xs
xsm
sm
md
lg

คนไทยทำได้ “โตโยต้า ทีมไทยแลนด์” ขึ้นโพเดี้ยมที่นูร์เบอร์กริง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

วันนี้(29 พ.ค.) เป็นอีกหนึ่งวันที่ต้องจารึกอยู่ในประวัติศาสตร์วงการมอเตอร์สปอร์ตบ้านเรา เมื่อทีมแข่งจากประเทศไทย “โตโยต้า ทีมไทยแลนด์” สามารถผงาดขึ้นโพเดี้ยมได้เป็นครั้งแรกในรายการ “ADAC ZURICH 24 Hours Race at Nurburgring 2016” จัดโดยสมาพันธ์ยานยนต์แห่งประเทศเยอรมนี ซึ่งถือเป็นรายการแข่งขันรถยนต์ทางเรียบสุดหฤโหดแบบ 24 ชั่วโมง ที่มีชื่อเสียงและเป็นที่รู้จักมากที่สุดรายการหนึ่งตั้งแต่ปี 1970 จนถึงปัจจุบัน
ภาพจากแฟนเพจ  Toyota Team Thailand
สำหรับสังเวียนชิงเจ้าความเร็วใช้สนามนูร์เบอร์กริง หรือสนามที่ขึ้นชื่อว่ามีความอันตรายมากที่สุดแห่งหนึ่งในโลก ด้วยสภาพเส้นทางที่ถูกบังคับด้วยภูมิประเทศที่เป็นหุบเขา มีเนินคดเคี้ยว ลาดชัน รวมถึงสภาพอากาศยังแปรปรวน รวมระยะทางยาวถึง 28 กิโลเมตร มีโค้งที่ท้าทายและอันตรายมากถึง 73 โค้ง

อีกทั้งยังเคยคร่าชีวิตนักแข่งมาแล้วมากมาย จนได้รับสมญานามว่า “The Green Hell” (นรกสีเขียว)

นอกจากสนามแข่งขันจะสุดโหดแล้ว รถที่นำมาวิ่งชิงชัยจะต้องเป็นรถโปรดักชั่นคาร์ หรือรถที่มีจำหน่ายในท้องตลาด เพียงแต่ปรับแต่งเพื่อให้เหมาะสมสำหรับการแข่งขันวิ่งเต็มสปีดให้อยู่รอดครบ 24 ชั่วโมง เรียกว่างานนี้ ถ้าซิ่งแต่ไม่อึดจริง ก็มีซี้แน่นอน

สำหรับตัวแรงที่โตโยต้ามั่นใจนำมาร่วมลงแข่งขันเป็นปีที่ 3 คือ โคโรลล่า อัลติส เอสสปอร์ต และโคโรลล่า อัลติส เอสสปอร์ต นูร์เบอร์กริง เอดิชั่น เครื่องยนต์ 1800 ซีซี ในรุ่น Super Production 3 (SP3) ซึ่งเคยทำผลงานเป็นที่ประจักษ์เมื่อ 2 ปีก่อนแล้วว่า ทนจริง อึดจริง สามารถวิ่งครบ 24 ชั่วโมงได้อย่างสบายๆ

ด้านบรรยากาศการแข่งขันปีนี้ เริ่มในวันเสาร์ที่ 28 พ.ค. ตั้งแต่ 15.30 น. ตามเวลาท้องถิ่น หลังเริ่มออกสตาร์ทได้ไม่นาน ดันเกิดพายุฝนและลูกเห็บตกอย่างหนัก จนทำให้เกิดอุบัติเหตุบนแทร็กหลายสิบคัน กระทั่งเจ้าหน้าที่ต้องสั่งหยุดการแข่งขันชั่วคราว และเริ่มแข่งขันกันใหม่ในเวลา 18.00 น.

หลังจากขับเคี่ยวกันอย่างยาวนาน ภายใต้สภาพแวดล้อมที่กดดันทั้งตัวนักแข่งและทีมงาน และเมื่อถึงกำหนดเส้นตายสิ้นสุดการแข่งขัน โตโยต้าทีมไทยแลนด์สามารถนำรถแข่งทั้งสองคันวิ่งผ่านธงตราหมากรุกได้สำเร็จ

โดยรถหมายเลข 123 โคโรลล่า อัลติส เอสสปอร์ต ขับโดย 1.สุทธิพงศ์ สมิตชาติ 2. ณัฐวุฒิ เจริญสุขะวัฒนะ 3. มานัต กุละปาลานนท์ และ 4. ณัฐพงษ์ ห่อทองคำ วิ่งได้ 102 รอบ จบการแข่งขันอันดับที่ 2 ในรุ่น และอันดับที่ 75 โอเวอร์ออล จากรถทั้งหมด 159 คัน

ขณะที่รถหมายเลข 124 โคโรลล่า อัลติส เอสสปอร์ต นูร์เบอร์กริง เอดิชั่น ขับโดย 1. ณัฐพงษ์ ห่อทองคำ 2. กรัณฑ์ ศุภพงศ์ 3. อาทิตย์ เรืองสมบูรณ์ และ 4. เฉิน เจี้ยนหงษ์ ทองคำ วิ่งได้ 97 รอบ จบการแข่งขันอันดับที่ 4 ในรุ่น และอันดับที่ 88 โอเวอร์ออล จากรถทั้งหมด 159 คัน

สำหรับผู้ชนะอันดับที่ 1 ในรุ่น วิ่งได้ 105 รอบ และอันดับที่ 1 โอเวอร์ออล วิ่งได้ 134 รอบ

ติดตามข่าวสารและความเคลื่อนไหวในวงการยานยนต์ได้ที่หน้าแฟนเพจ MGR Motoring

กำลังโหลดความคิดเห็น