทริปที่น่าประทับใจ
ฟอร์ด สมทบทุนในการสร้างห้องสมุดโรงเรียน
เด็ก ๆ ดีใจในของเล่นกันไปคนละถุุง

กิจกรรมตามรอยเท้าพ่อ ครั้งนี้นอกจากจะได้ขับขี่รถ 2 รุ่น ที่ขับสนุกแล้วยังได้สัมผัส เข้าใจ พระราชกรณียกิจต่าง ๆ ที่ท่านทรงทำไว้ในจังหวัดน่าน ซึ่งแน่นอน พวกเราพร้อมที่จะสานต่อพระราชปณิธานของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชในการทำความดีเพื่อสังคมและประโยชน์ของส่วนรวม ....ตามรอยเท้าพ่อ....
พวกเรา รักในหลวง

กำลังโหลดความคิดเห็น