อย่าเพิ่งสงสัยหรือแปลกใจไปกับผลผลิตใหม่ที่โตโยต้าเพิ่งส่งเข้าไปขายในออสเตรเลีย เพราะนี่คือ การนำรถยนต์รุ่นออริสในตลาดยุโรปมาเปลี่ยนชื่อรุ่นใหม่เป็นโคโรลล่า และวางขายในตลาดพวงมาลัยขวาอย่างออสเตรเลีย โดยก่อนหน้านี้มีรุ่นธรรมดาอยู่ในตลาดแล้ว แต่สำหรับตอนนี้มีการเพิ่มทางเลือกกับเวอร์ชันไฮบริด

จริงๆ แล้วตลาดของโคโรลล่าที่มีอยู่ในปัจจุบันยังมีการแยกกลุ่มตลาดในแต่ละภูมิภาคออกไป โดยจะมีตัวถังหลักคือ ซีดาน ซึ่งมี 2 เวอร์ชันคือ เวอร์ชันอเมริกัน และเวอร์ชันยุโรปที่ขายในตลาดโลกด้วย กับรุ่นแฮทช์แบ็ก ซึ่งในยุโรปและญี่ปุ่นจะใช้ชื่อว่าออริส (Auris) แต่ตลาดบางกลุ่ม เช่น ออสเตรเลียจะใช้ชื่อโคโรลล่าในการทำตลาดเหมือนเดิม
สำหรับโคโรลล่า ไฮบริดที่ขายในออสเตรเลียเป็นการยกชุดออริส ไฮบริดมาเปลี่ยนแค่ชื่อรุ่น โดยที่รายละเอียดทางวิศวกรรมและหน้าตาของตัวรถยังคงเหมือนเดิม ซึ่งขับเคลื่อนด้วยระบบไฮบริดแบบ Hybrid Synergy Drive System ในรหัส 2ZR-FXE ซึ่งเป็นการทำงานร่วมกันระหว่างเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ 1,800 ซีซี กับมอเตอร์ไฟฟ้า สามารถผลิตกำลังรวมกันออกมาได้ 134 แรงม้า ที่ 5,000 รอบ/นาที และส่งกำลังด้วยเกียร์ e-CVT

ในด้านความประหยัดน้ำมันมีตัวเลขอยู่ที่ 4.1 ลิตร/100 กิโลเมตร หรือ 24.4 กิโลเมตร/ลิตร โดยแม้ว่าถังน้ำมันจะลดลงจากรุ่นธรรมดาจาก 50 มาเป็น 45 ลิตร แต่ทว่าสมรรถนะของตัวรถก็ยังเยี่ยมเหมือนเดิม โดยสามารถแล่นทำระยะทางได้ทั้งหมด 1,097 กิโลเมตรจากการเติมน้ำมันเพียงครั้งเดียว
ราคาขายในออสเตรเลียตั้งเอาไว้ที่ 26,990 เหรียญออสเตรเลีย หรือคิดเป็นเงินไทยประมาณ 698,000 บาท







จริงๆ แล้วตลาดของโคโรลล่าที่มีอยู่ในปัจจุบันยังมีการแยกกลุ่มตลาดในแต่ละภูมิภาคออกไป โดยจะมีตัวถังหลักคือ ซีดาน ซึ่งมี 2 เวอร์ชันคือ เวอร์ชันอเมริกัน และเวอร์ชันยุโรปที่ขายในตลาดโลกด้วย กับรุ่นแฮทช์แบ็ก ซึ่งในยุโรปและญี่ปุ่นจะใช้ชื่อว่าออริส (Auris) แต่ตลาดบางกลุ่ม เช่น ออสเตรเลียจะใช้ชื่อโคโรลล่าในการทำตลาดเหมือนเดิม
สำหรับโคโรลล่า ไฮบริดที่ขายในออสเตรเลียเป็นการยกชุดออริส ไฮบริดมาเปลี่ยนแค่ชื่อรุ่น โดยที่รายละเอียดทางวิศวกรรมและหน้าตาของตัวรถยังคงเหมือนเดิม ซึ่งขับเคลื่อนด้วยระบบไฮบริดแบบ Hybrid Synergy Drive System ในรหัส 2ZR-FXE ซึ่งเป็นการทำงานร่วมกันระหว่างเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ 1,800 ซีซี กับมอเตอร์ไฟฟ้า สามารถผลิตกำลังรวมกันออกมาได้ 134 แรงม้า ที่ 5,000 รอบ/นาที และส่งกำลังด้วยเกียร์ e-CVT
ในด้านความประหยัดน้ำมันมีตัวเลขอยู่ที่ 4.1 ลิตร/100 กิโลเมตร หรือ 24.4 กิโลเมตร/ลิตร โดยแม้ว่าถังน้ำมันจะลดลงจากรุ่นธรรมดาจาก 50 มาเป็น 45 ลิตร แต่ทว่าสมรรถนะของตัวรถก็ยังเยี่ยมเหมือนเดิม โดยสามารถแล่นทำระยะทางได้ทั้งหมด 1,097 กิโลเมตรจากการเติมน้ำมันเพียงครั้งเดียว
ราคาขายในออสเตรเลียตั้งเอาไว้ที่ 26,990 เหรียญออสเตรเลีย หรือคิดเป็นเงินไทยประมาณ 698,000 บาท