บริษัท อินเทล โลจิสติคส์ จำกัดซึ่งเป็นผู้ให้บริการขนส่งวัตถุอันตรายรายใหญ่ ยืนยันคุณภาพรถบรรทุกวอลโว่ ทรัคส์ ที่ใช้งานหนัก สามารถวิ่งรับส่งสินค้าตลอด 24 ชั่วโมง เป็นระยะทางเกินกว่า 1 ล้านกิโลเมตรโดยไม่ต้องโอเวอร์ฮอล จำนวน 9 คันจาก 55 คันที่มีอยู่ ซึ่งส่วนที่เหลือโดยในฟรีทระยะทางบนหน้าปัทม์ แสดงเลขหลักกิโลเมตรที่วิ่งไปแล้ว 7 - 8 แสนกิโลเมตร โดยไม่ได้โอเวอร์ฮอลเช่นกัน
นายโยธิน ตระหง่านศรี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อินเทล โลจิสติคส์ จำกัด เปิดเผยว่าปัจจุบัน บริษัทฯ ใช้รถบรรทุกวอลโว่ ทรัคส์ 55 คัน ซึ่งเป็นรถบรรทุกที่มีการใช้งานอย่างหนักตลอดเวลา โดยเป็นการขนวัตถุอันตรายของลูกค้า ซึ่งเป็นการวิ่งที่หยุดเฉพาะการบำรุงรักษาตามระยะที่กำหนด หรือการเปลี่ยนอะไหล่ตามกำหนดระยะทาง เท่านั้น ดังนั้น รถบรรทุกวอลโว่ ทรัคส์ ทั้ง 55 คันนี้ จึงเป็นการวิ่งลักษณะไม่มีการหยุด
“ต้องยืนยันว่าหากรถของเราหยุดวิ่ง นั่นหมายถึงรายได้ที่จะขาดหายไป ก่อนที่เราจะตัดสินใจซื้อรถแต่ละคัน เราจะต้องคำนวณอย่างดีแล้วว่าเราจะต้องได้กำไรจากการเพิ่มรถ เราไม่เคยวิ่งขาดทุน ดังนั้น เราต้องคำนวณปริมาณงานที่เราจะได้รับจากสัญญาของตลอดอายุการใช้งานของรถ รถของเราจึงวิ่งไม่มีเวลาหยุด”
นายโยธิน กล่าวว่าลักษณะการให้บริการขนส่งสินค้าที่เป็นวัตถุอันตราย ได้แก่ปิโตรเคมี สารเคมี เป็นต้น จะต้องเป็นรถที่มีสมรรถนะที่ได้รับการอนุมัติจากลูกค้าซึ่งเข้มงวดกับคุณภาพของรถทั้งกำลังของเครื่องยนต์ ตลอดจนตัวถังและหางบรรทุก ประกอบกับปริมาณสินค้าที่ขนส่ง จะมีการกำหนดในสัญญาอย่างชัดเจน ดังนั้น รถบรรทุกที่จะนำมาขนส่งสินค้าเหล่านี้ จะต้องแข็งแรง คงทน และสามารถวิ่งได้อย่างต่อเนื่อง
โดยปกติรถบรรทุกวอลโว่ ทรัคส์ ที่นำมาใช้บริการขนส่งสินค้าวัตถุอันตรายได้กับลูกค้า จะมีระยะวิ่งต่อปีมากกว่า 2 แสนกิโลเมตร ดังนั้นรถบรรทุกวอลโว่ ทรัคส์ ที่เหลืออีก 46 คัน เลขไมล์แตะในระดับ 7 - 8 แสนกิโลเมตรทั้งสิ้น ซึ่งเชื่อว่าอีกไม่นานจะเกิน 1 ล้านกิโลเมตร อย่างแน่นอน
“ผมยืนยันครับว่ารถทุกคันของวอลโว่ ทรัคส์ แม้เลขไมล์จะเกินล้านหรือแตะเกือบล้านกิโลเมตร เรายังไม่เคยต้องยกเครื่องเลย เมื่อเปรียบเทียบกับรถบรรทุกทั่วไปเมื่อวิ่งไป 3 - 4 แสนกิโลเมตร ก็จะต้องยกเครื่องแล้ว ทั้งนี้เพราะเรามีระเบียบแบบแผนการใช้รถและการบำรุงรักษารถที่ชัดเจนตามข้อกำหนดของวอลโว่ ทรัคส์”
นายโยธิน กล่าวว่าหลักการบำรุงรักษารถวอลโว่ ทรัคส์ ให้ใช้งานได้อย่างยาวนานนั้น เป็นสิ่งที่ทุกคนสามารถทำได้ไม่ยาก ได้แก่การเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องตามรอบระยะที่กำหนดไว้ ตลอดจนการเปลี่ยนชิ้นส่วนที่มีอายุเวลาและระยะทางที่กำหนดโดยใช้อะไหล่แท้ ไม่ควรใช้วิธีซ่อมอะไหล่เพราะจะทำให้มีผลต่อเนื่องไปยังชิ้นส่วนอื่น และในที่สุด จะทำให้รถต้องจอดซ่อมเป็นระยะเวลานาน ไม่คุ้มกับการสูญเสียรายได้ที่ได้จากการวิ่งของรถบรรทุก
ข้อดีของรถบรรทุกวอลโว่ ทรัคส์ คือเครื่องยนต์ประหยัดน้ำมันและทนทานเพราะวิ่งด้วยความเร็วที่เหมาะสมและยังคงรักษาแรงบิดสูงที่รอบเครื่องต่ำ ทำให้การสึกหรอน้อยกว่ารถทั่วไป อีกทั้งสัญญาณที่แสดงบนจอแสดงผล เมื่อมีเครื่องหมายใดปรากฏ พนักงานขับรถทุกคนของบริษัทฯ จะต้องทำการหยุดวิ่งเพื่อขอข้อแนะนำจากศูนย์บัญชาการ ซึ่งทีมงานของวอลโว่ ทรัคส์ มีความพร้อมส่งทีมเคลื่อนที่เร็วดำเนินการซ่อมทันทีบนท้องถนนทั่วประเทศ
“ดังนั้น นอกจากรถบรรทุกแล้ว เรายังต้องเข้มงวดกับพนักงานขับรถที่เรามีข้อกำหนดเข้มงวดเรื่องวินัยการขับรถ เพราะทันทีที่เห็นความผิดปกติของตัวรถ จะต้องหยุดรถเพื่อหาสาเหตุ นอกจากนี้ พนักงานขับรถเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ทำให้รถบรรทุกสามารถวิ่งได้ตลอดเวลา ซึ่งพวกเขาจะขับอย่างปลอดภัย จะไม่ยอมให้เกิดอุบัติเหตุบนท้องถนน ปริมาณแอลกอฮอล์จะต้องเป็นศูนย์ มีการพักผ่อนที่เพียงพอตามข้อกำหนดของบริษัทฯ และมีพนักงานขับรถประจำรถ 2 คนเพื่อผลัดกันขับรถตามระเบียบที่กำหนดชั่วโมงการขับรถ และที่สำคัญ พนักงานขับรถทุกคนจะต้องผ่านการอบรมเกี่ยวกับตัวรถจากทีมงานวอลโว่ ทรัคส์ เพื่อให้มีความรู้ความเข้าใจในตัวรถบรรทุกวอลโว่ ทรัคส์” นายโยธิน กล่าวตบท้าย
นายโยธิน ตระหง่านศรี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อินเทล โลจิสติคส์ จำกัด เปิดเผยว่าปัจจุบัน บริษัทฯ ใช้รถบรรทุกวอลโว่ ทรัคส์ 55 คัน ซึ่งเป็นรถบรรทุกที่มีการใช้งานอย่างหนักตลอดเวลา โดยเป็นการขนวัตถุอันตรายของลูกค้า ซึ่งเป็นการวิ่งที่หยุดเฉพาะการบำรุงรักษาตามระยะที่กำหนด หรือการเปลี่ยนอะไหล่ตามกำหนดระยะทาง เท่านั้น ดังนั้น รถบรรทุกวอลโว่ ทรัคส์ ทั้ง 55 คันนี้ จึงเป็นการวิ่งลักษณะไม่มีการหยุด
“ต้องยืนยันว่าหากรถของเราหยุดวิ่ง นั่นหมายถึงรายได้ที่จะขาดหายไป ก่อนที่เราจะตัดสินใจซื้อรถแต่ละคัน เราจะต้องคำนวณอย่างดีแล้วว่าเราจะต้องได้กำไรจากการเพิ่มรถ เราไม่เคยวิ่งขาดทุน ดังนั้น เราต้องคำนวณปริมาณงานที่เราจะได้รับจากสัญญาของตลอดอายุการใช้งานของรถ รถของเราจึงวิ่งไม่มีเวลาหยุด”
นายโยธิน กล่าวว่าลักษณะการให้บริการขนส่งสินค้าที่เป็นวัตถุอันตราย ได้แก่ปิโตรเคมี สารเคมี เป็นต้น จะต้องเป็นรถที่มีสมรรถนะที่ได้รับการอนุมัติจากลูกค้าซึ่งเข้มงวดกับคุณภาพของรถทั้งกำลังของเครื่องยนต์ ตลอดจนตัวถังและหางบรรทุก ประกอบกับปริมาณสินค้าที่ขนส่ง จะมีการกำหนดในสัญญาอย่างชัดเจน ดังนั้น รถบรรทุกที่จะนำมาขนส่งสินค้าเหล่านี้ จะต้องแข็งแรง คงทน และสามารถวิ่งได้อย่างต่อเนื่อง
โดยปกติรถบรรทุกวอลโว่ ทรัคส์ ที่นำมาใช้บริการขนส่งสินค้าวัตถุอันตรายได้กับลูกค้า จะมีระยะวิ่งต่อปีมากกว่า 2 แสนกิโลเมตร ดังนั้นรถบรรทุกวอลโว่ ทรัคส์ ที่เหลืออีก 46 คัน เลขไมล์แตะในระดับ 7 - 8 แสนกิโลเมตรทั้งสิ้น ซึ่งเชื่อว่าอีกไม่นานจะเกิน 1 ล้านกิโลเมตร อย่างแน่นอน
“ผมยืนยันครับว่ารถทุกคันของวอลโว่ ทรัคส์ แม้เลขไมล์จะเกินล้านหรือแตะเกือบล้านกิโลเมตร เรายังไม่เคยต้องยกเครื่องเลย เมื่อเปรียบเทียบกับรถบรรทุกทั่วไปเมื่อวิ่งไป 3 - 4 แสนกิโลเมตร ก็จะต้องยกเครื่องแล้ว ทั้งนี้เพราะเรามีระเบียบแบบแผนการใช้รถและการบำรุงรักษารถที่ชัดเจนตามข้อกำหนดของวอลโว่ ทรัคส์”
นายโยธิน กล่าวว่าหลักการบำรุงรักษารถวอลโว่ ทรัคส์ ให้ใช้งานได้อย่างยาวนานนั้น เป็นสิ่งที่ทุกคนสามารถทำได้ไม่ยาก ได้แก่การเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องตามรอบระยะที่กำหนดไว้ ตลอดจนการเปลี่ยนชิ้นส่วนที่มีอายุเวลาและระยะทางที่กำหนดโดยใช้อะไหล่แท้ ไม่ควรใช้วิธีซ่อมอะไหล่เพราะจะทำให้มีผลต่อเนื่องไปยังชิ้นส่วนอื่น และในที่สุด จะทำให้รถต้องจอดซ่อมเป็นระยะเวลานาน ไม่คุ้มกับการสูญเสียรายได้ที่ได้จากการวิ่งของรถบรรทุก
ข้อดีของรถบรรทุกวอลโว่ ทรัคส์ คือเครื่องยนต์ประหยัดน้ำมันและทนทานเพราะวิ่งด้วยความเร็วที่เหมาะสมและยังคงรักษาแรงบิดสูงที่รอบเครื่องต่ำ ทำให้การสึกหรอน้อยกว่ารถทั่วไป อีกทั้งสัญญาณที่แสดงบนจอแสดงผล เมื่อมีเครื่องหมายใดปรากฏ พนักงานขับรถทุกคนของบริษัทฯ จะต้องทำการหยุดวิ่งเพื่อขอข้อแนะนำจากศูนย์บัญชาการ ซึ่งทีมงานของวอลโว่ ทรัคส์ มีความพร้อมส่งทีมเคลื่อนที่เร็วดำเนินการซ่อมทันทีบนท้องถนนทั่วประเทศ
“ดังนั้น นอกจากรถบรรทุกแล้ว เรายังต้องเข้มงวดกับพนักงานขับรถที่เรามีข้อกำหนดเข้มงวดเรื่องวินัยการขับรถ เพราะทันทีที่เห็นความผิดปกติของตัวรถ จะต้องหยุดรถเพื่อหาสาเหตุ นอกจากนี้ พนักงานขับรถเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ทำให้รถบรรทุกสามารถวิ่งได้ตลอดเวลา ซึ่งพวกเขาจะขับอย่างปลอดภัย จะไม่ยอมให้เกิดอุบัติเหตุบนท้องถนน ปริมาณแอลกอฮอล์จะต้องเป็นศูนย์ มีการพักผ่อนที่เพียงพอตามข้อกำหนดของบริษัทฯ และมีพนักงานขับรถประจำรถ 2 คนเพื่อผลัดกันขับรถตามระเบียบที่กำหนดชั่วโมงการขับรถ และที่สำคัญ พนักงานขับรถทุกคนจะต้องผ่านการอบรมเกี่ยวกับตัวรถจากทีมงานวอลโว่ ทรัคส์ เพื่อให้มีความรู้ความเข้าใจในตัวรถบรรทุกวอลโว่ ทรัคส์” นายโยธิน กล่าวตบท้าย
