แม้ว่างาน “มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 33 หรือ มอเตอร์ เอ็กซ์โป ซึ่งจัดขึ้นในช่วงปลายปีจะยังไม่มาถึง แต่ประธานจัดงาน ขวัญชัย ปภัสร์พงษ์ บริษัท สื่อสากล จำกัด รายงานความคืบหน้าของงาน ออกมาเป็นระยะ ล่าสุดเตรียมเปิดให้จองพื้นที่งานอย่างเป็นทางการต้นเดือนหน้า เพราะได้มีการจัดสรรพื้นที่ภายในชาลเลนเจอร์ 1-3 รวม 60,000 ตรม. เรียบร้อยแล้ว ขณะเดียวกันก็ได้แสดงความคิดเห็นต่อตลาดรถยนต์ในช่วงนี้ ว่า
ตลาดรถยนต์ในปีนี้จะติดลบเพียง 6-7 % เท่านั้น ขณะที่หลายฝ่ายประเมินว่าจะมีอัตราการเติบโตที่ลดลงประมาณ 10 % จากยอดรวมเมื่อปี 2558 ประกอบกับภาพรวมของอุตสาหกรรมในไตรมาสแรกที่ผ่านมาได้รับผลกระทบพอสมควรจากการปรับโครงสร้างภาษีที่เริ่มใช้เมื่อวันที่ 1 ม.ค. 59 ทำให้ราคารถปรับเพิ่มขึ้น ผู้บริโภคเลยเร่งซื้อไปเมื่อปลายปีที่แล้วหลายหมื่นคัน
ช่วงไตรมาส 2 และ 3 ยังอยู่ในช่วงฤดูร้อนและฝน ส่งผลให้ตลาดเงียบเหงา แต่ในช่วงไตรมาส 4 คาดว่าตลาดจะกลับมาคึกคักอีกครั้ง เนื่องจากมีตัวบอกเหตุว่าตลาดจะฟื้นตัว เพราะรถจากโครงการรถคันแรก ที่มีเงื่อนไขต้องครอบครองรถไม่น้อยกว่า 5 ปี จะสิ้นสุดในเดือน ต.ค. ปีนี้ ซึ่งหากมองย่อนกลับไปในโครการรถคันแรก จะเห็นว่ามียอดที่โตขึ้นถึง 6 แสนกว่าคัน โดยในจำนวนนี้คาดว่าจะนำรถกลับเข้าสู่ระบบขายแล้วซื้อใหม่ หรือซื้อรถใหม่เพิ่มขึ้นอีกไม่น้อยกว่า 20 % บริษัทรถยนต์ก็จะเปิดตัวสินค้าใหม่อีกมาก
นอกจากนี้ การอนุมัติงบประมาณรายจ่ายของภาครัฐในเรื่องการก่อสร้างระบบสาธารณูปโภคและระบบสาธารณูปโภคและระบบโครงสร้างพื้นฐานต่าง ๆจะนำเงินเข้าระบบ ทำให้ผู้บริโภคมีเงินจับจ่ายใช้สอยกันมากขึ้น โดยเฉพาะการซื้อที่อยู่อาศัย รถยนต์ และการใช้จ่ายส่วนตัว
สำหรับภาพรวมความต้องการรถยนต์ในประเทศไทย มองว่ารถประเภทครอสโอเวอร์ หรือ เอสยูวี ที่ตอนนี้แบ่งออกเป็น 3 ตลาด คือ ครอสส์โอเวอร์ขับเคลื่อน 4 ล้อ ตลอดเวลา ,เอสยูวี ระบบขับเคลื่อนพาร์ทไทม์ ลุยมากขึ้น ,พีพีวี มีพื้นฐานมาจากรถปิกอัพที่ปัจจุบันได้ปรับเปลี่ยนรูปลักษณ์เหมือนกับรถ เอสยูวี จะได้รับความนิยมมากขึ้น
โดยเฉพาะรถครอสส์โอเวอร์ ซึ่งเป็นตลาดเกิดใหม่ที่คนไทยเริ่มหันมานิยมเนื่องจากเป็นรถที่มีอรรถประโยชน์หลากหลาย ทั้งลุยหนัก ลุยพอสมควร และใช้ในเมือง
ส่วนพีพีวี เป็นรถที่ได้เปรียบเนื่องจากมีพื้นฐานจากรถปิกอัพ แต่ปีนี้มีราคาเพิ่มขึ้นจากการปรับโครงสร้างภาษีใหม่ นอกจากนี้ผู้ผลิตรถยนต์หันมาผลิตรถครอสส์โอเวอร์กันมากขึ้น เห็นได้จากรถที่เปิดตัวใหม่ในขณะนี้จะเน้นไปทางคอรสส์โอเวอร์บางบริษัทเปิดตัว 1-2 รุ่น มีหลายแบบ หลายขนาดให้เลือก
ตลาดรถยนต์ในปีนี้จะติดลบเพียง 6-7 % เท่านั้น ขณะที่หลายฝ่ายประเมินว่าจะมีอัตราการเติบโตที่ลดลงประมาณ 10 % จากยอดรวมเมื่อปี 2558 ประกอบกับภาพรวมของอุตสาหกรรมในไตรมาสแรกที่ผ่านมาได้รับผลกระทบพอสมควรจากการปรับโครงสร้างภาษีที่เริ่มใช้เมื่อวันที่ 1 ม.ค. 59 ทำให้ราคารถปรับเพิ่มขึ้น ผู้บริโภคเลยเร่งซื้อไปเมื่อปลายปีที่แล้วหลายหมื่นคัน
ช่วงไตรมาส 2 และ 3 ยังอยู่ในช่วงฤดูร้อนและฝน ส่งผลให้ตลาดเงียบเหงา แต่ในช่วงไตรมาส 4 คาดว่าตลาดจะกลับมาคึกคักอีกครั้ง เนื่องจากมีตัวบอกเหตุว่าตลาดจะฟื้นตัว เพราะรถจากโครงการรถคันแรก ที่มีเงื่อนไขต้องครอบครองรถไม่น้อยกว่า 5 ปี จะสิ้นสุดในเดือน ต.ค. ปีนี้ ซึ่งหากมองย่อนกลับไปในโครการรถคันแรก จะเห็นว่ามียอดที่โตขึ้นถึง 6 แสนกว่าคัน โดยในจำนวนนี้คาดว่าจะนำรถกลับเข้าสู่ระบบขายแล้วซื้อใหม่ หรือซื้อรถใหม่เพิ่มขึ้นอีกไม่น้อยกว่า 20 % บริษัทรถยนต์ก็จะเปิดตัวสินค้าใหม่อีกมาก
นอกจากนี้ การอนุมัติงบประมาณรายจ่ายของภาครัฐในเรื่องการก่อสร้างระบบสาธารณูปโภคและระบบสาธารณูปโภคและระบบโครงสร้างพื้นฐานต่าง ๆจะนำเงินเข้าระบบ ทำให้ผู้บริโภคมีเงินจับจ่ายใช้สอยกันมากขึ้น โดยเฉพาะการซื้อที่อยู่อาศัย รถยนต์ และการใช้จ่ายส่วนตัว
สำหรับภาพรวมความต้องการรถยนต์ในประเทศไทย มองว่ารถประเภทครอสโอเวอร์ หรือ เอสยูวี ที่ตอนนี้แบ่งออกเป็น 3 ตลาด คือ ครอสส์โอเวอร์ขับเคลื่อน 4 ล้อ ตลอดเวลา ,เอสยูวี ระบบขับเคลื่อนพาร์ทไทม์ ลุยมากขึ้น ,พีพีวี มีพื้นฐานมาจากรถปิกอัพที่ปัจจุบันได้ปรับเปลี่ยนรูปลักษณ์เหมือนกับรถ เอสยูวี จะได้รับความนิยมมากขึ้น
โดยเฉพาะรถครอสส์โอเวอร์ ซึ่งเป็นตลาดเกิดใหม่ที่คนไทยเริ่มหันมานิยมเนื่องจากเป็นรถที่มีอรรถประโยชน์หลากหลาย ทั้งลุยหนัก ลุยพอสมควร และใช้ในเมือง
ส่วนพีพีวี เป็นรถที่ได้เปรียบเนื่องจากมีพื้นฐานจากรถปิกอัพ แต่ปีนี้มีราคาเพิ่มขึ้นจากการปรับโครงสร้างภาษีใหม่ นอกจากนี้ผู้ผลิตรถยนต์หันมาผลิตรถครอสส์โอเวอร์กันมากขึ้น เห็นได้จากรถที่เปิดตัวใหม่ในขณะนี้จะเน้นไปทางคอรสส์โอเวอร์บางบริษัทเปิดตัว 1-2 รุ่น มีหลายแบบ หลายขนาดให้เลือก