“เราขายยางที่เราใช้แข่ง เราแข่งด้วยยางที่เราขาย”
ประโยคข้างบนคือ สโลแกนของพิเรลลี(Pirelli) ยางยี่ห้อดังสัญชาติอิตาเลียนที่เข้าใจเล่นคำคิดประดิษฐ์ข้อความเพื่อสื่อสารการตลาดถึงกลุ่มผู้บริโภค สั้น กระชับ จำง่าย ความหมายตรงตัว ฟังเพลินๆ ไม่คิดว่าจะเกี่ยวกับการโฆษณาหรือตั้งใจมาขายของด้วยซ้ำ ทว่าแก่นแท้ของประโยคบอกเล่าธรรมดากลับสะท้อนคุณภาพของผลิตภัณฑ์ได้เป็นอย่างดี
ที่สำคัญเขาไม่ได้บังคับให้เราเชื่อ แต่เชื่อเถอะว่าเขามีวิธี...
เมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา ค่ายยางชั้นนำจากแดนมักโรนีจัดกิจกรรมทดสอบยางรถจักรยานยนต์ซีรีย์ใหม่ล่าสุด “Diablo Rosso III” โดยเชิญเหล่าตัวแทนจำหน่ายในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก พร้อมผู้สื่อข่าวสายสองล้อร่วมสัมผัสสมรรถนะแบบบิดหมดปลอกกันถึงที่สนามเซปัง อินเตอร์เนชันแนล เซอร์กิต ประเทศมาเลเซีย
Diablo Rosso III เป็นหนึ่งในยางตระกูล Diablo หรือยางถนนที่ใช้สนามแข่งขันเสมือนห้องแลปในการพัฒนาเทคโนโลยีสู่ความเป็นเลิศด้านประสิทธิภาพ ด้วยประสบการณ์ 12 ปีจากการมีส่วนร่วมในสังเวียนชิงเจ้าความเร็วระดับโลกอย่างรายการเวิล์ดซูเปอร์ไบค์(พิเรลลีเป็นพาร์ทเนอร์ผลิตยางแข่งรายการนี้ตั้งแต่ปี 2004) โดยมีเป้าหมายหวังยกระดับคุณภาพการใช้งานให้เหนือกว่า Rosso II ไปอีกขั้นในทุกๆ ด้าน
สำหรับประเด็นหลักคุณสมบัติเด่นอยู่ที่สามารถนำไปวิ่งบนถนนหรือพื้นแทร็กที่มีความหลากหลายกว่าเดิม ยามเจอกรวด หิน(ก้อนเล็กๆ) ทราย หรือสภาพพื้นเปียก พร้อมมอบความมั่นใจให้ผู้ขับขี่ด้วยการคงเอกลักษณ์ดอกยางลวดลาย “สายฟ้า” จากซีรีย์ Diablo Supercorsa และดีไซน์เส้นเสริมด้านข้างรูปแบบใหม่เพื่อสิ่งนี้โดยเฉพาะ รวมถึงการเพิ่มพื้นผิวสัมผัสขณะพับรถ จากการขยายองศาความโค้งมนของหน้ายางเพิ่มขึ้น 5% และ 7% ในทางสูงและกว้าง ตามลำดับ
ขณะที่เทคโนโลยีภายในเป็นการผสมผสานส่วนประกอบทางเคมี ซึ่งมีผลต่อการรักษาอุณหภูมิยางให้มีความพร้อมสำหรับการยึดเกาะถนนได้อย่างรวดเร็ว ตลอดจนการแบ่งความต่างของเนื้อยางออกเป็นสองส่วน เพื่อทำหน้าที่ขณะวิ่งในทางตรงและทางโค้ง โดยมีผลลัพธ์ต่อเนื่องถึงอายุการใช้งานที่ยาวนานขึ้น ยืนยันการันตีว่าได้มากกว่า 15,000 กิโลเมตร
หลังเสร็จสิ้นคำบอกจึงได้เวลาพิสูจน์สรรพคุณผ่านวิธีที่เรียบง่าย ชัดเจน ไม่ซับซ้อน อยากรู้ต้องลอง และแน่นอนไม่จำเป็นต้องเชื่อ
โดยในช่วงการขับขี่ที่สนามเซปังฯ เซอร์กิต เหมือนสวรรค์เป็นใจสั่งฟ้าสาดปอยฝนให้พอเปียกชื้น ไม่ถึงกับชุ่มฉ่ำ เพียงคล้ายต้องการให้พื้นแทร็กที่เพิ่งปรับปรุงใหม่เหมาะสมกับการเทสยางถนนที่ใช้ขี่ลุยฝนได้ด้วย โดยคณะผู้ร่วมทดสอบถูกแบ่งออกเป็น 4 กลุ่มตามระดับทักษะความสามารถ มีเวลาลงแทร็กกลุ่มละ 4 รอบ รอบละ 15 นาที และที่สุดแล้วแต่ละกลุ่มหรือแต่ละคนจะได้สัมผัสสมรรถนะผลิตภัณฑ์ใหม่รวมทั้งสิ้นครบหนึ่งชั่วโมงพอดี
และในหนึ่งชั่วโมงนี้เองที่ทำให้เราได้รู้ว่า เพราะอะไรพิเรลลีจึงมั่นใจและกล้าท้าพิสูจน์คุณสมบัติกันถึงสนามแข่งระดับโลก แม้พื้นแทร็กจะชื้นและเปียกเป็นหย่อมๆ แต่การยึดเกาะไม่ได้ลดหย่อนอย่างที่คิด ในทางตรงข้ามยังให้ความรู้สึกที่มั่นคง อย่างในโค้งไฮสปีดความเร็วสูงโค้งที่ 3 ก้มมองตัวเลขหน้าปัดแตะถึง 170 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ไม่เพียงเท่านั้น ยิ่งช่วงสุดทางตรงยัดความเร็วมาประมาณ 260-280 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เบรกหนักๆ ก่อนพับรถ ยางก็ยังไม่แสดงอาการใดๆ ออกมาให้ตื่นเต้นกังวลใจ
ขี่ๆ ไป เริ่มสับสน นี่ยางถนนหรือสำหรับแข่งขัน
อย่างไรก็ตาม ความโดดเด่นทั้งหมดของ Diablo Rosso III ที่พิเรลลีพยายามนำเสนอ บางอย่างแม้ไม่ชัดเจน โดยเฉพาะการใช้งานบนท้องถนนและวิ่งบนพื้นเปียกชุ่มแบบมีน้ำขังคงต้องเว้นวรรคเอาไว้ก่อน ถึงอย่างไรตอนนี้ก็พอรับรู้และสรุปเบื้องต้นในระดับหนึ่งได้แล้วว่า
สิ่งที่พิเรลลีบอกกับสิ่งที่เราสัมผัสได้ในสนามเซปังฯ เซอร์กิต คือ สิ่งเดียวกัน
แต่มากกว่านั้นหลังทดสอบ แค่เหมือนโดนหลอกว่าไม่ใช่ยางแข่ง
หมายเหตุ-บริษัท คอมเพททิชันนี่ โมโต จำกัด ตัวแทนจำหน่ายยางพิเรลลี่อย่างเป็นทางการในประเทศไทย ชี้แจงว่า ปัจจุบันยางพิเรลลี่ทุกเส้นที่จำหน่ายจะต้องมาพร้อมการรับประกัน 5 ปี ดังนั้นก่อนซื้ออย่าลืมถามหาใบรับประกันจากผู้ขายทุกครั้ง
***ขอขอบคุณ Alpinestars Thailand สำหรับอุปกรณ์ Riding Gear (www.1goal1visionth.com โทร. 02-000-7885-6)***
ติดตามข่าวสารและความเคลื่อนไหวในวงการยานยนต์ได้ที่หน้าแฟนเพจ MGR Motoring