ตลาดสองล้อขนาดใหญ่ในกลุ่มประเภทสปอร์ตเปลือยหรือเน็กเก็ตไบค์ไซส์ 1ลิตร เกิดความเคลื่อนไหวครั้งใหญ่ที่ต้องจับตามอง เมื่อแบรนด์ชั้นนำอย่าง “ยามาฮ่า” เพิ่งส่งตัวเลือกใหม่ลงทำการแข่งขันหวังชิงส่วนแบ่ง โดยชูความโดดเด่นในด้านรูปร่างหน้าตา สมรรถนะความแรง และราคาจำหน่ายที่คุ้มค่าเมื่อเทียบกับคู่แข่งในระดับเดียวกัน ...ว่าแต่ตัวเลือกของรถประเภทนี้มีรุ่นอะไรบ้าง “ผู้จัดการมอเตอริ่ง” นำข้อมูลผลิตภัณฑ์ของ 4 รุ่นเด่น จาก 4 ยี่ห้อดังที่ทำตลาดในไทย มาเปรียบเทียบเพื่อประกอบการตัดสินใจ
เริ่มจากรุ่นที่น่าสนใจที่สุดในบ้านเรา ขณะนี้ต้องยกให้ค่ายส้อมเสียงที่เพิ่งเคาะราคาจำหน่ายและเปิดรับจองอย่างเป็นทางการไปไม่นาน สำหรับ “ยามาฮ่า เอ็มที-10” (MT-10) ราคา 619,000 บาท ในงานบิ๊กมอเตอร์เซล 2016 เมื่อเดือนที่แล้ว หลังจากก่อนหน้านี้ เคยนำมาอวดโฉมครั้งแรกในอาเซียน ที่งานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ เมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา
สำหรับสปอร์ตเปลือยตัวพ่อรุ่นนี้มีจุดที่โดดเด่นอยู่หลายอย่าง หากนับเฉพาะที่สำคัญๆ และเห็นได้ชัดเจน คือ มีความสดใหม่ในด้านรูปร่างหน้าตาที่ไม่เคยปรากฏโฉมที่ไหนมาก่อน เนื่องจากเป็นนิวโมเดลที่ทางยามาฮ่าเพิ่งพัฒนาขึ้นมาใหม่ โดยใช้พื้นฐานเฟรมและเครื่องยนต์เดียวกับสปอร์ตตัวธงประจำค่าย รุ่นวายแซดเอฟ-อาร์1 (YZF-R1) ซึ่งเป็นนิวโมเดลโฉมใหม่เช่นกัน (แต่เปิดราคาขายแพงกว่ากันเกือบสามแสนบาทหรืออยู่ที่ 899,000 บาท)
ดังนั้น ด้านขุมพลังความแรงจึงหายห่วง สำหรับบล็อกเครื่องยนต์ 4 สูบเรียง ขนาด 998 ซีซี. แบบ crossplane (CP4) ระบายความร้อนด้วยน้ำ ให้กำลังสูงสุด 160 แรงม้าที่ 11,500 รอบต่อนาที และแรงบิดสูงสุด 111 นิวตัน-เมตรที่ 9,000 รอบต่อนาที และยิ่งเมื่อเทียบกับคู่แข่งสัญชาติเดียวกันแล้ว ทำให้ตัวเลือกที่มาพร้อมสโลแกน Ray of Darkness ดูจะได้เปรียบกว่าไม่น้อยเลยทีเดียว (ดูตารางข้อมูลเทคนิคประกอบ)
นอกจากนี้ยังมีออฟชั่นโหมดการขับขี่ พร้อมระบบ slipper clutch, cruise controlและ traction control ที่ติดตั้งออกมาให้ตั้งแต่โรงงานอีกด้วย
ขณะที่หากวัดกันที่ความแรง ฝั่งเน็กเก็ตไบค์จากค่ายหรูใบพัดสีฟ้าอย่าง “บีเอ็มดับเบิลยู เอส 1000 อาร์” (S1000R) นั้นก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจและจะมองข้ามไปไม่ได้อย่างเด็ดขาด เพราะในด้านสมรรถนะเครื่องยนต์ 4 สูบเรียง ขนาด 999 ซีซี. ระบายความร้อนด้วยน้ำ ให้กำลังสูงสุดได้ในระดับ 160 แรงม้า รวมถึงมีโหมดการขับขี่ที่มาพร้อมระบบช่วยเหลือต่างๆ ได้แก่ Dynamic traction control (DTC) และ Dynamic Damping control (DDC) ที่ใส่มาให้ติดตั้งแรกแล้วเหมือนกัน
เพียงแต่ถ้าหากพิจารณาถึงตัวเลขค่าตัว 635,000 บาท ก็อาจจะดูว่าเสียเปรียบกว่าพอสมควร แม้ว่าจะเป็นราคาที่ใช้ประโยชน์จากการเปิดสายการประกอบในไทย ทำให้ลดต้นทุนด้านภาษีและการขนส่งจากแหล่งผลิตหลักที่โรงงานบีเอ็มดับเบิลยูประเทศเยอรมนีแล้วก็ตาม
ขณะเดียวกันถ้าชอบของถูก (จริงๆ ก็ไม่ถูกสำหรับนักบิดส่วนใหญ่) ต้องหันมองตัวเลือกอีกสองรุ่นเด่นจากสองค่ายแดนปลาดิบ ซึ่งโดยรวมๆ แล้วคุณสมบัติด้านความแรงนั้นใกล้เคียงกัน สำหรับ “คาวาซากิ แซด 1000 เอบีเอส” (Z1000 ABS) และ “ซูซูกิ จีเอสเอ็กซ์-เอส 1000” (GSX-S1000) จากการใช้ขุมพลัง 4 สูบเรียง ขนาด 1,043 ซีซี. ให้กำลังสูงสุด 142 แรงม้า และ 999 ซีซี. ให้กำลังสูงสุด 143 แรงม้า ตามลำดับ
นอกจากนี้ยังช่างบังเอิญเหลือกับการเคาะราคาขายเท่ากันเป๊ะเลย โดยทั้งสองตัวเลือกวางจำหน่ายอยู่ที่ 599,000 บาท (ซูซูกิเคยเปิดตัวขายเฉพาะ 100 คันแรก 579,000 บาท)
...ทั้งหมดเป็นข้อมูลคร่าวๆ ของสองล้อขนาดใหญ่ในกลุ่มเน็กเก็ตไบค์ไซส์ 1ลิตร พร้อมสเปกพอสังเขปมาเปรียบเทียบให้เห็นถึงความต่าง โดยเฉพาะรายละเอียดด้านขุมพลังสำหรับคนรักความแรง และตัวเลือกที่ตอบโจทย์นักบิดที่ชอบราคาเร้าใจสบายกระเป๋า อาจใช้เป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจเบื้องต้นก็ได้ อย่างไรก็ตาม ถ้าคิดจะซื้อจริง แนะนำให้ต้องไปลองขี่ก่อนถึงจะดีที่สุด.
ติดตามข่าวสารและความเคลื่อนไหวในวงการยานยนต์ได้ที่หน้าแฟนเพจ MGR Motoring