xs
xsm
sm
md
lg

Fiat Fullback ปรับโฉมสู้ศึกตลาดปิกอัพ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


นอกจากการบูมของตลาด SUV แล้ว อีกตลาดที่น่าจับตามองคือ การเกิดใหม่ของบรรดาปิกอัพแบรนด์แปลกๆ ที่พวกเขาไม่เคยมีผลผลิตประเภทนี้อยู่ในตลาดมาก่อน Mercedes-Benz ก็ค่ายหนึ่งละ ตามด้วย Renault ที่เป็นแฝดคนละฝากัน และล่าสุดคือ Fiat กับชื่อรุ่น Fullback ที่คนไทยดูแป๊บเดียวก็รู้ว่ายกของแบรนด์ไหนมาทำ โดยคราวนี้มากับการปรับโฉมหลังจากที่เปิดตลาดครั้งแรกเมื่อ 2 ปีที่แล้ว

Fullback คือ ผลผลิตที่ทาง Fiat หยิบยืม Know-How ของทาง Mitsubishi มาต่อยอดในการพัฒนา ด้วยการจับเอาปิกอัพรุ่น Tritom มาแต่งหน้าทาปากใหม่เพื่อเจาะตลาดรถยนต์อเนกประสงค์ที่ใช้งานได้ทั้งสันทนาการและในเชิงพาณิชย์ โดยเวอร์ชั่นดั้งเดิมของ Fullback เปิดตัวครั้งแรกในปี 2014 พร้อมกับกวาดยอดขายได้พอตัวในระดับ 675,000 คันจากตลาด EMEA ซึ่งก็คือตะวันออกกลาง และแอฟริกา และคราวนี้มีการแปต่งหน้าทาปากใหม่เพิ่อกระตุ้นตลาดและรับมือกับคู่แข่งอย่าง Renault Alaskan หรือ Nissan Navara ที่เพิ่งเปิดตัว
ในรุ่นใหม่นี้เราจะได้เห็นหน้าตาที่สดใหม่ขึ้น และแม้ว่าในภาพที่แจกนักข่าวทาง Fiat จะชูตัวท็อปอย่างรุ่น 4 ประตูขับเคลื่อน 4 ล้อยกสูง แต่พวกเขาก็มีทางเลือกของตัวถังให้สัมผัสแบบครบครันทั้งแบบซิงเกิลแค็บ แบบ Chassis ที่ไปต่อกระบะท้ายเอาเอง แบบดับเบิลแค็บ และแบบ 4 ประตู


จากการเปิดเผยของ Fiat นั้น ตัวกระบะท้ายมีการปรับปรุงใหม่เพื่อรองรับกับการบรรทุกที่มากขึ้น และความสูงของตัวรถเพิ่มจาก 1,780 มาเป็น 1,815 มิลลิเมตร ส่วงนระยะฐานล้อก็อยู่ที่ 3,000 มิลลิเมตร โดยที่ความยาวตัวถังอยู่ระหว่าง 5,155 มิลลิเมตรในรุ่นตอนเดี่ยว 5,275 มิลลิเมตรในรุ่นมีแค็บ และ 5,285 มิลลิเมตรในรุ่น 4 ประตู

ทางเลือกของเครื่องยนต์ก็มีทั้งเบนซินแบบ 4 สูบ 2,400 ซีซี 132 แรงม้า และ 2,500 ซีซี เทอร์โบดีเซล 110 แรงม้า โดยจับคู่กับเกียร์ธรรมดา 5 จังหวะ ส่วนเกียร์อัตโนมัติก็มีขายแต่เฉพาะรุ่นท็อปที่เน้นการขับใช้งานส่วนตัวมากกว่างานบรรทุก นี่คือ สเป็กสำหรับตลาดตะวันออกกลางและแอฟริกา ส่วนตลาดยุโรปและนอกเหนือจากนี้จะมีรุ่นเทอร์โบดีเซล 2,400 ซีซี ซึ่งเป็นเครื่องยนต์อะลูมิเนียมบล็อกใหม่ 150 และ 180 แรงม้า พร้อมเกียร์ธรรมดา 6 จังหวะ หรืออัตโนมัติ 5 จังหวะเป็นออพชั่นให้เลือก

บ้านเรามี Triton อยู่แล้ว และ Fiat ก็ไม่ได้เข้ามาแจ้งเกิดอย่างเป็นเรื่องเป็นราว งานนี้ก็คงได้แต่ดูและติดตามกันเพียงอย่างเดียว









กำลังโหลดความคิดเห็น