การเดินทางในรูปแบบ “คาราวาน” ไม่มีคำว่า สบาย เพราะทุกเส้นทางที่ถูกกำหนดขึ้นมาย่อมแผงไปด้วยความยาก ลำบาก ตื่นเต้น เร้าใจ ยิ่งการเดินทางในต่างประเทศ ทุกคนต้องตื่นเช้า-ถึงที่พักดึก กินอาหารไม่เป็นเวลา ไม่ถูกปาก ห้องน้ำหายาก ไม่สะอาด บางครั้งก็อาศัยข้างทาง บางเส้นทางก็โหด หลงทางก็มี อุบัติเหตุมีเป็นน้ำจิ้ม ระยะทางยาว คนขับก็ต้องสลับ มือเดียวไม่ไหว ..พูดง่าย ๆ เหนื่อยโคตร ..หลังจากจบทริปหลายคนสลบไปหลายวันก็มี
ที่ผ่านมา ค่ายรถได้มีการจัด “คาราวาน” ให้สื่อมวลชนได้ทดสอบกันอยู่บ่อยครั้ง และแต่ละครั้งจะไม่มีผู้บริหารระดับสูงเข้าร่วมขบวนไปด้วย ส่วนใหญ่จะเป็นระดับรองลงมาร่วมทริป แต่สำหรับแบรนด์ “มาสด้า” ได้รับเกียรติจากประธานบริษัท นายฮิเดสึเกะ ทาเกสึเอะ ประธานบริหาร บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด ร่วมทริปไปกับสื่อมวลชนถึง 2 ทริปด้วยกัน คือ คาราวาน พิสูจน์ความแกร่งของมาสด้า บีที-50 โปร บนเส้นทางแห่ง ทุ่งหญ้า ทะเลทราย และมหาวีรบุรุษนักรบผู้ยิ่งใหญ่ เริ่มเดินทางจากไทย -ปักกิ่ง -จีน- สิ้นสุดที่อูลานบาตอร์ ประเทศมองโกเลีย เป็นเวลา 10 วัน โดยใช้รถบีที-50 โปร ทั้งขบวน และทาเกสึเอะ นั่งกระบะรถรุ่นเก่า พร้อมสลับขับกับ ธีร์ เพิ่มพงศ์พันธ์ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด ที่มิได้แค่นั่งอย่างเดียว และล่าสุดทริป อาเซียน “MAZDA SKYACTIV ASEAN CARAVAN” เดินทาง 9 วัน 4 ประเทศ ไทย-ลาว-เวียดนาม-กัมพูชา ด้วยรถมาสด้า 4 รุ่น และทาเกสึเอะ ก็นั่งกระบะรุ่นเก่าตามขบวนเช่นเคย
แน่นอนคนระดับประธานบริษัทจะลงมาลำบากกับนักข่าวทำไม ....แค่มาเปิดงานและมาปิดงานหลังขบวนคาราวาน ถึงจุดหมายปลายทางที่กำหนดไว้ก็น่าจะพอ แต่สำหรับ ฮิเดสึเกะ ทาเกสึเอะ คนนี้ กลับแตกต่าง ...เราลองมาฟังความคิดเห็นของประธาน มาสด้า กันดู ว่าทำไมถึงยอมตรากตรำลำบาก อดหลับอดนอน บางครั้งต้องช่วยลูกน้องขับรถด้วย ว่าท่านคิดอย่างไร ?
-ทำไมสนใจเข้าร่วมคาราวาน
มาสด้ามีความแตกต่างจากค่ายรถอื่น ตรงที่ว่าเรามีรถหลากหลายให้เลือก ตั้งแต่ซีดาน แฮตช์แบ็ก เอสยูวี กระบะ บวกกับสินค้าของเรามีเทคโนโลยีที่ไฮเทค ดังนั้นการที่จะทำให้ลูกค้าเห็นคุณค่าของรถเรา เข้าใจ ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะมันซับซ้อนเหมือนกัน ..และ ถ้าเราใช้วิธีการลงโฆษณาคงต้องใช้งบเยอะ ต้องลงหมดทุกรุ่น ดังนั้นการที่ผมร่วมทริปคาราวาน ได้ทำงานใกล้ชิดกับสื่อมวลชน ผมก็หวังว่าสื่อมวลชนจะช่วยสนับสนุนในการประชาสัมพันธ์สินค้าให้ด้วย เพราะทุกคนได้ลองขับเป็นเวลาหลายวัน ทำให้เข้าใจเทคโนโลยีที่เราใส่เข้าไปได้ถ่องแท้ การบอกต่อโดยผ่านสื่อมวลชนเป็นเรื่องสำคัญ ผมจึงอยากมาร่วมทริปคาราวาน การไปด้วยกัน สนิทสนาม ใกล้ชิดกันระหว่างทริป น่าจะส่งผลต่อการสื่อสารออกไปสู่สาธารณชน
-การไปคาราวาน ลำบาก นอนดึกตื่นเช้า นั่งรถทั้งวัน กินอาหารไม่ตรงเวลา มันลำบากไหม
ลำบากเหมือนกัน แต่ ธีร์ เพิ่มพงศ์พันธ์ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด และทีมงาน ซึ่งเป็นผู้บริหารรุ่นใหม่ เป็นคนจัดการว่าผมควรจะไปทริปไหน ทำอะไร...มันเป็นเรื่องสำคัญเหมือนกันที่ประธานควรจะลงมาคลุกคลี ทำความรู้จักกับพี่ ๆสื่อมวลชน
-โดยส่วนตัวเป็นคนชอบการผจญภัย หรือชอบอยู่บ้านอ่านหนังสือ
ถ้ามองจากอายุของผม คิดว่าน่าจะมีชีวิตเรียบ ๆ ง่าย ๆ อยู่แบบนิ่ง แต่ว่าตั้งแต่ผมเข้ามาทำงานที่ มาสด้า เซลส์ ประเทศไทย ได้มีโอกาสร่วมทริป ทั้งในประเทศ-ต่างประเทศ ก็เริ่มสนุกกับงานมากขึ้นและเริ่มชอบเรื่องที่มันตื่นเต้น ..ผมคิดว่าชีวิตคนเราควรจะมี 2 ด้าน ทั้งแบบเรียบ ๆ ง่าย ๆ และ แบบลุย ๆ ผมว่ามันก็สนุกดี
-ได้อะไรจากการไปร่วมทริปคาราวาน ทั้งเวียดนามและมองโกเลีย
ผมมองว่าทุกทริปที่ไปสนุกสนาน มีความสุขกับการได้ขับรถ ทดสอบสมรรถนะของรถ อัตราเร่ง การควบคุมรถ เส้นทางประเทศบางก็มีโค้งเยอะมาก เจอสภาพถนนแปลก ๆ แน่นอนถ้าคุณขับรถในกรุงเทพฯจะไม่ได้เจออย่างนี้ โดยเฉพาะในประเทศมองโกเลีย เป็นอะไรที่ดิบ ๆ สวยมาก ผมหวังว่ามันคงจะไม่เปลี่ยนแปลงไป
ขณะที่เวียดนาม ตรงกันข้ามมันมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา อยากไปดูทุกปีว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงอะไรอีก บวกกับการขับรถในเวียดนาม ถือว่าเป็นประสบการณ์ที่ดีมาก เพราะเราไม่สามารถขับรถแบบนี้ในกรุงเทพฯได้ ทั้งนี้ด้วยจำนวนมอเตอร์ไซค์ รถยนต์ ที่อยู่บนถนนเยอะมาก ทำให้ต้องใช้สมาธิอย่างมากในการขับรถ
-ชอบรถรุ่นไหนของมาสด้า
ทุกรุ่นมีคาแรกเตอร์ของตัวเอง ถ้าให้เลือกยาก เลือกไม่ถูก ชอบทุกรุ่น แต่ผมชอบรถ Clean Diesel เป็นพิเศษ แต่ทั้งนี้มาติดตามดูรุ่นต่อไปดีกว่า
เมื่อถามถึงทริปต่อไป ทาเกสึเอะ บอกว่า ถ้าบริษัทจัดกิจกรรมในรูปแบบคาราวานอีก ผมไม่พลาดแน่นอน ....นี่คือคำยืนยันของประธานมาสด้า ฮิเดสึเกะ ทาเกสึเอะ ผู้ที่ไม่ยอมหยุดนิ่งและเรียนรู้อยู่แค่โต๊ะทำงานในออฟฟิศอย่างเดียว